"จิ๊บ-ปกฉัตร" ขอโทษกรณีทำผมทรงโมฮอว์กรับปริญญา แต่ตั้งข้อสังเกตไม่มีใครเตือนเรื่องทรงผมเลย ทั้งที่พร้อมจะเปลี่ยนหากไม่ถูกระเบียบ ขอรับผิดคนเดียว วอนอย่าด่าถึงพ่อแม่-ครูอาจารย์ และสถาบัน..
กรณีชาวเน็ตโพสต์ ข้อความโจมตี ดาราพิธีกรสาว "จิ๊บ" ปกฉัตร เทียมชัย กรณีมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒน์ (มศว.) ประสานมิตร ด้วยการทำทรงผม "โมฮอว์ก" สีทอง เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ผิดไปจากระเบียบของบัณฑิตที่จะเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร
(จากประเด็นร้อนบนเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ในกระทู้ A8656553 ขอตำหนิ น้องจิ๊ป ปกฉัตร เทียมชัย ที่แสดงกิริยาไม่สำรวมในพระราชพิธีพระราชทานปริญญาบัตรวันนี้http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A8656553/A8656553.html และกระทู้ A8660389 ขอตำหนิ น้องจิ๊ป ปกฉัตร เทียมชัย ที่แสดงกิริยาไม่สำรวมในพระราชพิธีพระราชทานปริญญาบัตร 2{แตกประเด็นจาก A8656553}http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A8660389/A8660389.html)
เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. จิ๊บ-ปกฉัตร เทียมชัย เปิดเผยความรู้สึกหลังตกเป็นประเด็นถูกสังคมรุมประณาม โดยกล่าวทั้งน้ำตานองหน้าว่า ตอนแรกคิดหนักมากว่าจะทำทรงผมอย่างไรให้เก็บผมได้เรียบที่สุด ไม่รกรุงรัง ไม่ให้ผมสักเส้นโผล่ออกมา เพราะจะดูเหมือนว่าไม่เกรงใจพระองค์ท่าน ไม่ให้เกียรติพิธี และสถานที่จัดงาน อีกทั้งไม่อยากให้ทรงผมดูแก่ และภาพนี้ต้องประดับฝาบ้าน และภาพถ่ายจากด้านข้าง จึงทำผมให้ด้านข้างเรียบตึงที่สุด ส่วนที่ผมเป็นสีทองนั้น เนื่องจากตรงกลางผมของตัวเองไม่ได้เป็นสีดำสนิท และปลายผมยังเสีย จึงดูเป็นสีทอง ซึ่งไม่มีทางทำให้ดำได้
"จิ๊บ" กล่าวต่อว่า ส่วนผมด้านหลังไม่อยากมวยผมให้ดูแก่ จึงมวยผมเป็นรูปทรงกล้วยหอม เป็นก้อนตรงกลาง ยอมรับว่าทรงผมที่ทำดูแปลก และไม่เคยมีดาราคนไหนทำทรงผมลักษณะนี้ ยอมรับว่าผิดจริงในการทำทรงผม แต่ทรงนี้เกิดหลังจากรับปริญญาแล้ว อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวขอตั้งข้อสังเกตว่าทำไมก่อนรับปริญญา ไม่มีใครบอกว่าทรงผมไม่เหมาะสม ซึ่งตนยินดีพร้อมที่จะเปลี่ยนอยู่แล้ว แต่กลับมาบอกในวันที่ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้แล้ว
"วันรับปริญญาเมื่อได้รับควรเป็นวันที่น่าดีใจ แต่ทำไมต้องได้รับเสียงรุมประณามทั้งตัวเอง พ่อแม่ และครูอาจารย์ รวมถึงมหาวิทยาลัย แค่วันนั้นทุกคนพูดมาคำเดียวเรื่องนี้ก็จบ"
ดาราสาว กล่าวต่อว่า วันที่ซ้อมพิธีฯ ตนทำทรงผมอีกทรงหนึ่ง และเป็นทรงที่ทำเอง แต่ไม่แตกต่างจากวันจริงมากนัก ส่วนวันจริงอาจารย์ที่ควบคุมบัณฑิต ก็พยายามคอยเตือนไม่ให้ลืมขั้นตอนการขึ้นรับ และไม่ให้มีพฤติกรรมเปิ่นออกมาในระหว่างพิธี แต่กับทรงผมไม่มีใครมาเตือนเลย เพราะนอกจากอาจารย์แล้ว ยังมีเจ้าหน้าที่กรรมการฝ่ายต่างๆ รวมทั้งเจ้าหน้าที่จากสำนักพระราชวัง ต้องไม่ให้ผ่าน แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี
ส่วนที่มีการวิจารณ์พฤติกรรมการแสดงออกที่ไม่สำรวมในระหว่างพิธีพระราชทานปริญญาบัตรนั้น ยอมรับว่าตื่นเต้นมากเพราะพยายามท่องจำทุกขั้นตอน ตั้งแต่เดินขึ้นเวที ยื่นมือรับใบปริญญา ประกอบกับการต้องทำเวลาให้ทันกับชื่อบัณฑิต แต่ว่าสุดท้ายก็มีพลาดลืมถอนสายบัวก่อนนั่ง พอรู้ตัวว่าพลาดก็เลยรีบลุกขึ้นแล้วถอนสายบัวก่อนนั่งลงอีกครั้ง ส่วนภาพการนั่งไขว่ห้างนั้น เป็นวันซ้อมใหญ่ วันจริงไม่ได้ทำ
"การที่คนคนหนึ่งตื่นเต้นมากที่ได้รับปริญญาใบแรก และเป็นครั้งแรกที่ได้เจอพระองค์ท่านต่อหน้าพระพักตร์ จนทำอะไรผิดพลาดแบบนี้มีความผิดมากมาย ถึงกับอ่านในกระทู้มีคนเสนอให้ทำเรื่องถอดถอนใบปริญญา หรือถอนชื่อบัณฑิตออก รวมถึงว่าไปถึงสถาบันการศึกษา พ่อแม่ครูอาจารย์ ดังนั้นความผิดนี้หนูขอรับผิดคนเดียว อย่าได้ว่าครูอาจารย์ หรือพ่อแม่อีกเลย ต้องขอโทษคุณพ่อคุณแม่ อาจารย์ และเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัย เพื่อนนิสิต มศว. และบัณฑิตที่เข้าพิธีทุกคนที่ได้รับความอับอาย รวมทั้งทางมหาวิทยาลัยที่เสื่อมเสียชื่อเสียง"
ดาราสาวกล่าวด้วยว่า วันนี้หลังจากที่อ่านกระทู้มาทั้งวัน ไม่ทราบว่าเวลานี้แม่จะรู้สึกอย่างไร แต่ครั้งล่าสุดที่คุยกันแม่เสียใจมากที่มีคนมาว่าลูกสาว
ขอบคุณข้อมูลภาพจากเว็บพันธุ์ทิพย์ดอทคอม