การรับสมัครสอบคัดเลือกบุคคลเพื่อรับทุนการศึกษาต่อต่างประเทศ
ระดับปริญญาโทควบเอกและปริญญาเอก ประจำปีการศึกษา 2553
ระดับปริญญาโทควบเอกและปริญญาเอก ประจำปีการศึกษา 2553
เพื่อ เป็นการสนับสนุนให้อาจารย์ประจำและบุคคลภายนอกได้เพิ่มพูนความรู้ระดับ ปริญญาโทและปริญญาเอก มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยจึงพิจารณาให้ทุนการศึกษาต่อต่างประเทศ ประจำปีการศึกษา 2553 ทั้งในระดับปริญญาโทควบเอกและปริญญาเอก ดังนี้
คณะ | สาขาวิชา | ระดับปริญญา | จำนวนทุน ที่เปิดรับ |
บริหารธุรกิจ | บริหารธุรกิจระหว่างประเทศ | เอก (เน้นไปศึกษาประเทศ สหรัฐอเมริกาและแคนาดา) | 2 |
คอมพิวเตอร์ธุรกิจ | 2 | ||
การตลาด | 1 | ||
การจัดการ | 1 | ||
วิทยาศาสตร์ | คอมพิวเตอร์แอนิเมชั่น | โทควบเอก / เอก (เน้นไปศึกษาประเทศ สหรัฐอเมริกาและแคนาดา) | 1 |
7 |
1. คุณสมบัติของผู้มีสิทธิ์สมัครสอบ
- มีอายุไม่เกิน 40 ปี นับถึงวันสุดท้ายของการรับสมัคร (วันที่ 15 กันยายน 2553)
- ถ้าเป็นอาจารย์ประจำของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยต้องมีอายุงานไม่ต่ำกว่า 1 ปี
- มี คะแนนภาษาอังกฤษ TOEFL ไม่ต่ำกว่า 79 (Internet-Based) / 213 (Computer–Based) / 550 (Paper-Based) หรือ คะแนน IELTS ไม่ต่ำกว่า 6.5 หรือ คะแนน GMAT ไม่ต่ำกว่า 550 โดยผลการสอบต้องไม่เกิน 2 ปี (นับถึงวันที่สมัครสอบ)
- ผู้สมัครศึกษาต่อระดับปริญญาโทควบเอก
ต้องเป็นผู้ได้รับวุฒิปริญญาตรีหรือประกาศนียบัตรเทียบเท่าปริญญาตรี และมีผลการศึกษาเฉลี่ยตลอดหลักสูตรการศึกษาไม่ต่ำกว่า 3.00 หรือเทียบเท่า - ผู้สมัครศึกษาต่อระดับปริญญาเอก
ต้องเป็นผู้ได้รับวุฒิปริญญาโทหรือประกาศนียบัตรเทียบเท่าปริญญาโท และมีผลการศึกษาเฉลี่ยตลอดหลักสูตรการศึกษาไม่ต่ำกว่า 3.25 หรือเทียบเท่า
บุคคลที่สำเร็จการศึกษาจากประเทศอังกฤษ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ต้องมีผลการศึกษาในระดับ Pass ไม่เกิน 40% ของรายวิชาทั้งหมดที่เรียนในระดับปริญญาโท - ต้อง ไม่เป็นผู้อยู่ระหว่างการรับทุนจากสถาบันหรือองค์กรใด หรือหากเคยได้รับทุนจากสถาบันหรือองค์กรใดไปศึกษา ณ ต่างประเทศมาแล้ว ต้องเป็นผู้ซึ่งหมดภาระผูกพันในการปฏิบัติงานชดใช้ทุนตามสัญญาที่ได้ทำไว้ กับสถาบันหรือองค์กรนั้น ๆ แล้ว
- เป็นผู้ที่ไม่เคยและไม่อยู่ในระหว่างการถูกฟ้องคดีแพ่งหรือคดีอาญา
2. กำหนดการรับสมัคร
- เปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 2 สิงหาคม – 15 กันยายน 2553
- การ ยื่นใบสมัครผู้สมัครสามารถยื่นใบสมัครด้วยตนเองหรือจะให้ผู้อื่นมายื่นแทนก็ ได้ที่ ฝ่ายวิชาการ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย (อาคาร 10 ชั้น 5) ตั้งแต่เวลา 9.00 – 16.00 น. (หยุดวันเสาร์ – อาทิตย์ และวันนักขัตฤกษ์)
3. กำหนดการสอบ
กิจกรรม | วัน – เวลา | สถานที่ |
1.รับสมัคร | 2 สิงหาคม – 15 กันยายน 2553 | มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย (อาคาร 10 ชั้น 5) |
2.ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบข้อเขียน | วันศุกร์ที่ 17 กันยายน 2553 | เว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยwww.utcc.ac.th |
3.สอบข้อเขียน : วิชาเชาว์ปัญญาและ ความสามารถในการวิเคราะห์ (Aptitude Test) | วันจันทร์ที่ 20 กันยายน 2553 9.30 - 11.00 น. | ห้องเรียน 3 (Ex-MBA) (อาคาร 7 ชั้น 12) |
4.ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ | วันอังคารที่ 21 กันยายน 2553 | เว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยwww.utcc.ac.th |
5.สอบสัมภาษณ์ | วันอังคารที่ 28 กันยายน 2553 | ห้องประชุมสภามหาวิทยาลัย (อาคาร 10 ชั้น 6) |
6.ประกาศผลสอบ | วันจันทร์ที่ 1 ตุลาคม 2553 | เว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยwww.utcc.ac.th |
มหาวิทยาลัย จะประกาศรายชื่อเฉพาะผู้มีสิทธิ์ได้รับทุน หากผู้มีสิทธิ์ได้รับทุนสละสิทธิ์การรับทุนหรือถูกเพิกถอนการให้ทุน หรือขาดคุณสมบัติที่จะรับทุน มหาวิทยาลัยจะพิจารณาให้ผู้ที่ได้คะแนนในลำดับถัดไปของทุนของคณะนั้น และยังมิได้รับทุนใดๆ ในการสอบครั้งเดียวกันนี้เป็นผู้มีสิทธิ์ได้รับทุนแทน ทั้งนี้ ต้องภายในระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์ได้รับทุน
4. เอกสารหลักฐานที่จะต้องยื่นพร้อมใบสมัคร
- สำเนา คะแนนภาษาอังกฤษ TOEFL ไม่ต่ำกว่า 79 (Internet-Based) / 213 (Computer–Based) / 550 (Paper-Based) หรือ คะแนน IELTS ไม่ต่ำกว่า 6.5 หรือ คะแนน GMAT ไม่ต่ำกว่า 550 คะแนน จำนวน 1 ชุด โดยผลการสอบต้องไม่เกิน 2 ปี (นับถึงวันที่สมัครสอบ)
- สำเนา ใบปริญญาบัตรพร้อมสำเนาใบรายงานผลการศึกษา (Transcript) ระดับปริญญาตรี จำนวน 1 ชุด (วันที่สำเร็จการศึกษา ภายในวันที่ 15 กันยายน 2553)
- สำเนา ใบปริญญาบัตรพร้อมสำเนาใบรายงานผลการศึกษา (Transcript) ระดับปริญญาโท จำนวน 1 ชุด (วันที่สำเร็จการศึกษา ภายในวันที่ 15 กันยายน 2553)
- หนังสือรับรองที่ออกโดยผู้บังคับบัญชา/อาจารย์ที่เคยสอน และ/หรือ เพื่อนร่วมงาน จำนวน 3 ฉบับ
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 1 ชุด
หมายเหตุ
- มหาวิทยาลัยฯจะยกเว้นการแสดงผลคะแนนภาษาอังกฤษ TOEFL หรือ IELTS เฉพาะผู้ที่มีคุณสมบัติในกรณีใดกรณีหนึ่งหรือทั้งสองกรณี ดังต่อไปนี้
- สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีและปริญญาโทในต่างประเทศ (ทั้งสองระดับการศึกษา)
- ได้รับการตอบรับเข้าศึกษาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำในต่างประเทศอย่างไม่มีเงื่อนไข - ผู้สมัครมีสิทธิ์สมัครสอบทุนได้คนละ 1 สาขาวิชา เมื่อสมัครแล้วจะขอถอนหรือขอเปลี่ยนสาขาวิชาที่สมัครสอบไว้อีกไม่ได้
- ใน การสมัครสอบ ผู้สมัครจะต้องตรวจสอบและรับรองตนเองว่ามีคุณสมบัติตรงตามประกาศรับสมัคร จริง หากคณะกรรมการได้ตรวจสอบคุณสมบัติจากเอกสารและหลักฐานแล้วปรากฏภายหลังว่า ผู้ใดมีคุณสมบัติไม่ตรงตามประกาศรับสมัคร จะถือว่าผู้นั้นเป็นผู้ขาดคุณสมบัติทันที
ผู้ สมัครจะต้องกรอกรายละเอียดในใบสมัครให้ชัดเจน ครบถ้วนและถูกต้อง สำเนาหลักฐานทุกฉบับของผู้สมัครต้องเขียนรับรองว่า สำเนาถูกต้อง และลงชื่อ-นามสกุลและวันที่กำกับไว้ด้วย ทั้งนี้มหาวิทยาลัยจะพิจารณาเฉพาะผู้สมัครที่ยื่นเอกสารครบถ้วนตามประกาศนี้ เท่านั้น และขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับเอกสารเพิ่มเติมใดๆ หลังจากที่ผู้สมัครยื่นเอกสารแล้วหรือวันที่มหาวิทยาลัยปิดรับสมัครแล้ว
5. การสอบและเกณฑ์การตัดสินคณะกรรมการสอบคัดเลือกบุคคลเพื่อรับทุนศึกษาต่อต่างประเทศ จะพิจารณาความเหมาะสมของผู้สมัคร ดังนี้
- พิจารณาใบสมัคร จากประวัติส่วนตัวและประวัติการศึกษาของผู้สมัครเป็นเบื้องต้น
- คัดเลือกผู้ผ่านการประเมินขั้นต้นเข้าสอบข้อเขียน วิชาเชาว์ปัญญาและความสามารถในการวิเคราะห์ (Aptitude Test)
- พิจารณาผลการสอบข้อเขียนและคัดเลือกผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเข้ารับการสอบสัมภาษณ์
- การ คัดเลือกผู้รับทุนจะพิจารณาจากผลสอบข้อเขียนและความเหมาะสมในด้านต่าง ๆ ที่จำเป็นสำหรับการไปศึกษาต่อต่างประเทศ เช่น พื้นความรู้ที่จำเป็นสำหรับการไปศึกษาต่อในสาขาวิชาที่สมัคร ความสามารถทางภาษาอังกฤษ ความตั้งใจจริง ทัศนคติต่อการรับทุนไปศึกษาต่อต่างประเทศ และการกลับมาเป็นอาจารย์ ประสบการณ์ ท่วงทีวาจา อุปนิสัย อารมณ์ การปรับตัวเข้ากับสังคมและสิ่งแวดล้อม เชาวน์ปัญญา และบุคลิกภาพ อื่น ๆ เป็นต้น
6. การตรวจสุขภาพกายและสุขภาพจิต
ผู้ รับทุนต้องไปรับการตรวจสุขภาพร่างกาย ณ โรงพยาบาลของรัฐหรือเอกชนที่มหาวิทยาลัยกำหนดและผู้รับทุนต้องส่งผลการตรวจ มายังฝ่ายวิชาการ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ส่วนการตรวจสุขภาพจิต ผู้รับทุนต้องไปรับการตรวจ ณ โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยาเท่านั้น โดยมหาวิทยาลัยจะเป็นผู้นัดหมายวัน เวลา ให้แก่ผู้รับทุนเข้ารับการตรวจ ทั้งนี้โรงพยาบาลจะส่งผลการตรวจมายังมหาวิทยาลัยโดยตรง
7. การสมัครสถานศึกษาและการเดินทาง
ผู้ได้รับทุนจะต้องสมัครเข้าเรียนในสถานศึกษาตามแผนการศึกษาที่มหาวิทยาลัยได้กำหนดไว้ การติดต่อสถานศึกษาของผู้ได้รับทุน ต้อง ดำเนินการให้ได้รับการตอบรับจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของต่างประเทศภายในเวลา 18 เดือน นับจากวันที่สภามหาวิทยาลัยอนุมัติ และต้องเป็นสถานศึกษาที่มหาวิทยาลัยพิจารณาเห็นชอบหรืออยู่ในรายชื่อที่ มหาวิทยาลัยกำหนด สำหรับ ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการติดต่อสถานศึกษา การทดสอบทางวิชาการ เอกสาร และอื่น ๆ ตามเกณฑ์ของสถานศึกษาเป็นภาระของผู้รับทุนเองทั้งสิ้น เมื่อสถานศึกษาตอบรับและมหาวิทยาลัยอนุมัติแล้ว จึงจะให้ผู้ได้รับทุนเดินทางไปยังสถานศึกษานั้นๆ
8. การทำสัญญาและข้อผูกพันในการรับทุน
- เมื่อ ผู้ได้รับทุนได้รับอนุมัติสถานศึกษาจากมหาวิทยาลัยให้ไปศึกษาแล้วจะต้องมาทำ สัญญาการรับทุน และสัญญาค้ำประกันกับมหาวิทยาลัยให้เสร็จเรียบร้อยตามระเบียบของมหาวิทยาลัย หากไม่มาทำสัญญาในเวลาที่มหาวิทยาลัยกำหนด ถือว่าสละสิทธิ์
- ถ้า ผู้รับทุนเป็นบุคคลภายนอกจะต้องมาปฏิบัติหน้าที่เป็นอาจารย์ประจำที่ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 1 เดือน ก่อนจะเดินทางไปศึกษา ณ สถาบันที่มหาวิทยาลัยอนุมัติ
- มหาวิทยาลัย ทำสัญญาผูกพันผู้ได้รับทุนให้กลับมาปฏิบัติงานเป็นอาจารย์ประจำ ของมหาวิทยาลัยเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 2 เท่าของระยะเวลาที่ได้รับทุน
- กรณี ที่ผู้รับทุนไม่ปฏิบัติตามสัญญา ต้องชดใช้เงินให้แก่มหาวิทยาลัยเป็นจำนวน 2 เท่าของเงินทุนที่มหาวิทยาลัยได้จ่ายไปเพื่อการศึกษาของบุคคลผู้รับทุนนั้น
- ในกรณีที่ผู้รับทุนกลับมาปฏิบัติงานไม่ครบจำนวนตามสัญญา ให้ลดเงินที่จะต้องชดใช้ลงตามส่วน
9. การเพิกถอนการให้ทุนมหาวิทยาลัยจะพิจารณาเพิกถอนการให้ทุนแก่ผู้ได้รับทุน หากเข้ากรณีใดกรณีหนึ่ง ดังนี้
- ไม่ผ่านการตรวจสุขภาพกายและสุขภาพจิต
- หลีกเลี่ยง ละเลยการรายงานตัว การอบรม และการทำสัญญาตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด
- มีเหตุอันควรเชื่อว่าไม่เหมาะสมแก่การเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย
- หลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงกำหนดการเดินทางไปศึกษาต่อ ภายหลังจากที่มหาวิทยาลัยอนุมัติสถานศึกษาแล้ว
- กรณีไม่ได้รับการตอบรับเข้าศึกษาจากสถานศึกษาที่จะไปศึกษาต่อ ภายในระยะเวลา 18 เดือน นับแต่วันประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์ได้รับทุน
- กรณีเดินทางกลับมาประเทศไทย โดยไม่ได้รับอนุมัติจากหัวหน้าหน่วยงานและอธิการบดี
- กรณีที่ผู้ได้รับทุนขาดการติดต่อกับคณะวิชาต้นสังกัดเกิน 1 ปี
** ผู้ สมัครที่ผ่านการสอบคัดเลือกในครั้งนี้ จะเป็นผู้มีสิทธิ์สอบคัดเลือกเพื่อรับทุนโครงการ Fulbright-UTCC University Staff Development Program ด้วย ดังนั้น หากผู้ใดมีความประสงค์จะสมัครรับทุนในโครงการดังกล่าว ขอให้เตรียมผลสอบ TOEFL ให้พร้อม เพื่อเป็นเอกสารประกอบการสมัครในเดือนพฤษภาคม 2554 **