“ไชยยศ” ย้ำตั้งเกณฑ์สูงหวังได้ครูคุณภาพ
นาย ไชยยศ จิรเมธากร รมช.ศึกษาธิการ ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารโครงการผลิตครูพันธุ์ใหม่ เปิดเผยภายหลังการประชุมโครงการผลิตครูพันธุ์ใหม่ เมื่อวันที่ 9 ก.ย.ว่า ที่ประชุมได้อนุมัติผู้ที่ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการครูพันธุ์ใหม่นำ ร่องปีการศึกษา 2552 จำนวน 948 คน ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 2,000 คน ขณะที่มีผู้สมัคร จำนวน 2,100 คน โดยนักศึกษาดังกล่าวจะได้รับการประกันการมีงานทำ แต่ไม่มีทุนให้ และสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) จะประกาศรายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือกพร้อมพื้นที่ที่เด็กเลือกจะไปบรรจุผ่าน เว็บไซต์ สกอ. www.moa.go.th ในวันที่ 16 ก.ย. นี้ ส่วนสาเหตุที่รับนักศึกษาทุนไม่ครบตามเป้า เนื่องจากหลักเกณฑ์การคัดเลือกค่อนข้างสูง เช่น ผลการเรียนเฉลี่ยสะสมตลอดหลักสูตร ม.ปลาย หรือ GPAX ไม่ต่ำกว่า 3.00 แต่ที่ประชุมเห็นตรงกันว่าจะไม่ปรับลดหลักเกณฑ์ดังกล่าว เนื่องจากต้องการผลิตครูพันธุ์ใหม่ที่มีความรู้และสามารถชี้นำสังคมได้ ส่วนจำนวนที่ขาดไปอีก 1,052 คน จะรับเพิ่มรวมกับโครงการครูพันธุ์ใหม่นำร่องปีต่อไป
นายไชยยศ กล่าวต่อไปว่า ที่ประชุมยังหารือกรณีคุรุสภาได้ยกเลิกการรับรองหลักสูตรประกาศนีย บัตรบัณฑิตวิชาชีพครูหรือ ป.บัณฑิต โดยยินดีสนับสนุนคุรุสภาเรื่องการออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู เพื่อให้การผลิตครูได้มาตรฐานยิ่งขึ้น เนื่องจากเห็นว่าขณะนี้เกิดปัญหาครูจำนวนมาก เมื่อสอนไประยะหนึ่งก็จะขอลา เพื่อศึกษาต่อในระดับปริญญาโท ทำให้ครูไม่เพียงพอ ดังนั้นเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว และจูงใจให้คนเก่งมาเรียนครูเพิ่มขึ้น ที่ประชุมจึงมีมติว่าจะปรับโครงการครูพันธุ์ใหม่จากเดิม 5 ปี เป็น 5+1 หรือ 6 ปี ซึ่งผู้ที่เข้าโครงการจะได้รับทุนและเงินเดือนสูงขึ้น ส่วนโครงการครูพันธุ์ใหม่ 4+1 ที่ให้ผู้จบจากสาขาอื่นและต้องการเป็นครูมาต่อหลักสูตร ป.บัณฑิต เพิ่มอีก 1 ปี ก็ต้องปรับเปลี่ยน เนื่องจากคุรุสภาได้ยกเลิก การรับรองหลักสูตรไปแล้ว โดยจะปรับเป็นหลักสูตร 4+2 คือให้ทุนผู้ที่จบจากสาขาอื่น ๆ มาต่อปริญญาโทด้านครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ เมื่อจบแล้วก็จะได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทันที ดังนั้นจากนี้โครงการ ผลิตครูพันธุ์ใหม่จะผลิตเฉพาะครูที่จบระดับปริญญาโทเท่านั้น คาดว่าจะรับนักศึกษาได้ภายในปีการศึกษา 2554
“ผมยังให้ สกอ. ไปปรับปรุงถ้อยคำ ที่ระบุว่าจะรับประกันการมีงานทำให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) บรรจุเด็กเหล่านี้ลงในพื้นที่ที่ได้เลือกไว้เท่านั้น เพื่อป้องกันการวิ่งเต้นบรรจุ เนื่องจาก สพฐ. ได้กระจายอำนาจให้ สพท. คัดเลือกผู้เข้ารับการบรรจุเป็นครูได้เอง จึงอาจเป็นช่องทางให้คนหัวหมอไปวิ่งเต้นใช้ช่องว่างของถ้อยคำนี้เข้าทำงาน ได้ แต่ขณะนี้ยังไม่เกิดขึ้น นอกจากนี้ยังให้ สกอ. ไปหารือกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เพื่อกำหนดกรอบจำนวนผู้เกษียณ ในอีก 6 ปีข้างหน้าว่ามีเท่าใด พร้อมวิเคราะห์งบประมาณที่จะเพิ่มขึ้น เพื่อเสนอขอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายใน 6 สัปดาห์ ซึ่งการของบฯ เพิ่มคงไม่น่าจะมีปัญหา เพราะจำนวนไม่มาก และเชื่อว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี สนับสนุนการศึกษาอยู่แล้ว” นายไชยยศ. กล่าว.
ข่าว เดลินิวส์
ภาพ http://www.chaoprayanews.com
นาย ไชยยศ จิรเมธากร รมช.ศึกษาธิการ ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารโครงการผลิตครูพันธุ์ใหม่ เปิดเผยภายหลังการประชุมโครงการผลิตครูพันธุ์ใหม่ เมื่อวันที่ 9 ก.ย.ว่า ที่ประชุมได้อนุมัติผู้ที่ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการครูพันธุ์ใหม่นำ ร่องปีการศึกษา 2552 จำนวน 948 คน ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 2,000 คน ขณะที่มีผู้สมัคร จำนวน 2,100 คน โดยนักศึกษาดังกล่าวจะได้รับการประกันการมีงานทำ แต่ไม่มีทุนให้ และสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) จะประกาศรายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือกพร้อมพื้นที่ที่เด็กเลือกจะไปบรรจุผ่าน เว็บไซต์ สกอ. www.moa.go.th ในวันที่ 16 ก.ย. นี้ ส่วนสาเหตุที่รับนักศึกษาทุนไม่ครบตามเป้า เนื่องจากหลักเกณฑ์การคัดเลือกค่อนข้างสูง เช่น ผลการเรียนเฉลี่ยสะสมตลอดหลักสูตร ม.ปลาย หรือ GPAX ไม่ต่ำกว่า 3.00 แต่ที่ประชุมเห็นตรงกันว่าจะไม่ปรับลดหลักเกณฑ์ดังกล่าว เนื่องจากต้องการผลิตครูพันธุ์ใหม่ที่มีความรู้และสามารถชี้นำสังคมได้ ส่วนจำนวนที่ขาดไปอีก 1,052 คน จะรับเพิ่มรวมกับโครงการครูพันธุ์ใหม่นำร่องปีต่อไป
นายไชยยศ กล่าวต่อไปว่า ที่ประชุมยังหารือกรณีคุรุสภาได้ยกเลิกการรับรองหลักสูตรประกาศนีย บัตรบัณฑิตวิชาชีพครูหรือ ป.บัณฑิต โดยยินดีสนับสนุนคุรุสภาเรื่องการออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู เพื่อให้การผลิตครูได้มาตรฐานยิ่งขึ้น เนื่องจากเห็นว่าขณะนี้เกิดปัญหาครูจำนวนมาก เมื่อสอนไประยะหนึ่งก็จะขอลา เพื่อศึกษาต่อในระดับปริญญาโท ทำให้ครูไม่เพียงพอ ดังนั้นเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว และจูงใจให้คนเก่งมาเรียนครูเพิ่มขึ้น ที่ประชุมจึงมีมติว่าจะปรับโครงการครูพันธุ์ใหม่จากเดิม 5 ปี เป็น 5+1 หรือ 6 ปี ซึ่งผู้ที่เข้าโครงการจะได้รับทุนและเงินเดือนสูงขึ้น ส่วนโครงการครูพันธุ์ใหม่ 4+1 ที่ให้ผู้จบจากสาขาอื่นและต้องการเป็นครูมาต่อหลักสูตร ป.บัณฑิต เพิ่มอีก 1 ปี ก็ต้องปรับเปลี่ยน เนื่องจากคุรุสภาได้ยกเลิก การรับรองหลักสูตรไปแล้ว โดยจะปรับเป็นหลักสูตร 4+2 คือให้ทุนผู้ที่จบจากสาขาอื่น ๆ มาต่อปริญญาโทด้านครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ เมื่อจบแล้วก็จะได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทันที ดังนั้นจากนี้โครงการ ผลิตครูพันธุ์ใหม่จะผลิตเฉพาะครูที่จบระดับปริญญาโทเท่านั้น คาดว่าจะรับนักศึกษาได้ภายในปีการศึกษา 2554
“ผมยังให้ สกอ. ไปปรับปรุงถ้อยคำ ที่ระบุว่าจะรับประกันการมีงานทำให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) บรรจุเด็กเหล่านี้ลงในพื้นที่ที่ได้เลือกไว้เท่านั้น เพื่อป้องกันการวิ่งเต้นบรรจุ เนื่องจาก สพฐ. ได้กระจายอำนาจให้ สพท. คัดเลือกผู้เข้ารับการบรรจุเป็นครูได้เอง จึงอาจเป็นช่องทางให้คนหัวหมอไปวิ่งเต้นใช้ช่องว่างของถ้อยคำนี้เข้าทำงาน ได้ แต่ขณะนี้ยังไม่เกิดขึ้น นอกจากนี้ยังให้ สกอ. ไปหารือกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เพื่อกำหนดกรอบจำนวนผู้เกษียณ ในอีก 6 ปีข้างหน้าว่ามีเท่าใด พร้อมวิเคราะห์งบประมาณที่จะเพิ่มขึ้น เพื่อเสนอขอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายใน 6 สัปดาห์ ซึ่งการของบฯ เพิ่มคงไม่น่าจะมีปัญหา เพราะจำนวนไม่มาก และเชื่อว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี สนับสนุนการศึกษาอยู่แล้ว” นายไชยยศ. กล่าว.
ข่าว เดลินิวส์
ภาพ http://www.chaoprayanews.com