นักศึกษาวิทยาลัยนครราชสีมา ชั้นปี 3 และ ปี 4 จำนวน 60 คน ปล่อยโฮ เข้าแจ้งความ สภ.โพธิ์กลาง โคราช ยืนยันจะต่อสู้จนถึงที่สุด ขณะ "น้องกระแต" น้ำตาคลอเบ้า เผย กู้หนี้ยืมสินมาเรียน...
หลังจากที่เมื่อวานนี้ (3 ก.พ.) นักศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์ชั้นปีที่ 1 วิทยาลัยนครราชสีมา จำนวน 41 คน เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบเพื่อแจ้งความให้ดำเนินคดีกับ เรืออากาศเอกนายแพทย์ศรัณย์ อินทกุล อธิการบดีวิทยาลัยนครราชสีมา ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน เนื่องจากหากนักศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์ทั้งหมดของวิทยาลัยเรียนจบแล้ว ไม่ได้ใบประกอบวิชาชีพพยาบาล เพราะไม่ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานจากสภาพยาบาลนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้ (4 ก.พ.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา อ.เมืองฯ ได้มี นักศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์ชั้นปีที่ 3 และ ปี 4 ได้เดินทางไปพบกับ พ.ต.อ.วชิรวิชญ์ กฤษณ์ฤทธิ์ศักย์ รอง ผบก.ภ.นครราชสีมา เพื่อขอแจ้งความและให้ข้อมูลไว้เป็นหลักฐาน ก่อนที่ รอง ผบก.ภ.นครราชสีมา จะแนะนำให้ทั้งหมดเดินทางไปที่ สภ.โพธิ์กลางฯ โดยทั้งนักศึกษาชั้นปีที่ 3 และ 4 ของวิทยาลัยนครราชสีมา จำนวนกว่า 50 คน ได้เดินทางไปแจ้งความกับ พ.ต.ท.สมเงิน คู่ตระกูล สารวัตรเวร สภ.พิธิ์กลาง และ พ.ต.ท.อนันต์ พิมพ์เจริญ รอง ผกก.สส.สภ.โพธิ์กลางฯ โดยมี พ.ต.อ. วชิรวิชญ์ กฤษณ์ฤทธิ์ศักย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา และพ.ต.อ.พนันชัย ชื่นใจธรรม ผู้กำกับการ สภ.โพธิ์กลาง เป็นผู้มารับเรื่องด้วยตนเอง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งความสอบปากคำนักศึกษาทั้งหมด และจะเรียกทางผู้บริหารวิทยาลัยนครราชสีมามาสอบปากคำ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานว่าควรจะแจ้งข้อหาฉ้อโกงประชาชนหรือไม่ โดยนักศึกชั้นปีที่ 3 ได้ยื่นความประสงค์แจ้งความจำนวน 37 คน ส่วนนักศึกษาชั้นปีที่ 4 อีก 23 คน รวมที่เข้าแจ้งความจำนวน 60 คน พร้อมกับให้ทุกคนรวบรวมหลักฐานสำเนาบัตรประชาชน และเขียนชื่อผู้ปกครอง และประวัติการเข้าศึกษา ก่อนทำการสอบปากคำนักศึกษาที่เป็นหัวหน้าทีมชั้นปีที่ 3 และ ชั้นปีที่ 4 รวมทั้งตัวแทนแต่ละชั้น 3 - 5 คน ตามลำดับ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
พ.ต.อ.วชิรวิชญ์ กฤษณ์ฤทธิ์ศักย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งความไว้ก่อน และจะสอบสวนนักศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์ในแต่ละชั้นปีที่มาเข้าศึกษาเรียนที่วิทยาลัยฯ แต่ละชั้นปีที่มาเข้าเรียนในลายละเอียดของวิทยาลัยฯ ที่ประกาศไว้ตอนรับสมัครเป็นอย่างไรบ้าง โดยจะเรียกทางผู้บริหารสถานศึกษามาสอบสวน เพราะถือว่าเป็นสารสำคัญว่า ก่อนเข้าเรียนทางสถานศึกษาได้ประกาศโฆษณาไว้อย่างไรบ้าง หากสถานศึกษามีการปกปิดข้อเท็จจริง จะพิจารณาแจ้งข้อหาฉ้อโกงประชาชนต่อไป อย่างไรก็ตาม ผู้ใดที่เสียหายเราต้องสอบสวนทั้งหมด ส่วนถ้าเป็นการเข้าข่ายการปกปิดข้อเท็จจริง จะเป็นฉ้อโกงประชาชน กรณีที่ไม่สามารถจะออกใบประกอบวิชาชีพพยาบาลได้ ส่วนนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ที่แจ้งความไว้ที่กองปราบปรามนั้น การสอบสวนอะไรนั้น แล้วแต่ว่าทางกองปราบปรามจะส่งมารวมกับทาง สภ.โพธิ์กลาง หรือไม่ เพราะเป็นความผิดต่างกรรมต่างวาระ ซึ่งเรื่องนี้ไม่สามารถยอมความได้ เราจะให้ความมั่นใจกับนักศึกษา โดยจะว่ากันไปตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ โดยพิจารณาให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
นางสาวสรัลพร บุญธรรมวัด อายุ 22 ปี หรือ น้องกระแต นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะพยาบาลศาสตร์ ตัวแทนนักศึกษาที่เข้าแจ้งความ กล่าวทั้งน้ำตาด้วยความเสียใจและเสียความรู้สึกว่า พวกเราอยู่ปี 3 กำลังฝึกงานอยู่ที่ จ.บุรีรัมย์ ทราบเรื่องได้พากันเดินทางมา พร้อมกันทุกคน ขณะนี้ พวกตนไม่รู้ว่าจะได้รับการรับรองวิชาชีพจากสภาการพยาบาลหรือไม่ เพราะค่าเทอมที่ต้องจ่ายไปหลายแสนบาท ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะปีหนึ่งพวกตนสามารถกู้เงินจากกองทุนกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษาได้เพียงปีละ 8 หมื่นบาท และพวกตนต้องควักในส่วนที่เหลือเพื่อหาเงินมาจ่ายค่าเทอมให้ครบอีก
ส่วนบรรยากาศ ที่วิทยาลัยนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา พบว่า นักศึกษาหลายคณะ ส่วนใหญ่ยังคงเดินทางไปเรียนตามปกติ แต่นักศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์ชั้นปีที่ 1 - 4 เดินทางมาเรียนเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ซึ่งนักศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์ วิทยาลัยนครราชสีมามีนักศึกษา ชั้นปีที่ 1 - 4 รวมทั้งหมดประมาณ 200 คน และจากการสอบถามความรู้สึกและข้อเท็จจริงของนักศึกษาที่มาเรียนทราบว่า ส่วนใหญ่เพิ่งจะทราบปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ยังมั่นใจว่าทางคณะครูอาจารย์และผู้บริหารสถานศึกษาจะสามารถแก้ไขปัญหานี้ให้ผ่านพ้นไปได้
ผู้สื่อข่าว ได้พยายามติดต่อ เรืออากาศเอกนายแพทย์ศรัณย์ อินทกุล อธิการบดีวิทยาลัยนครราชสีมาโดยปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ใดๆ โดยระบุว่า ติดธุระ ไม่สามารถพูดอะไรได้ อย่างไรก็ตาม รายละเอียดของเรื่องที่เกิดขึ้นตนได้ให้สัมภาษณ์ไปแล้วเมื่อวานนี้( 4 ก.พ. ) ซึ่งเป็นไปตามนั้นเหมือนเดิม คงยังไม่มีอะไรเพิ่มเติม
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้ (4 ก.พ.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา อ.เมืองฯ ได้มี นักศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์ชั้นปีที่ 3 และ ปี 4 ได้เดินทางไปพบกับ พ.ต.อ.วชิรวิชญ์ กฤษณ์ฤทธิ์ศักย์ รอง ผบก.ภ.นครราชสีมา เพื่อขอแจ้งความและให้ข้อมูลไว้เป็นหลักฐาน ก่อนที่ รอง ผบก.ภ.นครราชสีมา จะแนะนำให้ทั้งหมดเดินทางไปที่ สภ.โพธิ์กลางฯ โดยทั้งนักศึกษาชั้นปีที่ 3 และ 4 ของวิทยาลัยนครราชสีมา จำนวนกว่า 50 คน ได้เดินทางไปแจ้งความกับ พ.ต.ท.สมเงิน คู่ตระกูล สารวัตรเวร สภ.พิธิ์กลาง และ พ.ต.ท.อนันต์ พิมพ์เจริญ รอง ผกก.สส.สภ.โพธิ์กลางฯ โดยมี พ.ต.อ. วชิรวิชญ์ กฤษณ์ฤทธิ์ศักย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา และพ.ต.อ.พนันชัย ชื่นใจธรรม ผู้กำกับการ สภ.โพธิ์กลาง เป็นผู้มารับเรื่องด้วยตนเอง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งความสอบปากคำนักศึกษาทั้งหมด และจะเรียกทางผู้บริหารวิทยาลัยนครราชสีมามาสอบปากคำ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานว่าควรจะแจ้งข้อหาฉ้อโกงประชาชนหรือไม่ โดยนักศึกชั้นปีที่ 3 ได้ยื่นความประสงค์แจ้งความจำนวน 37 คน ส่วนนักศึกษาชั้นปีที่ 4 อีก 23 คน รวมที่เข้าแจ้งความจำนวน 60 คน พร้อมกับให้ทุกคนรวบรวมหลักฐานสำเนาบัตรประชาชน และเขียนชื่อผู้ปกครอง และประวัติการเข้าศึกษา ก่อนทำการสอบปากคำนักศึกษาที่เป็นหัวหน้าทีมชั้นปีที่ 3 และ ชั้นปีที่ 4 รวมทั้งตัวแทนแต่ละชั้น 3 - 5 คน ตามลำดับ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
พ.ต.อ.วชิรวิชญ์ กฤษณ์ฤทธิ์ศักย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งความไว้ก่อน และจะสอบสวนนักศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์ในแต่ละชั้นปีที่มาเข้าศึกษาเรียนที่วิทยาลัยฯ แต่ละชั้นปีที่มาเข้าเรียนในลายละเอียดของวิทยาลัยฯ ที่ประกาศไว้ตอนรับสมัครเป็นอย่างไรบ้าง โดยจะเรียกทางผู้บริหารสถานศึกษามาสอบสวน เพราะถือว่าเป็นสารสำคัญว่า ก่อนเข้าเรียนทางสถานศึกษาได้ประกาศโฆษณาไว้อย่างไรบ้าง หากสถานศึกษามีการปกปิดข้อเท็จจริง จะพิจารณาแจ้งข้อหาฉ้อโกงประชาชนต่อไป อย่างไรก็ตาม ผู้ใดที่เสียหายเราต้องสอบสวนทั้งหมด ส่วนถ้าเป็นการเข้าข่ายการปกปิดข้อเท็จจริง จะเป็นฉ้อโกงประชาชน กรณีที่ไม่สามารถจะออกใบประกอบวิชาชีพพยาบาลได้ ส่วนนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ที่แจ้งความไว้ที่กองปราบปรามนั้น การสอบสวนอะไรนั้น แล้วแต่ว่าทางกองปราบปรามจะส่งมารวมกับทาง สภ.โพธิ์กลาง หรือไม่ เพราะเป็นความผิดต่างกรรมต่างวาระ ซึ่งเรื่องนี้ไม่สามารถยอมความได้ เราจะให้ความมั่นใจกับนักศึกษา โดยจะว่ากันไปตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ โดยพิจารณาให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
นางสาวสรัลพร บุญธรรมวัด อายุ 22 ปี หรือ น้องกระแต นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะพยาบาลศาสตร์ ตัวแทนนักศึกษาที่เข้าแจ้งความ กล่าวทั้งน้ำตาด้วยความเสียใจและเสียความรู้สึกว่า พวกเราอยู่ปี 3 กำลังฝึกงานอยู่ที่ จ.บุรีรัมย์ ทราบเรื่องได้พากันเดินทางมา พร้อมกันทุกคน ขณะนี้ พวกตนไม่รู้ว่าจะได้รับการรับรองวิชาชีพจากสภาการพยาบาลหรือไม่ เพราะค่าเทอมที่ต้องจ่ายไปหลายแสนบาท ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะปีหนึ่งพวกตนสามารถกู้เงินจากกองทุนกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษาได้เพียงปีละ 8 หมื่นบาท และพวกตนต้องควักในส่วนที่เหลือเพื่อหาเงินมาจ่ายค่าเทอมให้ครบอีก
ส่วนบรรยากาศ ที่วิทยาลัยนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา พบว่า นักศึกษาหลายคณะ ส่วนใหญ่ยังคงเดินทางไปเรียนตามปกติ แต่นักศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์ชั้นปีที่ 1 - 4 เดินทางมาเรียนเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ซึ่งนักศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์ วิทยาลัยนครราชสีมามีนักศึกษา ชั้นปีที่ 1 - 4 รวมทั้งหมดประมาณ 200 คน และจากการสอบถามความรู้สึกและข้อเท็จจริงของนักศึกษาที่มาเรียนทราบว่า ส่วนใหญ่เพิ่งจะทราบปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ยังมั่นใจว่าทางคณะครูอาจารย์และผู้บริหารสถานศึกษาจะสามารถแก้ไขปัญหานี้ให้ผ่านพ้นไปได้
ผู้สื่อข่าว ได้พยายามติดต่อ เรืออากาศเอกนายแพทย์ศรัณย์ อินทกุล อธิการบดีวิทยาลัยนครราชสีมาโดยปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ใดๆ โดยระบุว่า ติดธุระ ไม่สามารถพูดอะไรได้ อย่างไรก็ตาม รายละเอียดของเรื่องที่เกิดขึ้นตนได้ให้สัมภาษณ์ไปแล้วเมื่อวานนี้( 4 ก.พ. ) ซึ่งเป็นไปตามนั้นเหมือนเดิม คงยังไม่มีอะไรเพิ่มเติม
ที่มา 
