เก้าอี้ผอ.สพม.ระอุ34ผู้บริหารไม่มีตั๋วดูแลเขต“เลขาธิการคุรุสภา”ชี้ควรพิจารณาผู้ที่มีคุณสมบัติครบก่อน
วันนี้ ( 14 ก.ย.) ดร.องค์กร อมรสิรินันท์ เลขาธิการคุรุสภา เปิดเผยว่า จากกรณีที่ชมรมองค์กรเครือข่ายวิชาชีพครู 4 ภูมิภาค ได้ยื่นหนังสือทักท้วงให้สำนักงานเลขาธิการคุรุสภาตรวจสอบกรณีสำนักงานคณะ กรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) แต่งตั้งผู้ที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพผู้บริหารการศึกษา ไปปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) ว่าเป็นการขัดต่อพ.ร.บ.สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2546 นั้น ตนได้ทำการตรวจสอบกรณีดังกล่าวแล้วพบว่า สพฐ.ได้ทำหนังสือด่วนที่สุดเรื่อง ขออนุญาตให้ผู้ไม่ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพผู้บริหารการศึกษาประกอบ วิชาชีพผู้บริหารการศึกษา โดยปฏิบัติหน้าที่ ผอ.สพม.จำนวน 41 ราย ตั้งแต่วันที่ 18 ส.ค.2553 ไปจนกว่าจะได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพผู้บริหารการศึกษา หรือจนกว่าจะมีการแต่งตั้งบุคคลที่มีคุณสมบัติตรงตามมาตรฐานตำแหน่งมา และรองเลขาธิการคุรุสภาก็ได้ออกหนังสืออนุญาตตามที่เสนอขอมาแล้ว
แต่เมื่อมีผู้ท้วงติงจึงได้มาตรวจสอบอีกครั้ง และพบว่าการทำหนังสือขออนุญาตของสพฐ.ไม่ถูกต้อง เนื่องจากในจำนวน 41 ราย มีผู้ที่ไม่ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพผู้บริหารการศึกษาถึง 34 ราย ดังนั้นสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาจะทำหนังสือยกเลิกการอนุญาตของคุรุสภา และให้ สพฐ.ทำเรื่องขออนุญาตมาใหม่ให้ถูกต้องอีกครั้ง
“โดยส่วนตัวผมคิดว่า การแต่งตั้งผู้ปฏิบัติหน้าที่ ผอ.สพม.ครั้งนี้ไม่น่าจะถูกต้องในหลักการ และไม่เหมาะสม เพราะปัจจุบันมีผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) รอง ผอ.สพท. และผู้ที่สอบขึ้นบัญชีได้ ซึ่งได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพผู้บริหารการศึกษาไปแล้วกว่า 2,000 คน ก็ควรพิจารณาผู้ที่มีคุณสมบัติครบก่อน แต่หากคิดว่านำรองผอ.สพท.ที่ไม่มีสายเลือดทางมัธยมฯไปดูแลสพม.ไม่ได้ แล้วมีการแต่งตั้งแบบข้ามหัว ก็จะทำให้เกิดการแตกแยก ทำให้ครูทะเลาะกัน อีกทั้งใบอนุญาตประกอบวิชาชีพผู้บริหารการศึกษาก็ไม่ได้แบ่งแยกว่าเป็นการ บริหารในระดับประถมฯ หรือมัธยมฯ ถ้าเป็นการศึกษาที่ต่ำกว่าระดับปริญญาตรีก็บริหารได้ทั้งนั้น ทั้งนี้หากมีการฟ้องร้องในภายหลังผู้แต่งตั้งก็ต้องเป็นผู้รับผิดชอบ” เลขาธิการคุรุสภา กล่าว
ข่าว/ภาพ เดลินิวส์
วันนี้ ( 14 ก.ย.) ดร.องค์กร อมรสิรินันท์ เลขาธิการคุรุสภา เปิดเผยว่า จากกรณีที่ชมรมองค์กรเครือข่ายวิชาชีพครู 4 ภูมิภาค ได้ยื่นหนังสือทักท้วงให้สำนักงานเลขาธิการคุรุสภาตรวจสอบกรณีสำนักงานคณะ กรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) แต่งตั้งผู้ที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพผู้บริหารการศึกษา ไปปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) ว่าเป็นการขัดต่อพ.ร.บ.สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2546 นั้น ตนได้ทำการตรวจสอบกรณีดังกล่าวแล้วพบว่า สพฐ.ได้ทำหนังสือด่วนที่สุดเรื่อง ขออนุญาตให้ผู้ไม่ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพผู้บริหารการศึกษาประกอบ วิชาชีพผู้บริหารการศึกษา โดยปฏิบัติหน้าที่ ผอ.สพม.จำนวน 41 ราย ตั้งแต่วันที่ 18 ส.ค.2553 ไปจนกว่าจะได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพผู้บริหารการศึกษา หรือจนกว่าจะมีการแต่งตั้งบุคคลที่มีคุณสมบัติตรงตามมาตรฐานตำแหน่งมา และรองเลขาธิการคุรุสภาก็ได้ออกหนังสืออนุญาตตามที่เสนอขอมาแล้ว
แต่เมื่อมีผู้ท้วงติงจึงได้มาตรวจสอบอีกครั้ง และพบว่าการทำหนังสือขออนุญาตของสพฐ.ไม่ถูกต้อง เนื่องจากในจำนวน 41 ราย มีผู้ที่ไม่ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพผู้บริหารการศึกษาถึง 34 ราย ดังนั้นสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาจะทำหนังสือยกเลิกการอนุญาตของคุรุสภา และให้ สพฐ.ทำเรื่องขออนุญาตมาใหม่ให้ถูกต้องอีกครั้ง
“โดยส่วนตัวผมคิดว่า การแต่งตั้งผู้ปฏิบัติหน้าที่ ผอ.สพม.ครั้งนี้ไม่น่าจะถูกต้องในหลักการ และไม่เหมาะสม เพราะปัจจุบันมีผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) รอง ผอ.สพท. และผู้ที่สอบขึ้นบัญชีได้ ซึ่งได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพผู้บริหารการศึกษาไปแล้วกว่า 2,000 คน ก็ควรพิจารณาผู้ที่มีคุณสมบัติครบก่อน แต่หากคิดว่านำรองผอ.สพท.ที่ไม่มีสายเลือดทางมัธยมฯไปดูแลสพม.ไม่ได้ แล้วมีการแต่งตั้งแบบข้ามหัว ก็จะทำให้เกิดการแตกแยก ทำให้ครูทะเลาะกัน อีกทั้งใบอนุญาตประกอบวิชาชีพผู้บริหารการศึกษาก็ไม่ได้แบ่งแยกว่าเป็นการ บริหารในระดับประถมฯ หรือมัธยมฯ ถ้าเป็นการศึกษาที่ต่ำกว่าระดับปริญญาตรีก็บริหารได้ทั้งนั้น ทั้งนี้หากมีการฟ้องร้องในภายหลังผู้แต่งตั้งก็ต้องเป็นผู้รับผิดชอบ” เลขาธิการคุรุสภา กล่าว
ข่าว/ภาพ เดลินิวส์