แพร พิมพิศา จิราธิวัฒน์ ทายาทพันล้านผู้หลงไหลศิลปะและเสียงเพลง
“แพร พิมพิศา จิราธิวัฒน์” ทายาท คนโตของ ธีระยุทธ–ชนัดดา จิราธิวัฒน์ ทายาทพันล้านวัย 19 ปีของเจ้าสัวในเครือเซ็นทรัลฯ ด้วยบุคลิกที่โดดเด่น บวกกับความกล้าแสดงออกตั้งแต่เด็ก และเมื่อโตคุณแม่ยังพาเธอออกงานสังคมอยู่บ่อยครั้ง จึงทำให้แพรกลายเป็นอีกหนึ่งเซเลบฯ รุ่นใหม่ที่กำลังน่าจับตามองทีเดียว...
คุณหนูไฮโซ มาเป็นนักร้องอินดี้
เพลงกว่า 3,000 เพลง ที่บรรจุลงในไอพอด 80 GB ยิ่งทำให้ได้รู้ว่าแพรหลงใหลและรักในเสียงเพลงมากเพียงใด และด้วยน้ำเสียงและบุคลิกกล้าแสดงออกยิ่งทำให้เธอได้มีโอกาสเข้าไปร่วมงาน กับค่ายเพลงอินดี้อย่างสมอลล์รูม...
เมื่อ2ปีก่อนเธอได้โชว์เสียงน่ารัก ใสๆ ผ่าน ผลงานเพลงแปลกดีนะ ในอัลบั้มเลเชอร์ซอง “แพรคิดว่าที่เขาเลือกแพร เพราะบุคลิกตรงกับที่เค้าต้องการ แล้วเสียงแพรตอนนั้นจะใสๆ ที่นี่จะเน้นให้ศิลปินเป็นตัวของตัวเองมากที่สุด คืออยากทำอะไรก็ทำ ไม่มีการมาวางคอนเซ็ปต์ ตอนนี้อยู่ในช่วงเรียนร้องเพลง แล้วก็คุยเรื่องอัลบั้มใหม่ อัลบั้มนี้ทำวงกับน้องชาย (พีช-พชร จิราธิวัฒน์) งานเพลงคงไม่ได้เป็นป็อปใสๆ แบบเดิมแล้ว แพรอยากลองทำอะไรที่ต่างออกไปบ้าง ชอบทำเพลงแนวอิเล็กทรอนิกส์ อยากทำอะไรที่ฟังแล้วรู้สึกสนุก อยากเต้น อยากขยับ”
เด็กเส้น?
ด้วย ความที่เธอเป็นลูกหลานของตระกูลดังอย่างจิราธิวัฒน์ จึงไม่พ้นที่จะถูกมองว่าเป็นเด็กเส้น ใช้นามสกุลถึงได้เข้าวงการ เธอบอกว่าแรกๆ ก็ไม่เข้าใจว่าทำไม เพราะเธอก็ต้องแคสงานเหมือนคนอื่น และก็ไม่ได้เข้ามาง่ายๆ เหมือนที่หลายคนคิด
“แพรมาแค สงานเหมือนที่คนอื่นแคสกัน แล้วได้มีโอกาสมาเล่นเอ็มวีเพลงเขิน ของวงSuperbaker พอได้รู้ว่าได้ร่วมงานกับสมอลล์รูมก็ดีใจ ตื่นเต้นมาก แต่ตอนนั้นคิดว่าก็ได้เล่นแค่เอ็มวี เราไม่ได้คิดว่าจะต่อมาขนาดนี้ เรื่องที่ได้มาร้องเพลงก็ต้องมีคนพูดว่าเส้นชัวร์ ตอน แรกจะไม่เข้าใจว่าทำไมต้องพูดแบบนี้ เหมือนคุณไม่เห็นชั้นว่ากว่าจะได้เข้ามามันยากนะ ไม่ใช่ว่าจ่ายตังค์มาได้ แต่ตอนหลังมันเริ่มชิน แล้วก็ไม่มีประโยชน์ที่เราจะไปนั่งแก้ให้คนเปลี่ยนความคิด แพรก็เหมือนเด็กแคสงานทั่วๆ ไป แคสมากี่สิบก็ไม่เคยได้สักงาน มันแล้วแต่โอกาส แล้วแต่จังหวะมากกว่าด้วย”
ศิลปิน ในค่ายที่เธอชื่นชอบนั้น เธอบอกว่าชอบวงเลมอนซุป เพราะเป็นวงแรกที่ฟังแล้วทำให้รู้จักกับสมอลล์รูม ฟังครั้งแรกก็รู้สึกว่า เมืองไทยมีเพลงอย่างนี้ด้วยเหรอ ก็เริ่มค้นว่าอยู่ที่ค่ายไหน มีวงอะไรบ้าง หลังจากนั้นก็ซื้อซีดี ของค่ายนี้มาตลอด ที่สำคัญที่นี่ยังมีรุ่นพี่คณะสถาปัตย์ คอยช่วยแนะนำแพรหลายคนเลย
“อย่างวง เลมอนซุป เขาเพิ่งจบมา 2 ปี พี่นินา-ญารินดา บุนนาค ก็เป็นอาจารย์พิเศษอยู่ที่สถาปัตย์ จุฬา ทุกคนจะพูดหมดเลยว่างานหนัก เปลี่ยนใจยังทันนะ แต่แพรตั้งใจมากๆ อยู่แล้ว ก็ต้องทำให้ได้ คนอื่นทำได้เราก็ต้องทำให้ได้ ตอนแรกก็สับสนระหว่างไทย-อินเตอร์ ส่วนใหญ่จะถามเรื่องเรียนว่าเข้าไปแล้วจะเป็นยังไง รับน้องโหดไหม เหมือนพี่เขาจะมีประสบการณ์ แนะนำเราได้ว่าควรเตรียมในเรื่องอะไร”
สถาปนิก...ความฝันตั้งแต่เด็ก
“ตอน เด็กแพรก็ ไปเรียนร้องเพลง เรียนเต้น พอโตขึ้นมาก็คิดว่าเรียนไปทำไม ไม่ได้ใช้ ก็เลยเลิก เพราะเราไม่เคยคิดไงคะว่าเราต้องมาทำงานตรงนี้ จริงๆ อยากทำงานเกี่ยวกับพวกดีไซน์ ชอบวาดรูป ความฝันคือ อยากเป็นสถาปนิก”
นอกจากจะเป็นสาวน้อยที่ทั้งร่าเริงสดใสแล้ว ยังเป็นคนที่เรียนเก่งมากอีกด้วย ล่าสุดเธอเอนท์ติดคณะสถาปัตย์ จุฬาฯ สาขาตกแต่งภายใน ที่เลือกเรียนสาขานี้เพราะที่บ้านทำธุรกิจโรงแรม เธอก็เลยอยากเรียนอะไรที่จบแล้วสามารถสานต่องานของที่บ้านได้ “แพรเป็นคนชอบอยู่กับบ้าน แล้วมีความรู้สึกว่าถ้าเราทำอะไรที่ในที่ที่เราอยู่ หรือที่ที่คนอื่นเขาจะเข้าไปอยู่ มันรู้สึกมีความสุขมากกว่าภายนอก
แพร เห็นคุณพ่อทำงาน แล้วก็เห็นพวกตัวอย่างพรม กระเบื้อง ก็จะชอบดู ชอบเล่น ชอบดูหนังสือบ้าน คือบ้านอยู่ที่โรงแรม ก็เห็นมาตั้งแต่เด็ก มันเหมือนซึมเข้ามาเอง อยู่ข้างในตัวเรา ที่บ้านอยากให้เรียนด้วย เราอยากเรียนเองด้วย ก็ลงตัว”
บ้านในฝันสไตล์แพร
สำหรับ บ้านในฝันนั้น เธอชอบสไตล์วินเทจ แต่ต้องเป็นสีขาว เพราะเธอรู้สึกว่าบ้านที่ทุกอย่างเป็นสีขาว มันดูสวย ดูหรูขึ้นมาทันที บ้านที่อยู่ตอนนี้ก็เป็นสไตล์ที่เธอชอบด้วย เป็นสีขาวหมด “แพรไม่ค่อยสะสมอะไร แต่ของที่มีเยอะจะเป็นซีดีเพลง ตั้งแต่สมัยคุณแม่ แพร จะซื้อแผ่นจริง ยิ่งเราได้มาทำงานเพลง ยิ่งรู้สึกว่านักร้องกว่าจะออกเป็นอัลบั้มได้ มันไม่ใช่แค่ร้องเพลงแล้วก็จบ ก็เลยคิดว่ามันคุ้มค่าที่เราจะซื้อซีดีอุดหนุนเขา
ห้อง ที่ชอบที่สุดในบ้าน คือห้องนอนตัวเอง มันเป็นโลกของเรา ชอบอ่านหนังสือ มีหนังสือเยอะมาก เวลาว่างก็ชอบเขียนบล็อก อยากเขียนอะไรก็เขียน เหมือนช่วงนี้เราสนใจอะไรก็จะเขียน มีเรื่องแฟชั่น เพลง เครื่องสำอาง ของน่ารักๆ ผสมกันไป”
ชีวิตคุณหนูในต่างแดน
ด้วย ความที่ต้องไปเมืองนอกตั้งแต่อายุ 12 ปี ทำให้เธอได้เรียนรู้และมองเห็นความแตกต่างของเด็กทั้งสองวัฒนธรรม และนั่นก็เป็นประสบการณ์ที่ทำให้เธอมาปรับใช้กับตัวเอง ทำให้เธอมีความคิดอ่านที่โตขึ้น
“แพร ไม่เคยซักผ้า พอไปที่นู่น ไม่มีคนทำให้ ถึงจุดหนึ่งเราก็ต้องทำเอง ไม่เป็นก็ต้องทำให้ได้ อยู่เมืองไทยไม่ได้ทำอาหารหรอก ไปที่นู่นถ้าอาหารไม่อร่อย เราก็ไม่อยากกิน ก็ต้องทำเอง จะขึ้นรถไฟไปเที่ยวนอกเมือง กลัวหลงทางแทบตาย แต่มันไม่มีคนมานั่งบอกเราหมด ก็ต้องไป
ที่ เมืองนอกระบบการศึกษาของเขากับของไทยแตกต่างกัน อย่างเรื่องการเรียน เห็นได้ชัดเลย เขาไม่ได้เรียนแบบท่องๆ จำนะ แต่พวกท่องจำ สูตรเลขเด็กไทยจะชนะเลิศ แต่เขาจะเรียนเป็นระบบความคิดมากกว่า เพราะฉะนั้นเมื่อมีอะไรที่ให้แสดงความคิดเห็น เขาจะทำได้ดีกว่า และเขาก็กล้าแสดงออก
แรกๆ ที่ไปเรียนแพรไม่กล้ายกมือตอบคำถาม ทั้งๆ ที่เรารู้ว่าคำตอบคืออะไร แล้วในห้องไม่มีใครรู้ แต่เราก็ไม่กล้ายก แต่หลังๆ ไปบ่อยๆ มันเหมือนว่าชิน แล้วเราต้องรู้จักปรับตัวด้วย ถ้าเราไม่ปรับตัวเข้าหาคนอื่น เราก็จะอยู่คนเดียว ไม่มีเพื่อน ซึ่งอันนั้นมันยิ่งเศร้า”
โกอินเตอร์
ด้วย ความคิดอ่านที่แตกต่าง และตัวตนของเธอที่ไม่ติดว่าต้องเป็นคุณหนูตลอดเวลา บางครั้งก็ลุยได้ ทำอะไรด้วยตัวเองได้ ทำให้เธอถูกคัดเลือกให้เป็น1ใน4เยาวชนจากทั่วโลก มีประเทศไทย อเมริกา รัสเซีย และอินเดีย ออกรายการ The World’s and Me ในชื่อตอน The World’s Rich Teen and Me ทางช่อง 4 ประเทศอังกฤษ เป็นสารคดีสั้นที่นําเสนอเรื่องราวของเยาวชนที่เติบโตมากับครอบครัว ที่มั่งคั่ง มีฐานะ
“ความ รู้สึกที่รู้ว่าเราได้รับเลือก ตอนแรกก็รู้สึกงงมาก ตื่นเต้นด้วยค่ะ ได้ทำงานกับต่างชาติ แล้วต้องพูดภาษาอังกฤษหมด แค่ภาษาไทยเรายังตื่นเต้น แล้วนี่เป็นรายการที่ไปฉายที่เมืองนอกด้วย เราเลยเหมือนมีความรู้สึกว่า เราต้องนำเสนออะไรบางอย่าง ที่มันแสดงถึงประเทศของเราในด้านบวก แพรพาเขาไปพัทยา ถ่ายวิวกรุงเทพฯ ให้เขาได้เห็นว่าเมืองไทยเราสวยและน่าท่องเที่ยว
เขา บินมาถ่ายที่เมืองไทย 3 วัน เขาอยากดูว่าเราทำอะไรบ้าง ตามไปถ่ายตอนที่แพรไปร้องเพลงที่คอนเสิร์ตเล็ก ชิ้น สด กับสมอลล์รูม และคอนเสิร์ตของ pop chanel ที่พัทยา ตอนนั้นไปแจมกับแทตทูคัลเลอร์ ร้องเพลงจำทำไม ตื่นเต้นมาก เพราะไม่เคยขึ้นเวทีใหญ่ขนาดนั้นมาก่อน แล้วก็ตามไปดูแพรถ่ายแบบ ตามดูที่บ้าน แล้วก็สัมภาษณ์คุณพ่อ คุณแม่ คุณปู่เรื่องการเลี้ยงดู”
รักสวยรักงามตั้งแต่เด็ก
เห็น เป็นสาวสวย หน้าใส หุ่นดีแบบนี้ ก็เลยอดถามไม่ได้ว่าเธอมีวิธีดูแลตัวเองอย่างไร เธอบอกว่าที่บ้านรักสวยรักงามกันทุกคน เธอก็เลยติดชอบดูแลตัวเองมาตั้งเด็ก
“แพรเป็นคนที่ดูแลตัวเอง คงติดมาจากคุณแม่ เราเห็นท่านดูแลตัวเองดีมาก ก็เหมือนซึมมาด้วย แพร คิดว่าการดูแลตัวเอง ไม่ใช่ดูแลตอนโต ต้องดูแลตั้งแต่เด็ก อย่างการกินอาหารที่มีประโยชน์ ถ้าเลือกได้ แพรจะเน้นกินผัก ทาครีมกันแดดทุกวัน พอแต่งหน้าเสร็จ กลับถึงบ้านก็ต้องล้างเลย เวลาว่างก็จะมีไปออกกำลังกาย เพราะแพรเป็นคนอ้วนง่ายมาก
สไตล์การแต่งตัวจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ อย่างตอนนี้ชอบยีนส์ ก็จะใส่บ่อยมาก แต่ก็เปลี่ยนชิ้นล่างเป็นอย่างอื่นที่ไม่ใช่ยีนส์ อย่างวันนี้ก็ใส่เสื้อผ้า รองเท้า ของคุณแม่ แพรจะชอบหยิบเสื้อผ้าของคุณแม่มาใส่ แต่ก็เลือกให้เหมาะกับเรา ก็ตามแฟชั่นบ้าง เพื่อให้ดูทันสมัย ชอบเสื้อผ้าแนวสตรีทแวร์แบบH&M, Topshop
กระเป๋ากับรองเท้าแพรจะใช้แบรนด์เนม เพราะคิดว่าเป็นอะไรที่คุ้มค่าที่จะซื้อ วัสดุจะดี เพราะราคาสูง แต่ก็ไม่ได้เลือกซื้อคอลเลกชั่นที่มันออกมาใหม่ แต่จะเลือกซื้อแบบเรียบๆ สีพื้นฐาน อย่างสีดำ น้ำตาล เพราะว่าใช้ได้นาน ส่วนตัวชอบแบรนด์ชาแนลมาก อย่างใบที่ถือมาวันนี้ สีดำ ธรรมดา เรียบๆใบเดียวเข้าได้กับทุกชุด”
บีบี ไอพอด ลิปสติก ขาดไม่ได้
สาวแพรเปิดกระเป๋าชาแนลสีดำสุดหรูให้เราดูว่า เธอพกอะไรเพื่อเสริมความมั่นใจมาบ้าง อย่างแรกที่ขาดไม่ได้เลย คือบีบี เธอบอกว่า “ตอนแรกเอาไว้คุยกับคุณแม่ แต่หลังๆ เพื่อนใช้ก็เลยสนุกเลยทีนี้ ที่ขาดไม่ได้เลยคือ ไอพอด 80 GB ต้องพกติดตัวตลอดเวลา เป็นเพื่อนซี้คลายเหงาของแพรเลย ติดต้องฟังเพลงตลอดเวลา”
ปกติสาวๆ จะพกลิปติกประมาณ 1-2 แท่ง แต่สำหรับสาวแพรพกลิปสติกหลายแท่งมาก “แพรเป็นคนชอบพกลิปติกหลายสี เผื่อเวลาที่จะต้องไปงานฉุกเฉิน ต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าทันทีทันใด จะได้เปลี่ยนสีให้เข้ากับชุดได้ แล้วลิปสติกเป็นอะไรที่บอกความเป็นผู้หญิงมากๆ”
สาวร่าเริง...แกมบ๊อง
มองแวบแรกอาจจะคิดว่าเธอเป็น คุณหนูไฮโซ แต่เธอบอกว่า คนที่รู้จักเธอต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าบ๊อง “ตอนที่แพรย้ายไปเข้าห้องใหม่ตอน ม.6 ตอนแรกเพื่อนๆ เขาก็จะเกร็งๆ ไม่กล้าคุยกับแพร พอตอนที่ใกล้จะเรียนจบ เขาก็จะมีเปิดใจคุยกัน เขาก็บอกว่าแพรที่รู้จักวันนี้กับวันแรก เหมือนเป็นคนละคนเลย คือแพรเป็นคนที่ต้องสนิทก่อนแล้วถึงจะกล้าโชว์ความรั่วออกมา ชอบอัดวิดีโอตลก อย่างช่วงที่กระแสเกาหลีมาแรง ก็เต้นเอ็มวีเพลงเกาหลีกับเพื่อนขำๆ แพรชอบทำอะไรที่ได้หัวเราะ ไม่ค่อยนัดเพื่อนมาแล้วคุยอะไรกันเงียบๆ”
แพร จะพยายามมองทุกอย่างให้เป็นแง่บวก อย่าไปเครียด สดใสๆ ร่าเริงไป จริงๆ เด็กวัยนี้ก็ไม่น่ามีอะไรให้เครียดมาก เดี๋ยวพอเข้ามหาวิทยาลัยก็คงต้องปรับตัวเยอะอีกพอสมควร
สำหรับ เรื่องความรัก แพรบอกว่ายังไม่คิดเรื่องนี้เลย ยังไม่อยู่ในหัว “มีความรักก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องให้เหมาะสมกับวัยเรา เหมือนเราเป็นนักเรียนอยู่ หน้าที่เราคือเรียนหนังสือ เพราะเห็นบางคนเวลามีแฟนแล้วทิ้งเรียน ก็ไม่ถูก สำหรับแพรตอนนี้สิ่งที่สำคัญคือการเรียน ครอบครัว งาน
ทั้ง คุณแม่และคุณแม่ เป็นแบบอย่างที่ดีของแพร ท่านทำงานเก่ง ทำงานเยอะ แต่ก็แบ่งเวลาให้แก่ครอบครัว จนเราไม่รู้สึกว่าเราขาดอะไร เห็นพ่อแม่ทำงานเหนื่อยมาตลอด ตอนนี้พอเราได้ทำงาน เข้าใจแล้วว่ากว่าจะได้เงินมามันยาก ทำให้เราระมัดระวังเรื่องการใช้เงินมากขึ้นด้วย”
---------------------------------------------------------------------------
คุณแม่คนสวยของแพร
คุณส้ม-ชนัดดา จิราธิวัฒน์ ผู้หญิงสวย-เก่ง มากความสารถ นอกจะทำงานเยอะแล้ว เธอยังสามารถแบ่งเวลาดูแลครอบครัวได้เป็นอย่างดี “ค่อน ข้างที่จะสนิทกับลูกทุกคนมาก ถึงแม้จะทำงาน 5 วันต่อสัปดาห์ เสาร์-อาทิตย์ บางทีก็มีประชุม แต่ว่าช่วงเช้ากับช่วงเย็น ก็จะมีเวลาให้แก่ครอบครัวเสมอ จะต้องกินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากัน
วันหยุดก็ ต้องมีกิจกรรมร่วมกัน ไม่ว่าจะพักผ่อน เล่นกีฬา ชอบปิ้ง ดูหนังด้วยกัน ปีหนึ่งอย่างต่ำสองครั้ง เราจะต้องมีไปต่างประเทศด้วยกัน เพราะรู้สึกว่าช่วง เวลาที่ครอบครัวได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตลอด 24 ชั่วโมงเนี่ย เป็นอะไรที่เราจะเห็นพฤติกรรมของลูกทั้งหมด เราก็ได้แฝงคำสอนของเรา อาจจะเป็นการพูดคุย แล้วแฝงคติ ไปโดยที่ลูกไม่รู้ตัวว่าอันนี้เราแฝงสอนเขาไปแล้ว
ตอนนี้น้องแพรทำงาน ก็จะเตือนในเรื่องการใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ เพราะน้องต้องเรียนด้วย เรื่องเรียนเขาต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง จะทำงานได้เนี่ย การเรียนต้องไม่หล่นลงไป อย่างน้อยต้องเท่าเดิม หรือไม่ก็ต้องดีกว่าเดิม ถ้าลูกรักจะทำงานทางด้านบันเทิง ร้องเพลง หรือเป็นพิธีกร ทางบ้านก็สนับสนุน แต่ว่าจะต้องวางตัวให้เหมาะสม สำคัญก็คือ ไม่ว่าจะมีอะไร ก็อยากให้เล่า อยากให้ปรึกษากับทางบ้านทุกอย่าง ก็จะสนับสนุนในเรื่องที่ลูกทำแล้วมีความสุข สิ่งที่เขารัก และเขาชอบ จะได้ทำออกมาแล้วทำได้ดี
คน ทั่วไปชอบทักว่าหน้าตาคล้ายๆกัน ชอบอะไรก็คล้ายกัน ด้วยความที่บ้านเราไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด ส้มเป็นคนที่ค่อนข้างจะติดลูก แต่ไม่รู้ลูกติดคุณแม่หรือเปล่านะ (หัวเราะ) มีอะไรก็คุยกัน ไปไหนก็ไปด้วยกัน ชอบเรื่องความสวยความงาม เรื่องแฟชั่น เหมือนกัน มองโลกในแง่บวกคล้ายๆ กัน อย่างลูกชอบฟังเพลงแนวไหน เราก็จะฟังได้ เพราะว่าจะได้คุยกับเขารู้เรื่อง
ส่วนเรื่อง ของความแตกต่างอาจจะด้วยวัยที่แตกต่างกัน คุณแม่ไม่กล้าแสดงออกเหมือนน้องแพร อย่างน้องแพรอ่านสคริปต์แป๊บเดียวก็ทำได้เลย ที่ลูกเป็นเด็กกล้าแสดง อาจจะเป็นเพราะว่าส่งให้ลูกไปต่างประเทศตั้งแต่เด็ก อยากให้เขาได้เรียนรู้ชีวิตคน ได้ช่วยเหลือตัวเอง ได้เจอโลกกว้าง เปิดมุมมองใหม่ๆ เพิ่มเติม”
---------------------------------------------------------------------------
ชื่อ: แพร-พิมพิศา จิราธิวัฒน์
วันเกิด: 21 ธันวาคม 2534
อายุ: 19 ปี
การศึกษา: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สาขาตกแต่งภายใน
ประวัติครอบครัว: เป็นบุตรคนโตของนายธีระยุทธและนางชนัดดา จิราธิวัฒน์
ผลงาน: เล่นมิวสิกวิดีโอเพลงเขิน, ถ่ายแบบนิตยสารวัยรุ่น, ผลงานเพลงแปลกดีนะ อัลบั้มLeisure Songs ของค่าย Smallroom
ที่มา : M-life
มุมมองแปลกๆ ของแพร พิมพิศา จิราธิวัฒน์
“คำว่ารักคืออะไร มันจำเป็นหรือเปล่า ...แปลกดีนะ ถึงแม้คำว่ารักจะหายไป แต่ฉันก็ยังอุ่นใจทุกที”
เนื้อ เพลงความรักมุมมองใหม่และดนตรีใสๆ ของเพลง “แปลกดีนะ” ที่แพร์ พิมพิศา จิราธิวัฒน์ สาวน้อยอายุเพียง 16 ปี ประธานเชียร์ลีดเดอร์ รร.สาธิตจุฬา ร้องเป็นครั้งแรกกับค่าย Smallroom ค่ายเพลงอินดี้ขวัญใจเด็กแนว คงพอจะบอกแนวของสาวน้อยคนนี้ได้เป็นอย่างดี ยิ่งพอมีโอกาสได้พบเจอพูดคุย เราอดประหลาดใจกับมุมมองต่างๆ ที่เธอคิดไม่ได้จริงๆ และเราอยากแชร์ให้เพื่อนๆ ได้รู้กันด้วยค่ะ
เรื่องราวน่ารักของแพร http://www.whoweeklymagazine.com/people_content_detail.php?t=thai&t1=people&id=81