ประชาสัมพันธ์

ยามาฮ่า รุกตลาดเครื่องเรือยนต์ เปิดศูนย์บริการมาตรฐานญี่ปุ่นแห่งแรกในไทย


มร.เท็ตสึยะ อินะมูระ ประธานกรรมการบริหาร  พร้อมด้วย นายประพันธ์ พลธนะวสิทธิ์         รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด และผู้บริหารระดับสูง บริษัท   ยามาฮ่ามอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น ร่วมทำพิธีเปิดศูนย์บริการเครื่องเรือยนต์ยามาฮ่าแห่งแรก       ในประเทศไทยที่ตั้งขึ้นใน จ.ภูเก็ต เพื่อรองรับการเจริญเติบโตของเครื่องเรือยนต์ 4 จังหวะ และเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในการบริการหลังการขายให้กับลูกค้ายามาฮ่า โดยพิธีเปิดศูนย์ฯ อย่างเป็นทางการนี้จัดขึ้น ณ ศูนย์บริการเครื่องเรือยนต์ยามาฮ่า อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต เมื่อเร็วๆ นี้

ข้อมูลเพิ่มเติม

ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ ขยายธุรกิจเต็มสูบ
เปิด“ศูนย์บริการเครื่องเรือยนต์ยามาฮ่า สาขาภูเก็ต”
บริการครบวงจร มาตรฐาน Yamaha Marine ประเทศญี่ปุ่น

บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด เดินหน้าขยายธุรกิจเครื่องยนต์ทางน้ำยามาฮ่าทุกประเภทซึ่งเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์สำคัญของยามาฮ่า โดยล่าสุดได้เปิดศูนย์บริการเครื่องเรือยนต์ยามาฮ่า ขึ้นที่ จ. ภูเก็ต เพื่อรองรับการเจริญเติบโตของเครื่องยนต์ 4 จังหวะ พัฒนาบริการหลังการขายให้กับลูกค้ายามาฮ่าตามมาตรฐานของยามาฮ่า ประเทศญี่ปุ่น โดยมีความพร้อมทางด้านอุปกรณ์ และเครื่องมือต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นมาตรฐานของช่าง เครื่องมือพิเศษ บ่อทดสอบเครื่องเรือพร้อมระบบทดสอบเซ็นเซอร์ ซึ่งมีครบถ้วนตามมาตรฐานของญี่ปุ่น

สำหรับพิธีเปิดศูนย์บริการเครื่องเรือยนต์ยามาฮ่าอย่างเป็นทางการ ได้จัดขึ้นเมื่อ      วันที่ 27 พฤษภาคม 2558 โดยได้รับเกียรติจาก มร.เท็ตสึยะ อินะมูระ ประธานกรรมการบริหาร พร้อมด้วย นายประพันธ์ พลธนะวสิทธิ์ รองประธานกรรมการบริหาร, มร.เคทาโระ โฮะริโคะชิ รองผู้จัดการใหญ่ ด้านวางแผนและสนับสนุนลูกค้า, นายธีระพงษ์ โอภาสกรกุล ผู้จัดการทั่วไปอาวุโส ฝ่ายบริการ อะไหล่ และความพึงพอใจของลูกค้า และผู้บริหารระดับสูง บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด และ นายธเนศ เสถียรพันธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วัชรมารีน จำกัด ร่วมทำพิธีเปิดในครั้งนี้
นายประพันธ์ พลธนะวสิทธิ์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัดได้กล่าวถึงวัตถุประสงค์การเปิดศูนย์บริการเครื่องเรือยนต์ยามาฮ่าในครั้งนี้ว่า
“จังหวัดภูเก็ต นับเป็นจังหวัดยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวทางทะเลที่สำคัญของไทย โดยเฉลี่ยมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นประมาณ 25% เมื่อเทียบจากปี 2557 ทำให้ธุรกิจท่องเที่ยวทางเรือมีการเติบโตขึ้นมาก
·         เพื่อรองรับการเติบโตและเชื่อมั่น รวมทั้งเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการทางเรือในภูเก็ตและจังหวัดอื่นๆในเขตภาคใต้ เราจึงเปิดศูนย์บริการเครื่องเรือยนต์ยามาฮ่า ขึ้นที่ภูเก็ต โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้
·         เพื่อเป็นศูนย์อบรมเทคนิคเครื่องเรือยนต์เพื่อสนับสนุนหน่วยงานราชการและช่างอิสระในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตและจังหวัดอื่นๆในเขตภาคใต้
·         เพื่อเป็นศูนย์ซ่อมเครื่องเรือยนต์ในระยะรับประกัน พร้อมเครื่องสำรองให้ใช้งาน มีบริการงานซ่อม ให้คำปรึกษาและคำแนะนำแก่ผู้ประกอบการทุกท่าน
·         มีคลังอะไหล่ที่พร้อมบริการ สามารถจัดส่งอะไหล่ได้ภายใน 48 ชม. และจัดจำหน่ายในราคามาตรฐาน”

ศูนย์บริการเครื่องเรือยนต์ยามาฮ่าแห่งนี้ ถือเป็นศูนย์บริการฯ ที่มีมาตรฐานการให้บริการเกี่ยวกับธุรกิจมารีนโดยเฉพาะ โดยช่างของศูนย์บริการฯ จะได้รับการฝึกอบรม ตามหลักสูตร YTA (Yamaha Technical Academy) และมีผู้ชำนาญการจากยามาฮ่าประเทศญี่ปุ่นมาประจำการอยู่ที่นี่ด้วย เพื่อเป็นที่ปรึกษา และคอยฝึกอบรมให้ดำเนินการตามมาตรฐาน และยังเป็นที่ปรึกษาทางด้านเทคนิคด้วย โดยมีความพร้อมทางด้านอุปกรณ์และเครื่องมือต่างๆ เครื่องมือพิเศษ บ่อทดสอบเครื่องเรือยนต์พร้อมเครื่องมือวิเคราะห์ ซึ่งมีครบถ้วนตามสเปคต่างๆ ตามมาตรฐานของญี่ปุ่น

นอกจากนี้ศูนย์บริการฯ แห่งนี้ ยังเป็นศูนย์ฝึกอบรมเครื่องยนต์เรือให้กับหน่วยงานราชการ เพื่อที่จะสามารถใช้ และบำรุงรักษาเครื่องยนต์เรือได้อย่างถูกต้องรวมถึงการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้ด้วย สำหรับช่างอิสระ ทางศูนย์บริการฯก็ยินดีที่จะฝึกอบรม และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ให้ข้อมูลการซ่อมเครื่อง ร่วมถึงเทคโนโลยีใหม่ๆที่เข้ามาในอนาคต ทั้งนี้ทางศูนย์บริการฯ ยังมีเครื่องสำรองไว้รองรับสำหรับลูกค้าที่เครื่องยนต์มีปัญหาระหว่างอยู่ในเงื่อนไข ระยะรับประกันเพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้ายามาฮ่า และยังมีการจัดเก็บ  สต๊อกอะไหล่เครื่องยนต์ติดท้ายเรือยามาฮ่าไว้อย่างครบครัน และจัดจำหน่ายในราคาที่ได้มาตรฐานของยามาฮ่าอีกด้วย

สำหรับศูนย์บริการเครื่องเรือยนต์ยามาฮ่า สาขา ภูเก็ต
เปิดทำการทุกวันจันทร์ - วันเสาร์ ตั้งแต่เวลา  08.30 น. - 17.30 น.
สามารถติดต่อหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 076-604-474-5 Fax : 076-210-599














ซี ฉัตรปวีณ์ ชวนมางานสัมมนาการศึกษารูปแบบใหม่ในยุคดิจิตอล “Million Ways to Success : ล้านความสำเร็จด้วย 1 คน กับ 1 คอม”

ซี ฉัตรปวีณ์  ชวนมางานสัมมนาการศึกษารูปแบบใหม่ในยุคดิจิตอล
“Million Ways to Success : ล้านความสำเร็จด้วย 1 คน กับ 1 คอม


ซี ฉัตรปวีณ์   ตรีชัชวาลวงศ์ หนึ่งในสมาชิกครอบครัวข่าว 3 และเจ้าของฉายาเจ้าหญิงไอที  เชิญชวนผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานสัมมนาดิจิตอลการศึกษารูปแบบใหม่ในยุคดิจิตอล “Million Ways to Success หรือ ล้านความสำเร็จด้วย 1 คน กับ 1 คอม โดยมหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด   ในวันเสาร์ที่ 20 มิถุนายน 2558  เวลา 9.30 .  ณ โรงแรมฮิลตัน สุขุมวิท กรุงเทพฯ (สุขุมวิท 24)    ภายในงานทุกท่านจะได้พบกับการสาธิตนวัตกรรมการเรียนการสอนรูปแบบใหม่ผ่านโปรแกรม Blackboard หนึ่งในไลฟ์สไตล์การเรียนการสอนรูปแบบใหม่ที่ทันสมัยที่สุดบนโลกดิจิตอลยุคปัจจุบันที่แสตมฟอร์ดนำมาให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาทุกท่านได้มีโอกาสสัมผัสประสบการณ์จริง   พร้อมรับสิทธิพิเศษเพิ่มเติมและลุ้นรับทุนการศึกษาเฉพาะในงานเท่านั้น   สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร 090-198-5798, 090-198-5803  



Go Inter ฟินเวอร์ สุดสุด


Go Inter ฟินเวอร์ สุดสุด

มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ดชวนน้องๆ ม.ปลาย โกอินเตอร์ไปกับโอกาสการศึกษาต่างประเทศทั่วโลก สนุกกับกิจกรรมแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเรียนต่างแดน 10 ประเทศใน 3 ทวีป จากเครือข่าย 11 มหาวิทยาลัยชั้นนำใน ยุโรป ออสเตรเลีย และจีน ด้วยค่าเล่าเรียนเท่ากับการเรียนที่เมืองไทย
รายละเอียดงาน

พบกันที่มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด  

สถานที่
วันที่
เวลา
วิทยาเขตกรุงเทพฯ
2-4 มิถุนายน 2015
09:00 - 14:00 
วิทยาเขตหัวหิน
มิถุนายน 2015 
09:00 - 14:00 

สิทธิพิเศษเฉพาะผู้ที่เข้าร่วมงาน!!  ลุ้นรับทุนโครงการแลกเปลี่ยนในประเทศที่เลือก จำนวน 10 ทุน*

กิจกรรม:
09.00 – 09.30:                 ลงทะเบียน
09.30 – 11.00:                 รับฟังข้อมูลจากเจ้าหน้าที่หน่วยงาน Office of International Affairs ที่จะมาให้ข้อมูลและคำแนะนำเกี่ยวกับโครงการแลกเปลี่ยนนักศึกษากับมหาวิทยาลัยพาร์ทเนอร์ทั้ง 10 ประเทศ
11.00 – 12.00:                 แชร์ประสบการณ์จากนักศึกษาแสตมฟอร์ด นักศึกษาต่างชาติ ที่เข้าโครงการแลกเปลี่ยน
12.00 – 13.00:                 พักรับประทานอาหารกลางวัน
13.00 – 14.00:                 รับฟังข้อมูลจากเจ้าหน้าที่หน่วยงาน Office of International Affairs ที่จะมาให้ข้อมูลและคำแนะนำเกี่ยวกับโครงการแลกเปลี่ยนนักศึกษากับมหาวิทยาลัยพาร์ทเนอร์ทั้ง 10 ประเทศ
สนใจสอบถามรายละเอียดและลงทะเบียนเข้าร่วมงาน โทร.02-769-4000
*สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนเรียนภายใน 7 วันนับจากวันที่เข้าร่วมกิจกรรม เงื่อนไขเป็นไปตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด 

มิ้นต์ ชาลิดา แนะเคล็ดลับการเลือกเรียนต่อปริญญาตรี!!

มิ้นต์ ชาลิดา  แนะเคล็ดลับการเลือกเรียนต่อปริญญาตรี
ไม่ใช่แค่หลักสูตรอินเตอร์ที่ไหนก็ได้
แต่ต้องเป็นหลักสูตรการเรียนในสังคมนานาชาติอย่างแท้จริง



ผ่านพ้นกันไปแล้วสำหรับกิจกรรมดีๆ “FF7 Fast & Fun by Stamford” ที่มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ดจัดขึ้นเพื่อแนะนำการวางแผนการเรียนในอนาคตสำหรับน้องๆม.ปลายเมื่อวันก่อน   งานวันนั้นเรียกได้ว่ารวมเหล่าดารา  นักแสดง  นักร้อง และติวเตอร์ชื่อดังไปร่วมแชร์ประสบการณ์การเรียนในสังคมนานาชาติอย่างออกรส  วันนี้โอกาสดีได้มีโอกาสอัพเดตข่าวคราวของนางเอกสาวหน้าหวาน  น้องมิ้นต์ ชาลิดา  วิจิตรวงศ์ทอง  นักแสดงสังกัดช่อง 3  ที่เป็นหนึ่งในแขกรับเชิญผู้ร่วมแชร์ประสบการณ์การเรียนในสังคมนานาชาติของมหาวิทยาลัยแสตมฟอร์ด     โดยสาวมิ้นต์เปิดใจให้สัมภาษณ์ว่า




ตัวมิ้นต์เองตอนนี้เรียนที่มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด  สาขาบริหารธุรกิจระหว่างประเทศ (IBM) หลักสูตร Bilingual 2 ภาษาค่ะ   มิ้นต์มองว่าภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สำคัญเสมือนภาษากลางที่เราไว้ใช้สื่อสารกันทั่วโลก    มีแหล่งข้อมูลนับร้อยนับพันที่พร้อมให้เราเข้าไปเรียนรู้โดยใช้ภาษาอังกฤษเป็นตัวกลางในการสื่อสาร    ยิ่งโลกของเทคโนโลยีมีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงไปรวดเร็วเพียงใด   ภาษาก็จะยิ่งทวีความสำคัญมากขึ้นเท่านั้น   เพราะภาษาไม่เพียงแต่จะทำให้เราเข้าใจและเข้าถึงแหล่งข้อมูลต่างๆ  แต่ภาษาจะเป็นเครื่องมือให้เราพบเจอเพื่อนใหม่ๆได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดทัศนคติซึ่งทำให้เกิดความคิดริเริ่มสร้างสรรค์อื่นๆตามมา  มิ้นต์เลือกเรียนที่แสตมฟอร์ดเพราะสามารถตอบโจทย์เป้าหมายด้านการศึกษาของมิ้นต์ได้ค่ะ    สังคมการเรียนที่นี่จะได้พบเพื่อนนักศึกษาที่มาจากทั่วโลก   ได้ฝึกฝนและพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษในการสื่อสารได้ตลอดเวลา   ไม่ต้องบินไปเรียนไกลถึงต่างประเทศก็มีสังคมการเรียนรู้ในสังคมนานาชาติได้อย่างแท้จริงค่ะ    หมดปัญหาการเรียนภาษาอังกฤษแล้วไม่รู้จะนำไปใช้ที่ไหนค่ะ      อย่างเช่นในวันนี้มิ้นต์มาเป็นตัวแทนของมหาวิทยาลัยเพื่อแนะนำกิจกรรมดีๆที่เปิดโอกาสให้น้องม.ปลายได้มีโอกาสเตรียมตัววางแผนการเรียนในอนาคต    โดยน้องๆที่เข้าร่วมในวันนี้ได้มีโอกาสพบปะพูดคุยกับรุ่นพี่และอาจารย์จากทุกคณะและทุกสาขาวิชาได้อย่างเต็มที่    แถมยังได้ร่วมกิจกรรมเวิร์คช็อปกับรุ่นพี่แสตมฟอร์ดกันแบบเต็มๆผ่านประสบการณ์จริง เพราะได้มีโอกาสสัมผัสและลงมือทำกันไปเลยว่าชอบคณะนี้จริงๆหรือไม่     



โดยกิจกรรม Open House เริ่มตั้งแต่ช่วงเช้าเวลา 10.00 – 12.00 . ค่ะ   สำหรับช่วงบ่ายมิ้นต์และเพื่อนๆศิษย์ปัจจุบันของมหาวิทยาลัย  อาทิ เอก The Star 11, น้องแตงค์กิ้ว Kamikaze, จ๋อ The Voice ก็มาร่วมแชร์ประสบการณ์และความประทับใจที่เกิดขึ้นระหว่างเรียนค่ะ    น้องๆทุกคนให้ความสนใจและร่วมถามตอบกันอย่างสนุกสนาน    แต่ความสนุกสนานไม่หยุดเพียงเท่านั้นค่ะ  เพราะหลังจากที่รับฟังประสบการณ์จริงจากปากของพวกเราแล้ว   น้องๆทุกๆคนยังได้ร่วมฟังทอล์คโชว์สนุกๆสุดแนวเสริมทักษะภาษาอังกฤษจาก คุณครูลูกกอล์ฟ คณาธิป   สุนทรรักษ์   ติวเตอร์ภาษาอังกฤษชื่อดังเจ้าของสถาบันสอนภาษา Angkriz และนักแสดงจากซีรี่ส์เรื่องดังเนื้อคู่อยากรู้ว่าใครขึ้นทอล์คอย่างดุเด็ดเผ็ดมัน     จนความกลัวภาษาอังกฤษกระเจิงเหลือไว้เพียงแต่ความสนุกและความบันเทิงจนน้องๆจะรู้สึกว่าภาษาอังกฤษไม่ยากอย่างที่คิดและสามารถเปลี่ยนชีวิตน้องๆได้ค่ะ       



ปิดท้ายงานด้วยมินิคอนเสิร์ตสุดมันเอาใจวัยรุ่น   โดยมีรุ่นพี่รุ่นน้องศิษย์ปัจจุบันของแสตมฟอร์ด อาทิ น้องเอก ธนโชติ  กุสุมรสานันท์ The Star 11 และ จ๋อ The Voice ขึ้นแท็กทีมวาดลวดลายขึ้นโชว์ในมินิคอนเสิร์ตของมหาวิทยาลัย    เรียกได้ว่างานนี้จัดเต็มเพื่อน้องๆ งานเดียวจริงๆที่มอบทั้งความบันเทิง สาระและความสนุกควบคู่ไปด้วยกันได้อย่างลงตัว    มิ้นต์อยากฝากถึงน้องๆที่กำลังวางแผนการเลือกเรียนในระดับอุดมศึกษาว่าการเลือกมหาวิทยาลัยที่มีคุณภาพสำคัญไม่แพ้การเลือกคณะที่ใช่ค่ะ   การเลือกที่เรียนสำคัญในแง่ของสถานศึกษานั้นต้องมีมาตรฐานการเรียนการสอนที่ดีและมีคุณภาพ  การเรียนในหลักสูตรอินเตอร์ที่จะได้ผลที่สุดคือการเรียนในคลาสที่มีอาจารย์เป็นชาวต่างชาติจริงๆและเรียนอยู่ท่ามกลางเพื่อนนักศึกษาจากทั่วโลก  ซึ่งแสตมฟอร์ดสามารถตอบโจทย์ข้อนี้ได้ค่ะ     ที่นี่น้องๆจะได้เรียนภาษาอังกฤษจากในคลาสเรียนและยังมีโอกาสได้ใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารกับเพื่อนร่วมชั้นที่เป็นชาวต่างชาติอีกด้วยค่ะ  โดยไม่ต้องบินไปไกลถึงต่างประเทศก็ได้เรียนรู้ในสังคมนานาชาติได้อย่างแท้จริงค่ะ”








งานนี้ทำให้เราทราบว่าไม่ว่านางเอกสาวจะงานชุกและรัดตัวแค่ไหนแต่สาวมิ้นต์ก็แบ่งเวลาสำหรับการเรียนเสมอและบริหารทั้งสองบทบาททั้งเรียนและการทำงานได้อย่างลงตัว  แถมยังเป็นห่วงน้องๆที่กำลังวางแผนการศึกษาต่ออีกด้วย   สวยและเก่งแบบนี้น้องๆควรเอาเป็นตัวอย่างจ้า



มิ้นต์ ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง ศิษย์ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด นำทีม แตงค์กิ้ว Kamikaze”, “จ๋อ The Voice”  เข้าร่วมงาน “FF7 Fast & Fun by Stamford” ที่จัดขึ้นเพื่อแชร์ประสบการณ์การเรียนรู้ในสังคมนานาชาติของมหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ดให้กับน้องๆม.ปลายและแนะเคล็ดลับการเลือกเรียนต่อในระดับปริญญาตรี   ณ ห้องออดิทอเรียม มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด วิทยาเขตกรุงเทพฯ เมื่อเร็วๆนี้ 







 รักเกล้า   ตั้งกุลพานิชย์  รองอธิการบดี ฝ่ายรับสมัครนักศึกษา  มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด พร้อมด้วยทีมงาน  ให้การต้อนรับและมอบของที่ระลึกแด่ คุณครูลูกกอล์ฟ คณาธิป สุนทรรักษ์   ติวเตอร์ภาษาอังกฤษชื่อดังเจ้าของสถาบันสอนภาษา Angkriz  และนักแสดงจากซีรี่ส์เรื่องดังเนื้อคู่อยากรู้ว่าใคร  ที่ให้เกียรติเป็นวิทยากรบรรยายพิเศษภาษาอังกฤษให้กับนักศึกษาแสตมฟอร์ดและน้องๆม.ปลาย ในงาน “FF7 Fast & Fun by Stamford” ที่จัดขึ้นเพื่อสลายความกลัวและความกังวลใจด้านภาษาอังกฤษจนความกลัวกระเจิงเหลือไว้เพียงแต่ความสนุกและความบันเทิงจนน้องๆรู้สึกว่าภาษาอังกฤษไม่ยากอย่างที่คิดและสามารถเปลี่ยนชีวิตน้องๆได้  ณ ห้องออดิทอเรียม มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด วิทยาเขตกรุงเทพฯ เมื่อวันก่อน
























แสตมฟอร์ดเปิดสัมมนา “Million Ways to Success : ล้านความสำเร็จด้วย 1 คน กับ 1 คอม”


แสตมฟอร์ดเปิดสัมมนา
“Million Ways to Success : ล้านความสำเร็จด้วย 1 คน กับ 1 คอม

มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต วิทยาเขตกรุงเทพเชิญชวนผู้ที่สนใจเข้ารับฟังการสัมมนาในหัวข้อ “Million Ways to Success หรือ ล้านความสำเร็จด้วย 1 คน กับ 1 คอม ร่วมรับฟังและเป็นส่วนหนึ่งของงานการศึกษาในรูปแบบดิจิตอลระดับประเทศพร้อมแชร์ประสบการณ์เคล็ดลับความสำเร็จจากกูรูดิจิตอลทางธุรกิจตัวจริง อาทิ คุณวรวุฒิ  วาริการ  กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นโซโก้ (ประเทศไทย) และเป็นหนึ่งในคณาจารย์หลักสูตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด,  คุณภาวุธ  พงษ์วิทยภาณุ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ตลาด Tarad.comคุณจิตต์สุภา  ฉิน (ซู่ฉิง) พิธีกรและนักเขียนผู้คร่ำหวอดในวงการ IT ยอดนิยม ดำเนินรายการโดย 'คุณซี ฉัตรปวีณ์ ตรีชัชวาลวงศ์' หนึ่งในสมาชิกครอบครัวข่าว 3 และเจ้าของฉายาเจ้าหญิงไอทีเป็นผู้ดำเนินรายการ    ภายในงานทุกท่านจะได้พบกับการสาธิตนวัตกรรมการเรียนการสอนรูปแบบใหม่ผ่านโปรแกรม Blackboard หนึ่งในไลฟ์สไตล์การเรียนรู้รูปแบบใหม่ที่ทันสมัยที่สุดบนโลกดิจิตอลยุคปัจจุบันที่แสตมฟอร์ดนำมาให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาทุกท่านได้มีโอกาสสัมผัสประสบการณ์จริง   ในวันเสาร์ที่ 20 มิถุนายน 2558  เวลา 9.30 .  ณ โรงแรมฮิลตัน สุขุมวิท 24 (สถานีรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์)   พิเศษหากสมัครเรียนหลักสูตร M.B.A. ภายในวันงาน     แสตมฟอร์ดสนับสนุนค่าเล่าเรียนทันที 10 เปอร์เซนต์ ตลอดหลักสูตร และร่วมลุ้นทุนการศึกษา 50 และ 25 เปอร์เซนต์  เฉพาะในงานเท่านั้น    ลงทะเบียนเข้าร่วมงาน ฟรี! พร้อมจองสิทธิ์สมัครสอบวัดพื้นฐานเพื่อศึกษาต่อ M.B.A. ในราคาพิเศษเพียง 500 บาท (จากราคา ปกติ 700 บาท) ตั้งแต่วันนี้    สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร 090-198-5798, 090-198-5803   

เอซ ฉลองครบรอบ 30 ปี เอซ กรุ๊ป สานต่อโครงการ “เอซเพื่อจิตอาสา พัฒนาสังคม” ปี 2


เอซ เชิญชวนนักศึกษาทั้งในระดับมหาวิทยาลัยและวิทยาลัย ร่วมประกวดโครงการเพื่อสังคมชิงทุนสนับสนุนโครงการสูงถึง 300,000 บาท  สมัครได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 มิถุนายน 2558


กรุงเทพฯ 18 พฤษภาคม 2558 บริษัท เอซ ไอเอ็นเอ โอเวอร์ซีส์ อินชัวรันซ์ จำกัด ร่วมกับ บริษัท เอซ ไลฟ์ แอสชัวรันซ์ จำกัด (มหาชน) ภายใต้ เอซกรุ๊ป หนึ่งในบริษัทรับประกันภัยขนาดใหญ่ที่สุดของโลก ร่วมฉลองครบรอบ 30 ปีเอซกรุ๊ป ด้วยการสานต่อโครงการ “เอซเพื่อจิตอาสา พัฒนาสังคม ปี 2หรือ “Enhancing Lives with ACE 2015 หลังประสบความสำเร็จจากการจัดงานในปีแรก โดยครั้งนี้ขอเชิญชวนนักศึกษาระดับมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยทั่วประเทศร่วมส่งโครงการเข้าประกวด โดยจะต้องเป็นโครงการที่มีแนวทางสอดคล้องกับปณิธานเพื่อสังคมของเอซ ทั้งในด้านพัฒนาการศึกษาและสุขภาพ การยกระดับคุณภาพชีวิต และการรักษาสิ่งแวดล้อม โดยเอซมอบเงินทุนสนับสนุนเพื่อการดำเนินงานตามแผนงานที่ชนะการประกวด รวม 300,000 บาท ซึ่งนักศึกษาสามารถสมัครส่งผลงานได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 มิถุนายน 2558

ร็อบ วิลคินสัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอซ ไอเอ็นเอ โอเวอร์ซีส์ อินชัวรันซ์ จำกัด  ธุรกิจประกันวินาศภัยของเอซในประเทศไทย กล่าวว่า “การจัดกิจกรรมในปีที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากบรรดานักศึกษาที่ร่วมส่งแผนงานกิจกรรมเพื่อสังคมเข้าร่วมโครงการเป็นจำนวนมาก เอซจึงรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะสานต่อโครงการดังกล่าวในปี 2558 นี้ ผมเชื่อมั่นว่าเราจะได้เห็นโครงการที่เป็นประโยชน์อย่างแท้จริงและแนวคิดที่สร้างสรรค์มากมาย ที่จะยิ่งสร้างประโยชน์ให้แก่สังคมไทยโดยรวม และการสานต่อโครงการดีๆนี้เป็นปีที่สองยังถือเป็นการฉลองครบรอบ 30 ปีเอซ กรุ๊ป ด้วยเช่นกัน”
โดยทีมที่สมัครเข้าร่วมโครงการ “เอซเพื่อจิตอาสา พัฒนาสังคม” ต้องเป็นนักศึกษาในระดับอุดมศึกษา ประกอบด้วยสมาชิกตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปและมีสังกัดชัดเจน (ทั้งในรูปแบบสโมสร คณะ แผนก ฯลฯ) ที่ได้รับการรับรองจากสถาบันที่กำลังศึกษาอยู่ โดยมีที่ปรึกษาอย่างน้อย 1 คนทำหน้าที่ควบคุมการปฏิบัติงานตามแผนงาน นอกจากนี้ ทีมที่เข้าประกวดต้องมีประสบการณ์ในการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมหรือเป็นอาสาสมัครในกิจกรรมต่างๆ รวมถึงต้องได้รับอนุญาตจากสถาบันในการเข้าร่วมโครงการ โดยทีมที่ชนะเลิศจะได้รับเงินทุนสนับสนุน สำหรับการดำเนินงานกิจกรรมเพื่อสังคมตามแผนงานของทีมจำนวน 120,000 บาท ทีมอันดับสองจะได้รับเงินสนับสนุน 100,000 บาท และทีมอันดับสามจะได้รับ 80,000 บาท



แซลลี่ โอฮาร่า ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอซ ไลฟ์ แอสชัวรันซ์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “โครงการ เอซเพื่อจิตอาสา พัฒนาสังคม มุ่งสร้างความแตกต่างให้แก่ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนที่ด้อยโอกาสและเพื่อร่วมปกป้องธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมของเมืองไทย ซึ่งเป็นที่น่ายินดีที่มีนักศึกษาร่วมส่งผลงานเข้าประกวดเป็นจำนวนมากในปีที่ผ่านมา และโครงการเพื่อสังคมของทีมผู้ชนะทั้งสามโครงการยังได้ถูกนำมาดำเนินงานอย่างเป็นรูปธรรมผ่านการร่วมแรงร่วมใจทั้งจากทีมนักศึกษาเจ้าของผลงานและพนักงานอาสาสมัครของเอซ สำหรับโครงการในปีนี้ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีนักศึกษาร่วมสมัครส่งผลงานประกวดมากไม่แพ้ปีที่ผ่านมา โดยเกณฑ์การตัดสินวัดจากความคิดสร้างสรรค์ การคืนประโยชน์สู่สังคม และความเป็นไปได้ในการนำมาปฏิบัติจริงในด้านของระยะเวลาในการดำเนินงานและงบประมาณ เอซมุ่งมั่นดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมในประเทศไทยมาเป็นระยะเวลากว่าสิบปี โดยได้จัดโครงการดังกล่าวขึ้นเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน พร้อมทั้งเพิ่มเงินทุนสนับสนุนรวม 300,000 บาทสำหรับการดำเนินงานกิจกรรมเพื่อสังคมตามแผนงานของทีมที่ชนะการประกวดอีกด้วย” 

ผู้สนใจสมัครร่วมโครงการ สามารถดาวน์โหลดใบสมัครได้จาก www.acegroup.com/th/csr  และส่งผลงานทางอีเมล์มาที่ Thailand.ACECSR@acegroup.com (ขนาดไฟล์ไม่เกิน 5 เมกะไบต์)
###

เกี่ยวกับเอซในประเทศไทย
เอซ กรุ๊ป นับเป็นหนึ่งในบริษัทรับประกันภัยขนาดใหญ่ที่สุดของโลก ทั้งด้านการประกันภัยทรัพย์สินและประกันภัยเบ็ดเตล็ด โดยมีสาขาในประเทศต่าง ๆ กว่า 54 ประเทศทั่วโลก เอซให้บริการด้านการประกันภัยทรัพย์สินและประกันภัยเบ็ดเตล็ด ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลและสุขภาพ ประกันภัยต่อ และประกันชีวิตเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มเอซ ลิมิเต็ด บริษัทแม่ของ เอซ กรุ๊ป ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE:ACE) และเป็นส่วนหนึ่งของดัชนีหลักทรัพย์ S&P 500  เอซ กรุ๊ป ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือทางด้านความมั่นคงทางการเงินจากสถาบันจัดอันดับชั้นนำในระดับ AA โดย Standard & Poor's และ A++ โดย A.M. Best

เอซมีรากฐานอันยาวนานในประเทศไทยมากว่า 40  ปีผ่านการเข้าซื้อกิจการ โดยให้บริการทั้งประกันวินาศภัยและประกันชีวิตธุรกิจประกันวินาศภัยของเอซในประเทศไทย เป็นสาขาของ บริษัท เอซ ไอเอ็นเอ โอเวอร์ซีส์ อินชัวรันซ์ จำกัด ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือทางด้านความมั่นคงทางการเงินในระดับ AA- โดย Standard & Poor's  ผลิตภัณฑ์ประกันวินาศภัยของเอซครอบคลุมประกันภัยทรัพย์สิน ประกันภัยเบ็ดเตล็ด ประกันภัยการขนส่งสินค้าทางทะเล ประกันภัยความรับผิดตามกฎหมายต่อบุคคลภายนอกประกันภัยทางการเงินและประกันภัยอุบัติเหตุกลุ่มสำหรับลูกค้าองค์กร รวมทั้งยังนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลและสุขภาพที่หลากหลายให้กับลูกค้ารายย่อย  ผ่านช่องทางจัดจำหน่าย  ต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ช่องทางการตลาดทางตรง ซึ่งเป็นความชำนาญของเอซ  เอซ นับเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจ เนื่องจากมีพันธมิตรที่แข็งแกร่งเป็นสถาบันการเงินและบริษัทชั้นนำหลายแห่ง ซึ่งมอบความไว้วางใจให้เอซนำเสนอกรมธรรม์ที่มอบความคุ้มครอง ที่ปรับให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าและพนักงานของพันธมิตรของเรา

บริษัท เอซ ไลฟ์ แอสชัวรันซ์ จำกัด (มหาชน) ให้บริการประกันชีวิตหลากหลายประเภท  เพื่อให้ครอบคลุมและตรงกับความต้องการทางการเงินและความมั่นคงที่แตกต่างของลูกค้า นอกจากช่องทางจัดจำหน่ายทางด้านตัวแทนกว่า 3,500 คนแล้ว  เอซ ไลฟ์ ยังร่วมกับสถาบันการเงิน  และบริษัทต่าง ๆ  ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่เหมาะสมกับลูกค้าและพนักงานของบริษัทแต่ละแห่ง   

แสตมฟอร์ดเปิดสัมมนา เปลี่ยนความฝันเป็นธุรกิจ 1,000 ล้าน แบบ Krispy Kreme & Cinnabon


แสตมฟอร์ดเปิดสัมมนา
เปลี่ยนความฝันเป็นธุรกิจ 1,000 ล้าน แบบ Krispy Kreme & Cinnabon

มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต วิทยาเขตกรุงเทพเชิญชวนทุกผู้ที่สนใจเข้ารับฟังการสัมนาในหัวข้อ เปลี่ยนความฝันเป็นธุรกิจ 1,000 ล้าน แบบ Krispy Kreme & Cinnabon” เพื่อจุดประกายความคิดให้คนมีฝันทางธุรกิจมุ่งมั่นจนประสบความสำเร็จ   โดยเรียนรู้กับกูรูและนักธุรกิจผู้ที่ประสบความสำเร็จจากธุรกิจพันล้านตัวจริง “ดร. อุษณีย์ มหากิจศิริ เจ้าของธุรกิจโดนัทชื่อดัง” ที่จะมามอบความรู้และแชร์ประสบการณ์การบริหารธุรกิจจนประสบความสำเร็จ  นอกจากนั้นผู้ที่มาร่วมงานยังได้ร่วมสัมผัสการเรียนการสอน    ในบรรยากาศห้องเรียนจริงในสไตล์Stamford Signature M.B.A. การเรียนการสอนหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิตอันทันสมัยที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพให้กับผู้เรียนมากยิ่งขึ้น   ในวันเสาร์ที่ 23 พฤษภาคม 2558 เวลา  9.30 . ณ มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด วิทยาเขตกรุงเทพ   ลงทะเบียนเข้าร่วมงาน ฟรี! พร้อมจองสิทธิ์สมัครสอบวัดพื้นฐานเพื่อศึกษาต่อ M.B.A. ในราคาพิเศษเพียง 500บาท (จากราคา ปกติ 1,000 บาท)     สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร 090-198-5798, 090-198-5803   พร้อมรับสิทธิ์เรียนฟรี! วิชาปรับพื้นฐานเบื้องต้น (วิชาการจัดการการบัญชีการตลาด และภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร) มูลค่าสูงสุด 20,000บาท ทันที เฉพาะผู้ที่สมัครเรียนหลักสูตร M.B.A. ในวันงาน

บิดยามาฮ่า คุ้มสุดคุ้ม ประหยัดนาน 3 ปี กับแคมเปญ "ฟีโน่ และ สปาร์ค...มอบความสุขสุดคุ้ม”




บิดยามาฮ่า คุ้มสุดคุ้ม ประหยัดนาน 3 ปี
กับแคมเปญ "ฟีโน่ และ สปาร์ค...มอบความสุขสุดคุ้ม”
          ยามาฮ่า เปิดแคมเปญสุดคุ้ม "ฟีโน่ และ สปาร์ค...มอบความสุขสุดคุ้ม”  ฟรี ฟรี ฟรี ประหยัดนาน 3 ปี เมื่อซื้อรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ฟีโน่หัวฉีด และสปาร์ค 115 หัวฉีด กับ        ผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าทั่วประเทศ รับข้อเสนอพิเศษทันทีกับบัตรยามาฮ่า สมาร์ทแคร์ เพื่อรับสิทธิ์สุดคุ้มด้วยบริการหลังการขาย ชุดบำรุงรักษาฟรี! 3 ปี หรือ 36,000 กิโลเมตร
          เพื่อเป็นการคืนความสุขมอบให้กับคนไทยทั่วประเทศ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ได้จัดแคมเปญพิเศษสุดคุ้มค่าสำหรับผู้ที่ซื้อรถจักรยานยนต์ยามาฮ่ารุ่นฟีโน่ และสปาร์ค ด้วยการบำรุงรักษาฟรี 3 ปีหรือ 36,000 กิโลเมตร โดยข้อเสนอสุดพิเศษจะเป็นการช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการดูแลฟรี น้ำมันเครื่อง ไส้กรองน้ำมันเครื่อง และน้ำมันเฟืองท้าย (เฉพาะรุ่น) ดังนี้
          ซื้อ ยามาฮ่า ฟีโน่หัวฉีด รับทันที! บัตร ยามาฮ่า สมาร์ทแคร์ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง และน้ำมันเฟืองท้าย ฟรี! รวม 14 รายการ มูลค่ากว่า 1,406 บาท
          ซื้อ ยามาฮ่า สปาร์ค 115 หัวฉีด รับทันที! บัตร ยามาฮ่า สมาร์ทแคร์ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง และไส้กรองน้ำมันเครื่อง ฟรี! รวม 15 รายการ มูลค่ากว่า 1,380 บาท
          โดยผู้ที่ซื้อรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ฟีโน่หัวฉีด และ สปาร์ค 115 หัวฉีด จะได้รับบริการหลังการขาย ฟรี 3 ปี หรือ 36,000 กิโลเมตร ตามระยะการตรวจเช็ค ซึ่งจะได้รับ “บัตรยามาฮ่า สมาร์ทแคร์” ชุดบำรุงรักษาฟรี 3 ปี จากผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ โดยสามารถใช้บัตรยามาฮ่า สมาร์ทแคร์สามารถใช้สิทธิ์ได้ที่ร้านตัวแทนจำหน่ายยามาฮ่าทั่วประเทศ และใช้ร่วมกับสมุดคู่มือรับประกันที่มาพร้อมกับตัวรถ
          สำหรับ ยามาฮ่า สปาร์ค 115 หัวฉีด เครื่องยนต์เทคโนโลยี YEC_FI ที่ผ่านการพิสูจน์แล้ว!!! จากสื่อมวลชน และผู้ใช้จริงทั่วประเทศ ตั้งแต่เหนือจรดใต้ ทุกเสียงยืนยันรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า สปาร์ค 115 หัวฉีด แรงดี ประหยัดจริง ขั้นเทพ! โฉมใหม่ สวยสปอร์ต ขี่ง่าย ทนทานใช้งานคุ้มจริงๆ และล่าสุดพร้อมกับทางเลือกใหม่ ล้อแม็กสปอร์ต สุดเท่ และ โดดเด่นด้วย แผงหน้าปัดใหม่ สไตล์โมเดิร์น กราฟฟิกสปอร์ตทันสมัย ดูง่าย เห็นชัดทั้งกลางวันและกลางคืน มาพร้อมกับบังลมหน้าดีไซน์ใหม่ใหญ่ขึ้น และไฟหน้าฮาโลเจนสว่างได้ใจ ทนทานไม่ขาดง่าย ใช้งานได้นานปี
          และ ยามาฮ่า ฟีโน่ เท่สุดเทรนด์...วินเทจสุดแนว (ล้อแม็ก ลุคใหม่) ในสไตล์ผู้นำแฟชั่นรถออโตเมติกเมืองไทย ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ระบบหัวฉีดอัจฉริยะ YMJET_FI ประหยัดน้ำมันสูงสุด 55.75 กม./ ลิตร (ผ่านการทดสอบ Mode ECE R40 มาตราฐาน TISI ( สำนักงานมาตราฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม)  ด้วยการควบคุมอากาศด้วยลิ้นปีกผีเสื้อ 2 ตัว ฉีดน้ำมันได้เหมาะสมในการขับขี่ทั้งตอนรถวิ่งและจอดติดพร้อมหัวฉีดอัจฉริยะ ยามาฮ่า เอ็ม เจ็ท ฉีดละอองน้ำมันเป็นไอละเอียดกว่า จึงให้พลังที่ประหยัดกว่า
          พบกับแคมเปญ “ฟีโน่ และ สปาร์ค...มอบความสุขสุดคุ้มได้ที่ร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าทั่วประเทศได้ตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 31 กรกฎาคม 2558 โดยสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Yamaha Call Center โทร. 0 2263 9999 หรือ www.yamaha-motor.co.th, https://www.facebook.com/yamahasociety



มองมะนาวครบทุกมิติ โอกาสทองทางธุรกิจของเด็กนางรอง

     


  ปัญหามะนาวแพงในหน้าร้อนเป็นปัญหาระดับชาติ ขนาดนายกรัฐมนตรีออกมารับกระแสด้วย              เกือบทุกครั้ง พล อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แนะนำว่าถ้าประชาชนจะต่อสู่กับปัญหามะนาวแพง ก็ลองหันมาปลูกมะนาวกินเอง หรือก่อนหน้านั้นยุคนายกฯ บรรหาร ศิลปอาชา ให้เลือกใช้มะม่วงเปรี้ยว หรือมะขามแทนมะนาวไปพลางๆก่อน
            ความพยายามในการปลูกมะนาวออกนอกฤดู ถือเป็นความท้าทายความรู้ความสามารถทาง             ภาคการเกษตรแขนงหนึ่งที่จะออกมาสู้กับปัญหามะนาวแพง แต่กับเรื่องต้นพันธุ์มะนาวตรงนี้ถือเป็นโอกาสทางธุรกิจ น้องนศ.ปวช.ปีวิทยาลัยการอาชีพนางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้มองเห็นช่องทางอาชีพนี้ ได้ใช้วิธีขยายพันธุ์มะนาวด้วยวิธีเสียบกิ่งบนต้นส้มโอขึ้น
            นายวิทยา บุตรศรี ตัวแทนจากวิทยาลัยการอาชีพนางรอง เล่าว่า มะนาวเป็นผลิตผลทางการเกษตร          ที่บริโภคกันทั้งประเทศ บางช่วงราคาจะแพงมาก และปัญหาหนึ่งที่เกษตรกรประสบก็คือต้นตอมะนาวไม่แข็งแรง ทางกลุ่มจึงคิดหาวิธีขยายพันธุ์เพื่อให้ได้ต้นตอมะนาวที่แข็งแรงและทนต่อโรค ซึ่งพบว่าวิธีเสียบกิ่งมะนาวกับต้นส้มโอ จะช่วยเสริมรากให้ต้นมะนาวแข็งแรง มีความทนทานต่อโรค และมีผลขนาดใหญ่  จึงชักชวนเพื่อนในกลุ่ม คน ไปเรียนรู้วิธีเสียบกิ่งมะนาวที่ศูนย์มีชัย บ้านหนองตาเข้ม อ.เฉลิมพระเกรียติ กลับมาลองผิดลองถูก             จนสามารถขยายพันธุ์มะนาวได้สำเร็จ จากนั้นมาร่วมกันได้ก่อตั้งบริษัท ครบวงจร 2014 จำกัด ขึ้น รวมหุ้นคนละ 1,000 บาททำธุรกิจเพาะพันธุ์ต้นมะนาวบนต้นส้มโอขายอย่างจริงจัง
            “วิธีเสียบกิ่งมะนาวบนส้มโอนั้น ขั้นตอนแรกต้องเริ่มเพาะต้นส้มโอจากเมล็ดก่อน จนต้นส้มโอโต             มีอายุ 1 เดือนขึ้นไปสามารถนำมาใช้เสียบกิ่งมะนาวได้ โดยเลือกใช้กิ่งพันธุ์มะนาวพันธุ์แป้นพิจิตร ส่วนส้มโอใช้พันธุ์โชกุน หรือพันธุ์อิสราเอล กิ่งพันธุ์มะนาวที่ใช้ไม่อ่อนหรือแก่เกินไป ขั้นตอนสำคัญคือการเสียบกิ่งต้องตัดปาดกิ่งมะนาวแบบทะแยงมุมแล้วเสียบลงบนต้นส้มโอ ใช้สก๊อตเทปพันเพื่อกันเชื้อรา จากนั้น ใช้ถุงพลาสติกใสคลุม ทิ้งไว้ 34 วัน เพื่อให้ต้นไม้คายน้ำ และให้น้ำไหลกลับคืนเข้าต้นส้มโอ ซึ่งเพื่อนในกลุ่มทำได้เกือบทุกคน เพราะทางบ้านมีอาชีพทำสวนมะนาวอยู่แล้ว ซึ่งกิ่งมะนาวบนต้นส้มโอตั้งราคาขายไว้ที่ 150 บาท ทั้งนี้ เมื่อต้นพันธุ์เติบใหญ่จนให้ผลผลิตจะเป็นต้นพันธุ์มะนาว ไม่ได้เป็นต้นส้มโอแต่อย่างใด” นาย วิทยา เล่าเทคนิคการเสียบกิ่งมะนาว
            บริษัทครบวงจรยังคิดต่อยอดไปอีกว่า การปลูกพืชต้องใช้ปุ๋ยอินทรีย์ จึงไปศึกษาหาความรู้วิธีเลี้ยงไส้เดือน เพื่อเอามูลมาทำปุ๋ย และนำมาขยายเป็นธุรกิจต่อ โดยจำหน่ายในราคากก.ละ 30 บาท นอกจากนี้ ยังได้ผลิตเครื่องคัดมะนาว โดยนำความรู้วิชาช่างเชื่อมของเพื่อนในวิทยาลัยมาต่อยอด ผลิตออกมาจำหน่ายราคาเครื่องละ 19,000 บาท มีความสามารถในการคัดมะนาวได้ 100 ลูกต่อนาที ขณะนี้จำหน่ายไปได้แล้ว 6 เครื่อง
            น้องๆ จากบริษัท ครบวงจร 2014 จำกัดเริ่มทำมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปี 2557 ล่าสุดได้แบ่งปันผลกำไรให้สมาชิกไปแล้วคนละ 6,920 บาท หลังหักค่าใช้จ่ายและชำระเงินกู้ และยังนำเงินรายได้ไปทำกิจกรรมสาธารณประโยชน์ (38,061 บา ) จัดสรรทุนอบรมการขยายพันธุ์พืชให้แก่ นักเรียนโรงเรียนโสตศึกษา จ.สุรินทร์ และผู้ต้องขังหญิงในเรือนจำนางรอง และจัดซื้อคอมพิวเตอร์มอบให้แก่ศูนย์การเรียนตำรวจตระเวนชายแดน                บ้านทรัพย์ทรายทอง อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์
            ผลจากการประกอบธุรกิจไม่เพียงแต่สร้างรายได้ระหว่างเรียน แต่ยังก่อให้เกิดความรู้ขึ้นในชุมชน             จนส่งผลให้ บริษัทครบวงจร 2014 จำกัด ได้รับรางวัล ชนะเลิศจากการประกวดโครงการกรุงไทย ยุววาณิช            ที่ธนาคารกรุงไทยจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 13 ร่วมกับ ทีมจากโรงเรียนศรีสองรักษ์วิทยา จ.เลย โดยได้รับทุนการศึกษา 390,000 าท โล่รางวัล และประกาศนียบัตร พร้อมทั้งศึกษาดูงานต่างประเทศ
ทั้งนี้ โครงการกรุงไทย ยุววาณิช จัดขึ้น เพื่อจุดประกายและสร้างเยาวชนที่มีคุณธรรมและมีความรับผิดชอบต่อสังคมตามแนวคิดทุนทางปัญญาไม่มีวันหมด โดยเน้นให้เยาวชนในระดับมัธยมศึกษาและระดับประกาศนียบัตรวิชาชี (ปวช.) ได้มีเวทีในการฝึกปฏิบัติการดำเนินธุรกิจ มีความสนใจและตื่นตัวที่จะใช้ความคิด ความรู้ที่มีอยู่ประกอบกับการศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม แล้วนำมาปฏิบัติจริงให้เป็นรูปธรรม
นางศิริพร นพวัฒนพงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารกลุ่ม กลุ่มการตลาดและสื่อสารองค์กร สายงานการตลาดและสื่อสารองค์กร ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า เป้าหมายของโครงการกรุงไทย ยุววาณิช ต้องการสนับสนุนให้เยาวชนได้ประกอบธุรกิจจริง และภายในโครงการทุกโรงเรียนจะต้องแบ่งงบประมาณหรือผลกำไรไปทำกิจกรรมทางสังคมด้วย อีกทั้งยังสามารถต่อยอดได้จริง โดยธนาคารจะช่วยบ่มเพาะหลักการทำธุรกิจให้เยาวชน เด็กๆจะรู้ทุกขั้นตอนของการทำธุรกิจ รวมทั้งการทำงานเป็นทีม ที่จะต้องมีการแบ่งหน้าที่กัน          ซึ่งเยาวชนสามารถนำความรู้นี้ไปใช้ในอนาคตเมื่อจบการศึกษามา อยากทำธุรกิจก็สามารถทำได้เลย
            “สิ่งที่ประทับใจและน่าชื่นชม คือนักเรียนสามารถนำความคิดทันสมัยของพวกเขามาพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสุขภาพ ซึ่งสินค้าที่เด็กๆ นักเรียนได้ทำสะท้อนให้เห็นถึงความหวงแหน และเห็นคุณค่าภูมิปัญญาของไทยมากขึ้น โดยรู้จักนำภูมิปัญญาในท้องถิ่นมาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่า มีราคา นอกจากนี้ยังสะท้อนถึงความห่วงใยสิ่งแวดล้อมรอบชุมชน รู้จักเอาของเหลือใช้มาแปรรูปเป็นสินค้า
อย่างไรก็ตาม ตลอด 13 ปี ที่ธนาคารกรุงไทยได้จัดกิจกรรมนี้ ได้พิสูจน์ให้เห็นชัดแล้วว่าเด็กและเยาวชนเหล่านั้นต่างมีศักยภาพ” นางศิริพร กล่าว






loading...

Facebook

นิยม

บทความ

loading...