นายประเสริฐ งามพันธุ์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เปิดเผยว่า สิ่งที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) รู้สึกเป็นห่วงในขณะนี้คือภาระงานที่มีจำนวนมาก โดยต้องดูแลครู 4-5 แสนคน แต่มีเจ้าหน้าที่แค่ 200 กว่าคน ทำให้หลายเรื่องมีความล่าช้าในการพิจารณาถือเป็นภารกิจที่สาหัสสากรรจ์ ตนจึงอยากผลักดันให้สำนักงาน ก.ค.ศ. เป็นนิติบุคคลและขึ้นตรงกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ซึ่งจะช่วยให้การทำงานมีความคล่องตัวมากขึ้นและทำให้ชาว ก.ค.ศ.มีขวัญและกำลังใจ มากกว่าเดิมในเรื่องของความก้าวหน้าในอาชีพ แต่อย่างไรก็ตามเรื่องนี้มีการเสนอและผลักดันมาหลายครั้งแล้วแต่ก็ยังไปไม่ ถึงไหน ส่วนนางศิริพร กิจเกื้อกูล ว่าที่เลขาธิการ ก.ค.ศ.คนใหม่ ตนคงไม่มีอะไรต้องฝากฝัง เพราะนางศิริพรเป็นผู้ที่เคยอยู่ในสำนักงาน ก.ค.ศ.มาก่อน จึงเชื่อว่าจะสามารถบริหารงานต่าง ๆ ได้ดี
นายพิษณุ ตุลสุข รองเลขาธิการ ก.ค.ศ. กล่าวว่า ปัญหาการขาดบุคลากรเป็นเรื่องใหญ่มาก ซึ่งขณะนี้มีเรื่องต่าง ๆ ที่เสนอมาให้สำนักงานก.ค.ศ.พิจารณาหลายพันเรื่อง ทั้งการประเมินวิทยฐานะ หรือเรื่องวินัย เป็นต้น แต่ด้วยกำลังคนที่มีน้อยจึงไม่สามารถพิจารณาได้ทัน บางเรื่องครบปีก็ยังไม่ได้รับการพิจารณา ทำให้เกิดผลกระทบกับข้าราชการครู ซึ่งสำนักงานฯก็พยายามเร่งรัดการพิจารณา แต่ก็ไม่สามารถทำได้เพราะข้อจำกัดด้านกำลังคน.
นายพิษณุ ตุลสุข รองเลขาธิการ ก.ค.ศ. กล่าวว่า ปัญหาการขาดบุคลากรเป็นเรื่องใหญ่มาก ซึ่งขณะนี้มีเรื่องต่าง ๆ ที่เสนอมาให้สำนักงานก.ค.ศ.พิจารณาหลายพันเรื่อง ทั้งการประเมินวิทยฐานะ หรือเรื่องวินัย เป็นต้น แต่ด้วยกำลังคนที่มีน้อยจึงไม่สามารถพิจารณาได้ทัน บางเรื่องครบปีก็ยังไม่ได้รับการพิจารณา ทำให้เกิดผลกระทบกับข้าราชการครู ซึ่งสำนักงานฯก็พยายามเร่งรัดการพิจารณา แต่ก็ไม่สามารถทำได้เพราะข้อจำกัดด้านกำลังคน.
ข่าว เดลินิวส์
ภาพ tlcthai.com