ประชาสัมพันธ์

10 เมืองค่าเล่าเรียนถูกแบบไม่น่าเชื่อ!!!

สำหรับใครที่กำลังคิดจะไปเรียนต่อยังต่างประเทศ สิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึงนั่นก็คือ “budget” ในกระเป๋า เป็นที่รู้กันว่าขึ้นชื่อว่าไปเรียนต่อต่างประเทศแล้วค่าเล่าเรียนไม่ใช่น้อยๆ เลย ไหนจะค่าเทอม ค่าครองชีพ และค่าใช้จ่ายอีกจิปาถะ แต่วันนี้สิ่งที่หลายคนกังวลใจกำลังจะหมดไปเพราะ Life on campus ได้ไปเฟ้นหา 10 เมืองค่าเล่าเรียนถูกแบบไม่น่าเชื่อ (สำหรับนักศึกษาต่างชาติ) ประจำปี 2014 โดยมีดัชนีชีวัด คือค่าเล่าเรียน ต้นทุนการใช้ชีวิต ค่าบิ๊กแมค (Big Mac)และราคา iPad ในแต่ละประเทศ โดยน้ำหนักส่วนใหญ่จะเน้นไปที่ค่าเล่าเรียนเป็นหลัก บางเมืองไม่ต้องเสียค่าเล่าเรียนเลยด้วยซ้ำ และถ้าจะพูดถึงเรื่องมาตรฐานการศึกษาของทั้ง 10 เมืองแล้วการันตีได้เลยว่าไม่แพ้มหาวิทยาลัยในเมืองใหญ่ๆ อย่างแน่นอน 
       
       1. กัวลาลัมเปอร์ : มหานครแห่งสีสันและวัฒนธรรมอันหลากหลาย 
Kuala Lumpur
        ค่าเล่าเรียนเฉลี่ยต่อปี : $3,000 ประมาณ 97,290 บาท
       ราคาบิ๊กแมค : $2.33 ประมาณ 75 บาท
       ราคา iPad : $473.77 ประมาณ 15,364 บาท
       
        แม้ว่าจะเป็นเมืองหลวงที่อายุน้อยที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ “กรุงกัวลาลัมเปอร์” เมืองหลวงของประเทศมาเลเซีย กลับมีความเจริญทางด้านเศรษฐกิจเป็นอันดับสองรองจากประเทศสิงคโปร์ เมืองที่เต็มไปด้วยสีสันและวัฒนธรรมอันหลากหลายของคนหลายเชื้อชาติ ทิวทัศน์และบรรยากาศสวยงามที่สุดเมืองหนึ่ง ให้ทุกคนลองวาดภาพเมืองในสวนสวย แห่งกรุงกัวลาลัมเปอร์ที่เต็มได้ด้วยสวนสาธารณะหลายแห่ง เมืองสวยอากาศดีเหมาะอย่างยิ่งแก่การไปศึกษาต่อ และที่สำคัญ “ค่าเล่าเรียน และค่าครองชีพ” ถูกอย่างไม่น่าเชื่อ นักศึกษาชาวต่างชาติที่อยากไปเรียนต่อ สามารถจ่ายได้สบายๆ แถมยังอนุญาตให้ทำงานระหว่างเรียนได้อีกด้วย เรื่องการขอวีซ่าเข้าไปศึกษาต่อก็ไม่ยุ่งยากแต่อย่างใด จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้กัวลาลัมเปอร์ติดอยู่ในอันดับที่ 43 เมืองที่ดีที่สุดสำหรับนักศึกษาในทุกด้าน ค่าเล่าเรียนเฉลี่ยแล้วอยู่ที่ประมาณ $3,000 หรือ 97,290 บาท ต่อปี บอกได้เลยว่าที่นี่คือจุดมุ่งหมายปลายทางแห่งการศึกษาที่สงบไม่วุ่นวาย และมีโอกาสอีกมากมายรอคุณอยู่ที่มหานครแห่งนี้
       
       มหาวิทยาลัยชั้นนำ : มหาวิทยาลัยมาลายา (Universiti Malaya : UM), มหาวิทยาลัยอิสลามนานาชาติ มาเลเซีย (International Islamic University Malaysia : IIUM), Universiti Teknologi MARA (UiTM)
       
       2. เม็กซิโก ซิตี้ : เมืองใหญ่แห่งแสงสียามราตรี 
Mexico City
        ค่าเล่าเรียนเฉลี่ย : $3,800 ประมาณ 123,234 บาท
       ราคาบิ๊กแมค : $2.70 ประมาณ 87 บาท
       ราคา iPad : $591.62 ประมาณ 19,186 บาท
       
        1 ใน 3 ประเทศในแถบลาตินอเมริกาที่ติดอันดับ 50 เมืองที่ดีที่สุดสำหรับนักศึกษา “เม็กซิโก ซิตี้” เมืองที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดในโลก และยังเป็นเมืองในฝันของคนที่ชอบแสงสียามราตรี รับรองได้ว่าเม็กซิโก ซิตี้ ไม่ทำให้คุณผิดหวังอย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ และการศึกษาอีกหลายแห่งจนได้ชื่อว่าเป็นเมืองอันดับต้นๆ ที่มีพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลกอีกด้วย เช่น พิพิธภัณฑ์มานุษยวิทยาแห่งชาติ (National Museum of Anthropology), พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ (National Museum of History), พิพิทธภัณฑ์บ้านฟรีด้า คาโล (The Blue House of Frida Kahlo), และพิพิทธภัณฑ์ศิลปะดิเอโก้ ริเวร่า (Anahuacalli Museum) ส่วนค่าใช้จ่ายสำหรับคนที่สนใจอยากจะเรียนต่อที่ประเทศเม็กซิโกบอกเลยว่าไม่แพงอย่างที่คิด ค่าเล่าเรียนเฉลี่ยจะอยู่ที่ $3,800 หรือประมาณ 123,234 บาท ต่อปี ค่าอาหารและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ค่อนข้างต่ำ เหมาะสำหรับนักศึกษาชาวต่างชาติที่มีงบจำกัด แต่ชอบอยู่ในเมืองใหญ่...เม็กซิโก ซิตี้ สิใช่เลย
       
       มหาวิทยาลัยชั้นนำ : มหาวิทยาลัยเสรีแห่งชาติเม็กซิโก (Universidad Nacional Autónoma de México : UNAM), สถาบันโปลีเทคนิคแห่งชาติ (Instituto Politécnico Nacional : IPN), Universidad Iberoamericana (UIA), Instituto Tecnológico Autonomo de México (ITAM), Universidad Autónoma del Estado de México, Universidad Autónoma Metropolitana (UAM), Universidad Anahuac
       
       3. ไทเป : เสน่ห์เมืองหลวงแห่งไต้หวัน 
Taipei
        ค่าเล่าเรียนเฉลี่ย : $2,500 ประมาณ 81,075 บาท
       ราคาบิ๊กแมค : $2.48 ประมาณ 80 บาท
       ราคา iPad : $538.34 ประมาณ 17,458 บาท
       
        หลายคนคงจะเคยได้ยินชื่อ “Taipei 101 Tower” หรือ “ตึกไทเป 101” ที่เคยเป็นตึกที่สูงที่สุดในโลก และทำให้เมืองไทเปโด่งดังมาก มีบรรยากาศยามค่ำคืนที่คึกคักสนุกสนาน อาหารนานาชาติมากมาย และยังเป็นหนึ่งในเมืองขนาดใหญ่ในทวีปเอเชียที่มีย่านการค้าที่คับคั่งที่สุด นอกจากด้านความทันสมัยแล้ว ไทเปยังคงรักษาไว้ซึ่งวัฒนธรรมอันเก่าแก่ ในตัวเมืองยังมีโบราณสถาน ถนนสายเก่า และวัดวาอาราม ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์อยู่มากมาย อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงอยู่ในอันดับโลกหลายแห่ง จนติดอันดับเมืองที่มีค่าเล่าเรียนถูกเหมาะสำหรับนักศึกษาต่างชาติที่งบน้อย ค่าเล่าเรียนจะอยู่ที่ประมาณ $2,500 ประมาณ 81,075 บาท ต่อปี นอกจากจะมีค่าเล่าเรียนที่ถูกแสนถูกแล้ว ค่าครองชีพยังค่อนข้างต่ำอีกด้วย ค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตอยู่ในไต้หวันอยู่สบายๆ ที่ประมาณเดือนละ $600-$800 หรือประมาณ 19,458 - 25,944 บาท (รวมค่าอาหาร ค่าที่พัก ค่าตำราเรียน ค่าเดินทาง และค่าใช้จ่ายอื่นๆ) หากเทียบกับเมืองใหญ่อื่นๆ ของโลกแล้วค่าใช้จ่ายในเมืองไทเปยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่สมเหตุสมผลอยู่พอสมควร และยังมีมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในเมืองนี้ให้เลือกอีกมากมายหลายแห่งด้วยกัน
       
       มหาวิทยาลัยชั้นนำ : มหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวัน (National Taiwan University :NTU), มหาวิทยาลัยแห่งชาติหยางหมิง (National Yang Ming University), มหาวิทยาลัยแพทย์ศาสตร์ไทเป (Taipei Medical University : TMU), มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไต้หวัน (National Taiwan University of Science and Technology), มหาวิทยาลัยซือฟ่าน (National Taiwan Normal University), มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีแห่งเมืองไทเป (National Taipei University of Technology), มหาวิทยาลัยแห่งชาติเจิ้งจื้อ (National Chengchi University), มหาวิทยาลัยคาทอลิกฟูเจน (Fu Jen Catholic University)
       
       4. เบอร์ลิน : เมืองแห่งประวัติศาสตร์อันขมขื่น 


Berlin
        ค่าเล่าเรียนเฉลี่ย : $0 ไม่เสียค่าเล่าเรียน
       ราคาบิ๊กแมค : $4.34 ประมาณ 140.75 บาท
       ราคา iPad : $618.34 ประมาณ 20,052 บาท
       
        “กำแพงเบอร์ลิน” ประวัติศาสตร์อันขมขื่นที่มนุษยชาติมิอาจลืมเลือน อิสรภาพที่แลกมาด้วยหยดเลือดและหยาดน้ำตา หลังจากกำแพงเบอร์ลินถูกทำลายลงไป ทำให้ชาวเยอรมันทั้งสองฟากฝั่งมีเสรีภาพที่จะสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ได้มากขึ้น รวมทั้งทำให้เบอร์ลินกลับมาเป็นเมืองที่มีชีวิตชีวาอีกครั้ง และยังกลายมาเป็นเมืองที่ดีที่สุดสำหรับนักศึกษาในทุกด้าน สิ่งสำคัญที่ช่วยในการส่งเสริมให้เบอร์ลินกลายเป็นเมืองแห่งการศึกษาก็คือ มหาวิทยาลัยของรัฐบาลส่วนใหญ่จะไม่เก็บค่าเล่าเรียน ทั้งนักศึกษาในท้องถิ่น และนักศึกษาชาวต่างชาติ (ยกเว้นหลักสูตรปริญญาโทบางส่วน) แม้จะไม่มีค่าเล่าเรียน แต่เบอร์ลินก็ยังมีค่าครองชีพที่ค่อนข้างสูงกว่า 3 ประเทศที่กล่าวมาแล้วพอสมควร แต่ก็ยังถือว่าถูกกว่าในบรรดาประเทศในยุโรปตะวันตก อย่างลอนดอนหรือปารีส แถมยังมีทิวทัศน์ที่สวยงามไม่แพ้กัน และมีมหาวิทยาลัยชั้นนำที่ติดอยู่ใน 100 อันดับมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลกอย่าง มหาวิทยาลัยเสรีแห่งเบอร์ลิน (Freie Universität Berlin) มหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุดในเบอร์ลิน และมีอันดับสูงสุดในประเทศเยอรมนีตั้งอยู่ที่เมืองแห่งนี้อีกด้วย
       
       มหาวิทยาลัยชั้นนำ : มหาวิทยาลัยเสรีแห่งเบอร์ลิน (Freie Universität Berlin), มหาวิทยาลัยฮุมโบลด์ทแห่งเบอร์ลิน (Humboldt-Universität zu Berlin) และ มหาวิทยาลัยเทคนิกแห่งเบอร์ลิน (Technische Universität Berlin)
       
       5. มิวนิค : เมืองแห่งเทศกาลเบียร์และคอบอล 


Munich
        ค่าเล่าเรียนเฉลี่ย : $1,000 ประมาณ 32,430 บาท
       ราคาบิ๊กแมค : $4.34 ประมาณ 140.75 บาท
       ราคา iPad : $618.34 ประมาณ 20,052 บาท
       
        ใครๆ ก็รู้ว่า “เยอรมนี” คือเมืองแห่งเบียร์ ไม่เพียงเป็นประเทศที่ประชาชนดื่มเบียร์มากที่สุดในโลก แต่ยังเป็นประเทศที่ผลิตเบียร์ได้มากกว่า 5,000 ชนิดอีกด้วย เราจะพบโรงบ่มเบียร์ได้ทั่วไปในประเทศเยอรมนี อย่างในเมือง “มิวนิก” เมืองหลวงของรัฐบาวาเรีย ที่ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ รองจากเบอร์ลิน และฮัมบูร์ก หนึ่งในเมืองที่มั่งคั่งที่สุดของยุโรป ถูกขนานนามว่าเป็น “เมืองแห่งเทศกาลเบียร์และคอบอล” และสีสันแห่งเมืองเศรษฐกิจ อีกหนึ่งเมืองในประเทศเยอรมนีที่ดีที่สุดสำหรับนักเรียนนักศึกษาที่กำลังมองหาเมืองเพื่อไปศึกษาต่อ ไม่ฟรีค่าเล่าเรียนเหมือนที่เบอร์ลิน แต่ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำมาก คิดเฉลี่ยต่อปีแล้วตกอยู่ที่ประมาณ $1,000 ประมาณ 32,430 บาท แต่ก็มีแนวโน้มว่ารัฐบาลจะประกาศยกเลิกค่าเล่าเรียนในไม่ช้า ใครสนใจก็ต้องลองติดตามกันต่อไป
       
       มหาวิทยาลัยชั้นนำ : มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีแห่งมิวนิก (Technische Universität München) และมหาวิทยาลัยลุดวิก แม็กซิมิลเลียนแห่งมิวนิค (Ludwig-Maximilians-Universität München) 
       
       6. เมืองเซี่ยงไฮ้ : นครปารีสแห่งตะวันออก 


Shanghai
        ค่าเล่าเรียนเฉลี่ย : $3,000 ประมาณ 97,290 บาท
       ราคาบิ๊กแมค : $2.45 ประมาณ 79 บาท
       ราคา iPad : $618.34 ประมาณ 19,539 บาท
       
        “เซี่ยงไฮ้” เมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน และมีเศรษฐกิจขนาดใหญ่และเติบโตเร็วที่สุด จนได้รับการขนานนามว่าเป็น "นครปารีสแห่งตะวันออก" ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มมหานครไฮโซอันดับ 5 ของโลก รองจาก กรุงวอชิงตันดี.ซี., นิวยอร์ก, ลอนดอน และปารีส มหานครเซี่ยงไฮ้จึงนับเป็นความภูมิใจของชาวจีน ในด้านความก้าวหน้า และทันสมัย เมืองที่มีการผสมผสานทางด้านวัฒนธรรม ทั้งของจีนและตะวันตกได้อย่างกลมกลืน แม้ในความเป็นจริงแล้วประเทศจีนถูกจัดอันดับว่าเป็นประเทศที่มีค่าครองชีพสูงมากสำหรับคนที่จะมาอาศัยอยู่ที่นี่ แต่แทบไม่น่าเชื่อว่า “เซี่ยงไฮ้” จะเป็นเมืองหนึ่งที่มีอัตราค่าครองชีพและค่าเล่าเรียนที่ถูกที่สุดในโลก พอๆ กับค่าครองชีพและค่าเล่าเรียนในประเทศมาเลเซีย เฉพาะค่าเล่าเรียนเฉลี่ยแล้วอยู่ที่ $3,000 หรือประมาณ 97,290 บาท ต่อปี มีมหาวิทยาลัยชั้นนำที่ติดอันดับโลกหลายแห่งตั้งอยู่ที่เมืองแห่งนี้อีกด้วย 
       
       มหาวิทยาลัยชั้นนำ : มหาวิทยาลัยฟูตัน (Fudan University), มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เจียวทง (Shanghai Jiao Tong University), มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ (Shanghai University) และ มหาวิทยาลัยถงจี้ (Tongji University)
       
       7. ลียง : เมืองมรดกโลกแห่งฝรั่งเศส 


Lyon
        ค่าเล่าเรียนเฉลี่ย : $1,000 ประมาณ 32,430 บาท
       ราคาบิ๊กแมค : $4.34 ประมาณ 140.75 บาท
       ราคา iPad : $688.49 ประมาณ 22,327 บาท
       
        ในขณะที่ปารีสอยู่ในอันดับ 1 เมืองที่ดีที่สุดสำหรับนักศึกษา จัดอันดับโดย QS ประจำปี 2014 แต่ก็ยังมีเมืองสำคัญอีกแห่งหนึ่งของประเทศฝรั่งเศสอย่าง“ลียง (Lyon)” ที่ติดอันดับเมืองที่มีค่าใช้จ่ายน้อยที่สุดสำหรับนักศึกษาต่างชาติ ในปี 2014 ด้วยเช่นกัน “ลียง” เมืองที่มีสัญลักษณ์เป็นสิงโต มีประวัติศาสตร์และความเป็นมาอันยาวนาน จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก มีทั้งวิหารเก่าแก่ สถาปัตยกรรมโรมันอันคลาสสิค และพิพิธภัณฑ์ศิลปะลือชื่อ เป็นเมืองทอผ้าไหมฝรั่งเศสที่งดงาม ดินแดนแห่งนี้ยังขึ้นชื่อเรื่องเทศกาลสุดยิ่งใหญ่ อย่าง “The Festival of Lights” หรือเทศกาลที่ทุกคนจะร่วมจุดเทียนทุกบ้านและทั่วท้องถนนเพื่อระลึกถึงพระแม่มารี ลียงเป็นเมืองใหญ่อันดับสองรองจากปารีส เมืองสำคัญทางธุรกิจ และยังมีมาตรฐานด้านการศึกษาอยู่ในอันดับต้นๆ ของประเทศ ค่าเล่าเรียนแสนถูก เพียง $1,000 หรือ 32,430 บาทต่อปี เท่านั้น และค่าครองชีพโดยรวมก็ไม่สูงเหมือนในเมืองหลวงอีกด้วย
       
       มหาวิทยาลัยชั้นนำ : โรงเรียนวิชาชีพชั้นสูง Ecole Normale Supérieure de Lyon, Université Claude Bernard Lyon 1, Université Lumière Lyon 2 และ Université Jean Moulin Lyon 3 
       
       8. บรัสเซลส์ : ศูนย์กลางแห่งสหภาพยุโรป (EU) 


Brussels
        ค่าเล่าเรียนเฉลี่ย : $1,000 ประมาณ 32,430 บาท
       ราคาบิ๊กแมค : $4.34 ประมาณ 140.75 บาท
       ราคา iPad : $618.34 ประมาณ 19,539 บาท
       
        เมืองหลวงของประเทศเบลเยี่ยม และเป็นศูนย์กลางหรือเมืองหลวงอย่างไม่เป็นทางการของสหภาพยุโรป มีหน่วยงานสำคัญ 2 หน่วยงาน คือ คณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) และคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรป (Council of the European Union) ที่มีสำนักงานใหญ่ในกรุงบรัสเซลส์ นอกจากเป็นสถานที่ราชการแล้วบรัสเซลส์ก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามอีกมากมาย อย่าง “กรองด์ปลาซ (แกรนด์ เพลซ)” จัตุรัสที่สวยงามที่สุด เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมที่เก่าแก่สมัยบาโร้ค โกธิค และนีโอ - โกธิค จนได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอีกหนึ่งเมือง ที่มีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์ นอกจากนี้เมืองบรัสเซลส์ยังเรียกได้ว่าเป็นเมืองสองภาษา โดยจะมีภาษาหลักที่ใช้ในเมืองนี้ด้วยกัน 2 ภาษา คือภาษาฝรั่งเศสและดัทช์ คนในเมืองก็จะพูดฝรั่งเศส ส่วนนอกเมืองก็จะเป็นภาษาดัทช์ซะส่วนใหญ่ ภาษาอังกฤษจะใช้น้อยมากที่นี่ หากใครสนใจจะมาศึกษาต่อควรจะต้องเตรียมการเรื่องภาษามาก่อน แม้ว่าจะมีค่าเล่าเรียนที่ค่อนข้างถูก แต่อุปสรรคเรื่องภาษาก็เป็นส่วนสำคัญสำหรับนักศึกษาต่างชาติที่จะตัดสินใจมาเรียนต่อด้วยเช่นกัน
       
       มหาวิทยาลัยชั้นนำ : มหาวิทยาลัย Université Libre de Bruxelles (ULB) และ มหาวิทยาลัย Vrije Universiteit Brussel (VUB) 
       
       9. เฮลซิงกิ : ธิดาแห่งทะเลบอลติก 


Helsinki
        ค่าเล่าเรียนเฉลี่ย : $0
       ราคาบิ๊กแมค : $4.34 ประมาณ 140.75 บาท
       ราคา iPad : $695.25 ประมาณ 22,547 บาท
       
        เมืองหลวงของประเทศฟินแลนด์ หรือ สาธารณรัฐฟินแลนด์ ที่ใครๆ ก็รู้จักดี “เฮลซิงกิ” แต่เดิมไม่ได้เป็นเมืองหลวงของประเทศฟินแลนด์ แต่เพิ่งมาสถาปนาเมื่อสมัยที่อยู่ภายใต้การปกครองของรัสเซีย ค.ศ. 1812 จึงทำให้เฮลซิงกิมีวัฒนธรรมที่ผสมผสานระหว่างตะวันออกและตะวันตก รวมทั้งมีสถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่งดงาม ที่มีตั้งอยู่ท่ามกลางหมู่เกาะมากมาย จนได้รับการขนานนามว่า “ธิดาแห่งทะเลบอลติก” แม้ว่าจะเป็นเมืองหลวงที่มีขนาดที่ไม่ใหญ่โตนัก แต่เฮลซิงกิกลับเป็นเมืองที่มีเสน่ห์และมีชีวิตชีวามาก ผู้คนในเมืองก็มีอัธยาศัยดี จนเมื่อปี ค.ศ. 2000 เมืองแห่งนี้ก็ได้รับยกย่องว่าเป็นเมืองหลวงแห่งวัฒนธรรมของยุโรปอีกด้วย แค่ฟังประวัติความเป็นมาก็น่าหลงใหลอย่างบอกไม่ถูก แต่ใครจะรู้ว่าเรื่องดีๆ ยังมีขึ้นที่เมืองแห่งนี้อีก นั่นก็คือ ประเทศฟินแลนด์ส่วนใหญ่จะไม่เสียค่าใช้จ่ายในการศึกษาเล่าเรียน ทั้งคนในท้องถิ่นและคนต่างชาติ ที่เหลือก็รับผิดชอบเพียงค่าใช่จ่ายและค่าครองชีพเท่านั้น 
       
       มหาวิทยาลัยชั้นนำ : มหาวิทยาลัยเฮลซิงกิ (University of Helsinki) และมหาวิทยาลัยอัลโต (Aalto University) 
       
       10. ฮ่องกง : เมืองแห่งสีสันและสวรรค์ของนักช้อป 


Hong Kong
        ค่าเล่าเรียนเฉลี่ย : $12,000 ประมาณ 392,403 บาท
       ราคาบิ๊กแมค : $2.13 ประมาณ 69 บาท
       ราคา iPad : $501.52 ประมาณ 16,264 บาท
      
        มาถึงอันดับสุดท้าย เมืองที่ใกล้กับประเทศไทยนิดเดียว แต่มีค่าเล่าเรียนสูงที่สุดในบรรดาเมืองต่างๆ ที่กล่าวมา เฉลี่ยแล้วตกอยู่ที่ $12,000 ประมาณ 392,403 บาท ต่อปี แถมยังติดอยู่ในอันดับ 3 เมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลกสำหรับชาวต่างชาติอีกด้วย “ฮ่องกง” หรือมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า“เขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน” เกาะเล็กๆ ที่ไม่เคยหลับใหลเต็มไปด้วยผู้มาเยือนจากทั่วทุกมุมโลก มนต์เสน่ห์ของตึกสูงระฟ้า ธรรมชาติที่งดงาม รวมไปถึงแหล่งช้อปปิ้งมากมายที่เรียกได้ว่าเป็นเมืองสวรรค์ของนักช้อปเลยทีเดียว แม้จะมีค่าเล่าเรียนที่สูงสุดใน 10 เมือง แต่ก็ไม่สูงจนเกินไปนัก แต่ถ้าดูค่าเฉลี่ยของค่าอาหารแล้วยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ค่อนข้างถูก หากรวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดก็ยังถูกกว่าไปศึกษาต่อที่ประเทศในแถบยุโรปอยู่ดี อีกทั้งยังมีมหาวิทยาลัยชั้นนำให้เลือกหลายแห่งด้วยเช่นกัน ใครที่สนใจมาศึกษาต่อที่เกาะฮ่องกงแห่งนี้รับรองไ้ด้ว่าไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน
      
       มหาวิทยาลัยชั้นนำ : มหาวิทยาลัยฮ่องกง (University of Hong Kong : HKU), มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีฮ่องกง (The Hong Kong University of Science and Technology : HKUST), มหาวิทยาลัยจีนแห่งฮ่องกง (The Chinese University of Hong Kong : CUHK), มหาวิทยาลัยแห่งเกาะเกาลูน (City University of Hong Kong), มหาวิทยาลัยฮ่องกงโปลีเทคนิก (The Hong Kong Polytechnic University), มหาวิทยาลัยแบ๊บติสต์ฮ่องกง (Hong Kong Baptist University : HKBU), มหาวิทยาลัยหลิงหนาน Lingnan University (Hong Kong) 
      
       ที่มา :  Topuniversity ,    





Blogger Comment
Facebook Comment

:ambivalent:
:angry:
:confused:
:content:
:cool:
:crazy:
:cry:
:embarrassed:
:footinmouth:
:frown:
:gasp:
:grin:
:heart:
:hearteyes:
:innocent:
:kiss:
:laughing:
:minifrown:
:minismile:
:moneymouth:
:naughty:
:nerd:
:notamused:
:sarcastic:
:sealed:
:sick:
:slant:
:smile:
:thumbsdown:
:thumbsup:
:wink:
:yuck:
:yum:

loading...

Facebook

นิยม

บทความ

loading...