ปัญหามะนาวแพงในหน้าร้อนเป็นปั ญหาระดับชาติ ขนาดนายกรัฐมนตรีออกมารั บกระแสด้วย เกือบทุกครั้ง พล อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แนะนำว่าถ้าประชาชนจะต่อสู่กั บปัญหามะนาวแพง ก็ลองหันมาปลูกมะนาวกินเอง หรือก่อนหน้านั้นยุคนายกฯ บรรหาร ศิลปอาชา ให้เลือกใช้มะม่วงเปรี้ยว หรือมะขามแทนมะนาวไปพลางๆก่อน
ความพยายามในการปลู กมะนาวออกนอกฤดู ถือเป็นความท้าทายความรู้ ความสามารถทาง ภาคการเกษตรแขนงหนึ่งที่ จะออกมาสู้กับปัญหามะนาวแพง แต่กับเรื่องต้นพันธุ์ มะนาวตรงนี้ถือเป็นโอกาสทางธุ รกิจ น้องนศ.ปวช.ปี2 วิทยาลัยการอาชี พนางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้มองเห็นช่องทางอาชีพนี้ ได้ใช้วิธีขยายพันธุ์มะนาวด้ วยวิธีเสียบกิ่งบนต้นส้มโอขึ้น
นายวิทยา บุตรศรี ตัวแทนจากวิทยาลัยการอาชี พนางรอง เล่าว่า มะนาวเป็นผลิตผลทางการเกษตร ที่บริโภคกันทั้งประเทศ บางช่วงราคาจะแพงมาก และปัญหาหนึ่งที่เกษตรกรประสบก็ คือต้นตอมะนาวไม่แข็งแรง ทางกลุ่มจึงคิดหาวิธีขยายพันธุ์ เพื่อให้ได้ต้นตอมะนาวที่แข็ งแรงและทนต่อโรค ซึ่งพบว่าวิธีเสียบกิ่งมะนาวกั บต้นส้มโอ จะช่วยเสริมรากให้ต้นมะนาวแข็ งแรง มีความทนทานต่อโรค และมีผลขนาดใหญ่ จึงชักชวนเพื่อนในกลุ่ม 7 คน ไปเรียนรู้วิธีเสียบกิ่งมะนาวที ่ศูนย์มีชัย บ้านหนองตาเข้ม อ.เฉลิมพระเกรียติ กลับมาลองผิดลองถูก จนสามารถขยายพันธุ์มะนาวได้ สำเร็จ จากนั้นมาร่วมกันได้ก่อตั้งบริ ษัท ครบวงจร 2014 จำกัด ขึ้น รวมหุ้นคนละ 1,000 บาททำธุรกิ จเพาะพันธุ์ต้นมะนาวบนต้นส้ มโอขายอย่างจริงจัง
“วิธีเสียบกิ่งมะนาวบนส้มโอนั้น ขั้นตอนแรกต้องเริ่มเพาะต้นส้ มโอจากเมล็ดก่อน จนต้นส้มโอโต มีอายุ 1 เดือนขึ้ นไปสามารถนำมาใช้เสียบกิ่ งมะนาวได้ โดยเลือกใช้กิ่งพันธุ์มะนาวพั นธุ์แป้นพิจิตร ส่วนส้มโอใช้พันธุ์โชกุน หรือพันธุ์อิสราเอล กิ่งพันธุ์มะนาวที่ใช้ไม่อ่ อนหรือแก่เกินไป ขั้นตอนสำคัญคือการเสียบกิ่งต้ องตัดปาดกิ่งมะนาวแบบทะแยงมุ มแล้วเสียบลงบนต้นส้มโอ ใช้สก๊อตเทปพันเพื่อกันเชื้อรา จากนั้น ใช้ถุงพลาสติกใสคลุม ทิ้งไว้ 34 วัน เพื่อให้ต้นไม้คายน้ำ และให้น้ำไหลกลับคืนเข้าต้นส้ มโอ ซึ่งเพื่อนในกลุ่มทำได้เกือบทุ กคน เพราะทางบ้านมีอาชี พทำสวนมะนาวอยู่แล้ว ซึ่งกิ่งมะนาวบนต้นส้มโอตั้ งราคาขายไว้ที่ 150 บาท ทั้งนี้ เมื่อต้นพันธุ์เติบใหญ่จนให้ ผลผลิตจะเป็นต้นพันธุ์มะนาว ไม่ได้เป็นต้นส้มโอแต่อย่างใด” นาย วิทยา เล่าเทคนิคการเสียบกิ่งมะนาว
บริษัทครบวงจรยังคิดต่อยอดไปอี กว่า การปลูกพืชต้องใช้ปุ๋ยอินทรีย์ จึงไปศึกษาหาความรู้วิธีเลี้ ยงไส้เดือน เพื่อเอามูลมาทำปุ๋ย และนำมาขยายเป็นธุรกิจต่อ โดยจำหน่ายในราคากก.ละ 30 บาท นอกจากนี้ ยังได้ผลิตเครื่องคัดมะนาว โดยนำความรู้วิชาช่างเชื่ อมของเพื่อนในวิทยาลัยมาต่อยอด ผลิตออกมาจำหน่ายราคาเครื่องละ 19,000 บาท มีความสามารถในการคัดมะนาวได้ 100 ลูกต่อ1 นาที ขณะนี้จำหน่ายไปได้แล้ว 6 เครื่ อง
น้องๆ จากบริษัท ครบวงจร 2014 จำกัดเริ่มทำมาตั้ งแต่เดือนสิงหาคม ปี 2557 ล่าสุดได้แบ่งปั นผลกำไรให้สมาชิกไปแล้วคนละ 6, 920 บาท หลังหักค่าใช้จ่ายและชำระเงินกู ้ และยังนำเงินรายได้ไปทำกิ จกรรมสาธารณประโยชน์ (38,061 บา ท ) จัดสรรทุนอบรมการขยายพันธุ์ พืชให้แก่ นักเรียนโรงเรียนโสตศึกษา จ.สุรินทร์ และผู้ต้องขังหญิงในเรื อนจำนางรอง และจัดซื้อคอมพิวเตอร์มอบให้แก่ ศูนย์การเรียนตำรวจตระเวนชายแดน บ้านทรัพย์ทรายทอง อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์
ผลจากการประกอบธุรกิจไม่เพี ยงแต่สร้างรายได้ระหว่างเรียน แต่ยังก่อให้เกิดความรู้ขึ้ นในชุมชน จนส่งผลให้ บริษัทครบวงจร 2014 จำกัด ได้รับรางวัล ชนะเลิศจากการประกวดโครงการกรุ งไทย ยุววาณิช ที่ธนาคารกรุงไทยจั ดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 13 ร่วมกับ ทีมจากโรงเรียนศรีสองรักษ์วิทยา จ.เลย โดยได้รับทุนการศึกษา 390,000 บ าท โล่รางวัล และประกาศนียบัตร พร้อมทั้งศึกษาดูงานต่างประเทศ
ทั้งนี้ โครงการกรุงไทย ยุววาณิช จัดขึ้น เพื่อจุดประกายและสร้างเยาวชนที ่มีคุณธรรมและมีความรับผิดชอบต่ อสังคมตามแนวคิดทุนทางปัญญาไม่ มีวันหมด โดยเน้นให้เยาวชนในระดับมัธยมศึ กษาและระดับประกาศนียบัตรวิชาชี พ (ปวช.) ได้มีเวทีในการฝึกปฏิ บัติการดำเนินธุรกิจ มีความสนใจและตื่นตัวที่จะใช้ ความคิด ความรู้ที่มีอยู่ประกอบกับการศึ กษาค้นคว้าเพิ่มเติม แล้วนำมาปฏิบัติจริงให้เป็นรู ปธรรม
นางศิริพร นพวัฒนพงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารกลุ่ม กลุ่มการตลาดและสื่อสารองค์กร สายงานการตลาดและสื่อสารองค์กร ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า เป้าหมายของโครงการกรุงไทย ยุววาณิช ต้องการสนับสนุนให้เยาวชนได้ ประกอบธุรกิจจริง และภายในโครงการทุกโรงเรียนจะต้ องแบ่งงบประมาณหรือผลกำไรไปทำกิ จกรรมทางสังคมด้วย อีกทั้งยังสามารถต่อยอดได้จริง โดยธนาคารจะช่วยบ่มเพาะหลั กการทำธุรกิจให้เยาวชน เด็กๆจะรู้ทุกขั้นตอนของการทำธุ รกิจ รวมทั้งการทำงานเป็นทีม ที่จะต้องมีการแบ่งหน้าที่กัน ซึ่งเยาวชนสามารถนำความรู้นี้ ไปใช้ในอนาคตเมื่อจบการศึกษามา อยากทำธุรกิจก็สามารถทำได้เลย
“สิ่งที่ประทับใจและน่าชื่นชม คือนักเรียนสามารถนำความคิดทั นสมัยของพวกเขามาพัฒนาผลิตภัณฑ์ ที่มีคุณค่าทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสุขภาพ ซึ่งสินค้าที่เด็กๆ นักเรียนได้ทำสะท้อนให้เห็นถึ งความหวงแหน และเห็นคุณค่าภูมิปั ญญาของไทยมากขึ้น โดยรู้จักนำภูมิปัญญาในท้องถิ่ นมาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุ ณค่า มีราคา นอกจากนี้ยังสะท้อนถึงความห่ วงใยสิ่งแวดล้อมรอบชุมชน รู้จักเอาของเหลือใช้มาแปรรู ปเป็นสินค้า
อย่างไรก็ตาม ตลอด 13 ปี ที่ธนาคารกรุงไทยได้จัดกิ จกรรมนี้ ได้พิสูจน์ให้เห็นชัดแล้วว่าเด็ กและเยาวชนเหล่านั้นต่างมีศั กยภาพ” นางศิริพร กล่าว