ชงเพิ่มเงินล่อเด็กเรียนวิทย์
"ไชยยศ" เครียด! เอกชนดูดเด็กโอลิมปิกชิงให้ทุนตัดหน้ารัฐบาล จบแล้วมีงานทำแถมเงินเดือนสูงกว่าราชการหลายเท่า ทำอะไรไม่ถูกงัวเงียตั้งคณะทำงานหาแนวทางจูงใจ เตรียมเสนอ ครม.ตั้งเงินเดือนเฉพาะสาขาหวังเด็กสนใจเรียนวิทย์เพิ่ม
เมื่อ เวลา 16.00 น. วันที่ 26 ส.ค. ที่สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) นายไชยยศ จิรเมธากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับคณะกรรมการกำหนดนโยบายการดำเนินงานพัฒนาและ ส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาการปรับแผนการผลิตและพัฒนาคนด้านวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี โครงการพัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี (พสวพ.) ในด้านต่างๆ เช่น อัตราเงินทุนการศึกษาของนักเรียนทุนในประเทศ ที่ยังไม่มีความสอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน การขยายศูนย์ในโครงการเพื่อกระจายโอกาสการรับทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนที่ อยู่ในภูมิภาค การขยายรูปแบบการเรียนการสอนสำหรับพัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษให้ มากขึ้น การเพิ่มจำนวนทุนให้นักเรียนที่มีศักยภาพด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี ได้มีโอกาสไปศึกษาต่อในต่างประเทศเพื่อรองรับความต้องการของประเทศ และการเพิ่มงบดำเนินการเพื่อกระตุ้นในนักเรียนเข้าใจและเห็นเส้นทางอาชีพนัก วิทยาศาสตร์ในประเทศไทย
นายไชยยศกล่าว ต่อว่า โดยที่ประชุมได้มีมติว่าจะต้องเร่งพัฒนาเรื่องดังกล่าวอย่างเร่งด่วน จึงได้ตั้งคณะทำงานซึ่งประกอบด้วยตัวแทนจาก สสวท. สำนักงบประมาณกระทรวงวิทยาศาสตร์ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) โดยได้มอบหมายให้คณะทำงานชุดนี้ไปศึกษาแนวทางการพัฒนาโครงการเบื้องต้นเพื่อ สร้างแรงจูงใจให้นักเรียนสนใจมาเรียนทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพิ่ม ขึ้น เนื่องจากเป็นสาขาที่ขาดแคลนและเป็นความต้องการของประเทศ
"ที่ ผ่านมาพบว่ามีนักเรียนสนใจเรียนด้านวิทยาศาสตร์มาก และจากสถิติยังพบว่านักเรียนที่ไปแข่งโอลิมปิกวิชาการปีละ 23 คน ซึ่งผู้ที่ได้รับการคัดเลือกในแต่ละปีจะได้รับทุนการศึกษาจนจบปริญญาเอก แต่กลับพบว่านักเรียนทุนกว่า 50% ไม่ขอรับทุนของรัฐบาล แต่ไปรับทุนของเอกชนแทน เนื่องจากทุนของเอกชนเมื่อจบแล้วจะไม่มีข้อผูกมัด รวมทั้งรับประกันการมีงานทำ และที่สำคัญจะได้เงินเดือนสูงกว่าเด็กที่รับทุนของรัฐบาลหลายเท่า
ดังนั้นรัฐบาลจึงต้องกลับมาทบทวนในเรื่องของการสร้างแรงจูงใจโดยเฉพาะเรื่อง ของเงินเดือนที่อาจจะต้องเพิ่มให้กับผู้ที่เรียนในสาขานี้เป็นการเฉพาะ ซึ่งจะต้องให้สูงกว่าสาขาอื่นและเทียบเท่ากับภาคเอกชน เนื่องจากคนที่มาเรียนในสาขานี้ก็ต้องเรียนหนักไม่น้อยไปกว่าแพทย์จึงควร ต้องได้ค่าตอบแทนที่สูงเช่นเดียวกัน" นายไชยยศกล่าว และคณะทำงานชุดนี้จะสามารถสรุปแนวทางโครงการต่างๆ ได้ภายใน 3 สัปดาห์ จากนั้นจะเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขอความเห็นชอบต่อไป.
ขอขอบคุณข้อมูลจาก