ถ้ารักเที่ยว..รักงานบริการ..ต้องเรียนการท่องเที่ยว
สาขาที่เรียน.. เรียนยังไง.. เรียนอะไรบ้าง?
การเรียนสาขาการท่องเที่ยว จริงๆแล้วจะเน้นภาคปฏิบัติมากกว่าการเรียนอยู่ในห้อง เพราะว่าประเทศไทยมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามมากมาย รายละเอียดของสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละที่เยอะมาก (นั่นแหละ ตัวยากเลย) ไปออกทริปแต่ละครั้งก็มีจะฝึก และทดสอบการเป็นมัคคุเทศก์ ส่วนภาคทฤษฎีก็จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการมีใจรักในงานบริการ (Service mind) เพราะเรียนท่องเที่ยวไม่ได้จบไปทำงานในออฟฟิศ ต้องออกนอกสถานที่ตลอด เจอผู้คนมากมายหลายแบบ การมีใจรักในงานบริการ (Service mind) ถือเป็นหัวใจสำคัญในการเรียนท่องเที่ยวเลยทีเดียว และมีการเรียนการสอนการท่องเที่ยวในลักษณะต่างๆ ที่กำลังเป็นที่นิยมในขณะนี้ เช่น ทัวร์เพื่อสุขภาพ ทัวร์แบบทัศนศึกษา และทัวร์กีฬา เช่น กีฬากอล์ฟ เป็นต้น ในการเรียนท่องเที่ยว แน่นอนว่า จะต้องเน้นเรื่องภาษา โดยเฉพาะภาษาอังกฤษที่เป็นภาษาสากล และยังต้องมีภาษาที่สามอีก เช่น ภาษาจีน ภาษาญี่ปุ่น มีการเดินทางทั้งในและต่างประเทศ ไม่ว่าจะโดยทางรถยนต์ ทางเครื่องบิน ดังนั้นมัคคุเทศก์ควรจำคำศัพท์ต่างๆ ที่จำเป็นในการเดินทาง เช่น จุดบริการต่าง ๆ ในสนามบิน แผนกบริการในโรงแรม เพื่อแนะนำและบริการให้กับนักท่องเที่ยว ดังนั้นการเรียนท่องเที่ยวก็จะได้เรียนทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฎิบัติ ได้ออกทริปไปตามสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญต่าง ๆ ฝึกการเป็นมัคคุเทศก์ ไปดูงานที่โรงแรม และฝึกงานเสมือนว่าเราเป็นพนักงานของบริษัทจริง ๆ ซึ่งเป็นอะไรที่แปลกใหม่ สร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ตัวเราเองอีกด้วย
มีคนถามว่าสาขาที่เรียนเอาไปใช้ทำอะไรได้บ้าง?
การเรียนสาขาวิชาการท่องเที่ยว หลายๆคนคิดว่าจบไปแล้ว ก็ไปเป็นมัคคุเทศก์อาชีพเดียว จริง ๆ และมีอีกหลายอาชีพที่เราสามารถทำได้ เช่น อาชีพเกี่ยวกับสายการบิน โรงแรม รีสอร์ท หรืองานที่อยู่ในหน่วยงานราชการ เช่น ตำรวจท่องเที่ยว เป็นต้น
บอกเคล็ดลับการเรียนในสาขานี้อย่างคนมีใจรัก
เรียนสาขาวิชาการท่องเที่ยวอย่างคนมีใจรัก สาขาวิชานี้เน้นเรื่องของการเที่ยว ดังนั้นผู้ที่เรียนจึงต้องมีพื้นฐานในการชอบท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ ชอบเดินทางไปในสถานที่ต่าง ๆ ชอบพูดคุย พบปะผู้คน และที่สำคัญ คือ มีใจรักการบริการ(Service mind) ส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ในระหว่างเรียน เช่น ภาษา ความกล้าแสดงออก ปฎิภาณไหวพริบ ซึ่งเราสามารถทำได้ไม่ยากอย่างที่คิดเลย
อยากบอกน้องๆ ที่จะเลือกคณะนี้ว่า??
น้องๆ ที่อยากจะเรียนท่องเที่ยว ขอบอกตรงๆเลยว่า เราแทบจะเป็นหนึ่งในไม่กี่คนเลยที่เลือกเรียนท่องเที่ยวเพราะใจรัก ส่วนมากพอเวลาใครถามทำไมถึงเรียนท่องเที่ยว ก็ตอบว่าเพราะชอบเที่ยว จบ เที่ยวไหน เที่ยวอะไร เที่ยวตามผับ ตามเทค ไม่ใช่ ถึงนั่นจะเป็นหนึ่งในการท่องเที่ยว แต่จริงๆแล้วมันไม่ใช่หัวใจสำคัญของการท่องเที่ยว มีอีกหลายคนที่พูดว่า เรียนท่องเที่ยวเพราะคิดว่าง่ายที่สุด ไปๆมาๆต้องมานั่งเรียนภาษาอังกฤษที่เกลียดมาก มันไม่ใช่เลยท่องเที่ยวไม่ใช่สาขาวิชาที่ห่วยอย่างที่หลายคนเข้าใจ จริงๆแล้วการจะเรียนอะไรมันก็ไม่ใช่ว่าจะเก่งกว่า หรือห่วยกว่า ทุกสาขาวิชามีความสำคัญทั้งนั้น แตกต่างกันไปตามเนื้อหาและการนำไปปฏิบัติ ใครที่คิดจะเรียนท่องเที่ยวเพราะคิดว่ามันง่ายที่สุดขอให้คิดใหม่ทำใหม่ได้ เลย มันไม่ใช่อย่างงั้นแน่นอน แต่ถ้าใครอยากเรียนเพราะสนใจจริงๆ ชอบจริงๆ อันนั้นแหละถึงจะสนับสนุน
แล้วทำไหมต้องเรียนการท่องเที่ยวที่โยนก?
เรียนท่องเที่ยวที่มหาวิทยาลัยโยนก เน้นการเรียนการสอนที่ให้นักศึกษาทุกคนได้เรียนและฝึกปฏิบัติจริง มหาวิทยาลัยโยนกได้ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยผลิตมัคคุเทศก์สู่ภาคการท่องเที่ยว เมื่อนักศึกษาสำเร็จการศึกษา สามารถนำใบแสดงผลการเรียนไปยื่นที่สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เพื่อขอบัตรประจำตัวมัคคุเทศก์ทั่วไป นำมาประกอบอาชีพได้เลย และขณะที่เรียนอยู่นักศึกษาจะได้ออกทริปท่องเที่ยวตามเส้นทางที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศได้กำหนด จำนวน 8 เส้นทางทั่วประเทศ นอกจากนี้นักศึกษายังมีโอกาสที่จะได้ไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ และได้ไปฝึกงานที่ต่างประเทศ อย่างเช่นรุ่นพี่ของเราที่ได้ไปฝึกงานที่ประเทศจีนด้วย
วันนี้มีทริปที่น่าสนใจ สนุกมากมาย จากการเรียนท่องเที่ยวที่โยนกมาฝากกัน
ล่องแพอย่างสนุกสนานที่อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่
ท่องเที่ยวตื่นตาตื่นใจกับดอกบัวตองที่สวยงามที่ดอยแม่อูคอที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน
ทริปนี้ได้ดำน้ำที่หมู่เกาะเสม็ดอย่างสนุก มีอะไรมากมายให้ทุกคนได้ตื่นตาตื่นใจกับโลกใต้น้ำกัน จนไม่มีคนที่จะอยากขึ้นมาเลย
ทานของอร่อยที่ตลาดน้ำอัมพวา ดูจากหน้าได้ว่าอร่อยมากมาย
ใครอยากเรียนต้องได้เรียน โครงการปั้นฝันช่วยคุณได้