ประชาสัมพันธ์

สถาปัตย์ปรับค่านํ้าหนักแอดมิชชั่น54เพิ่มอัตนัย


"ชัยวุฒิ"ขีดเส้นสกอ.วางระบบรับตรง3สัปดาห์

ผศ.ดร.นฤพนธ์ ไชยยศ ประธานสภาคณบดีคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สภาคณบดีคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ฯได้มีมติเกี่ยวกับการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษาด้วยระบบกลางการรับนิสิตนักศึกษา หรือ แอดมิชชั่น ปีการศึกษา 2554 ในคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ว่า จะใช้องค์ประกอบแอดมิชชั่นตามที่ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) มีมติ แต่จะปรับสัดส่วนของค่าน้ำหนัก ดังนี้ ผลการเรียนเฉลี่ยตลอดหลักสูตรม.ปลาย หรือ GPAX จาก 20% เป็น 10% คะแนนผลการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน หรือ O-NET 30% เท่าเดิม คะแนนความถนัดทั่วไป หรือ GAT 10% เท่าเดิม และคะแนนความถนัดทางวิชาชีพ/วิชาการ หรือ PAT4 ความถนัดทางสถาปัตยกรรมศาสตร์ จาก 40% เป็น 50% ทั้งนี้ในส่วนของข้อสอบ PAT4 เดิมข้อสอบเป็นปรนัยทั้งหมด ซึ่งที่ประชุมเห็นว่าไม่สามารถวัดความสามารถทักษะเชิงศิลปะได้ ดังนั้นในส่วนของข้อสอบ PAT4 จะต้องมีข้อสอบอัตนัยไม่ต่ำกว่า 50%

“การปรับข้อสอบจากปรนัยเป็นอัตนัย จะช่วยทำให้คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สามารถวัดเด็กได้ตามที่ต้องการและส่งผลให้เด็กไม่ต้องออกกลางคันด้วย โดยได้มีการตั้งคณะทำงานขึ้นมา 1 ชุด เพื่อเข้าไปช่วยสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ หรือ สทศ. กำหนดเนื้อหาที่ชัดเจนในการออกข้อสอบและตรวจข้อสอบ เพื่อไม่ให้เกิดการร้องเรียนว่าการตรวจข้อสอบนั้นไม่มีมาตรฐานเดียวกัน และขณะนี้ สทศ.ก็ตอบรับมาแล้วว่ายินดีที่จะช่วยในการออกข้อสอบอัตนัย” ผศ.ดร.นฤพนธ์ กล่าวและว่า ทั้งนี้ถึงแม้จะมีการปรับค่าน้ำหนักในการแอดมิชชั่น แต่ก็ไม่ได้ไปปิดกั้นว่าคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ จะเปิดรับตรงไม่ได้ เพราะแต่ละแห่งก็มีอิสระในการรับนิสิตนักศึกษาของตนเอง

ด้าน นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รมช.ศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณีที่ที่ประชุมสภาคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์แห่งประเทศไทย มีมติให้คณะวิศวกรรมศาสตร์ สามารถรับนักศึกษาในระบบรับตรงในปีการศึกษา 2554 ได้อย่างอิสระ โดยไม่จำกัดว่าต้องไม่เกิน 50% ตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่า เรื่องนี้มหาวิทยาลัยสามารถทำได้ เพราะเป็นอำนาจของมหาวิทยาลัยโดยตรง ซึ่งเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ว่าหาก ทปอ.ไม่เปลี่ยนแปลงสัดส่วนองค์ประกอบแอดมิชชั่น ปีการศึกษา 2554 ตามที่ที่ประชุมสภาคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ฯเสนอ จะทำให้มหาวิทยาลัยต่าง ๆ เปิดรับตรงมากขึ้น ซึ่งเมื่อวันที่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมา ตนได้เชิญผู้เกี่ยวข้องจากสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) มาหารือถึงแนวทางในการกำหนดหลักเกณฑ์ เพื่อจัดระบบรับตรงให้แล้วเสร็จภาย ใน 2-3 สัปดาห์นี้ โดยขอให้ยึดหลัก ดังนี้ 1.ทำให้เด็กได้รับความสะดวก 2.ได้รับความเป็นธรรม 3.มีความโปร่งใส และ 4.ทำให้มหาวิทยาลัยได้ผู้เรียนที่มีความถนัดในสาขาวิชาต่าง ๆ ที่มหาวิทยาลัยต้องการ


ที่มา ดูภาพขนาดใหญ่ วันพุธ ที่ 25 พฤศจิกายน 2552 เวลา 7:44 น

Blogger Comment
Facebook Comment

:ambivalent:
:angry:
:confused:
:content:
:cool:
:crazy:
:cry:
:embarrassed:
:footinmouth:
:frown:
:gasp:
:grin:
:heart:
:hearteyes:
:innocent:
:kiss:
:laughing:
:minifrown:
:minismile:
:moneymouth:
:naughty:
:nerd:
:notamused:
:sarcastic:
:sealed:
:sick:
:slant:
:smile:
:thumbsdown:
:thumbsup:
:wink:
:yuck:
:yum:

loading...

Facebook

บทความ

loading...