ประชาสัมพันธ์

7 สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติใหม่ของโลก


     เว็บไซต์ new7wonders.com ได้มีการจัดอันดับ รายชื่อสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติทั้ง 7 แห่งของโลก จากการโหวตผ่านเว็บไซต์ มีที่ไหนกันบ้างเราไปดูกันได้เลย

http://world.new7wonders.com/content/themes/maxx-wp/functions/thumb.php?src=http://world.new7wonders.com/content/uploads/2011/10/amazon014.jpg&w=611&h=420

1.  ป่าดิบชื้นแอมะซอน

เป็นป่าใบกว้างชื้นที่ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของแอ่งแอมะซอนในทวีปอเมริกาใต้ แอ่งนี้กินพื้นที่ 7 ล้านตารางกิโลเมตร ซึ่งป่าดิบชื้นแอมะซอนกินพื้นที่ไป 5.5 ล้านตารางกิโลเมตร ภูมิภาคนี้รวมดินแดนที่เป็นของ 9 ประเทศ พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ราวร้อยละ 60 อยู่ในประเทศบราซิล รองลงมา คือ เปรู ร้อยละ 13 และโคลอมเบีย ร้อยละ 10 และมีปริมาณเล็กน้อยในเวเนซุเอลา เอกวาดอร์ โบลิเวีย กายอานา ซูรินาม และเฟรนช์เกียนา ป่าแอมะซอนเป็นกว่าครึ่งของป่าดิบชื้นที่ยังเหลืออยู่บนโลก และเป็นป่าดิบชื้นเขตร้อนขนาดใหญ่ที่สุดและมีความหลากหลายทางชีวภาพมากที่สุดในโลก


http://touristreward.co.th/images/package/620/pic_main.jpg


2.  อ่าวหะล็อง (เวียดนาม: Vịnh Hạ Long)

เป็นอ่าวแห่งหนึ่งในพื้นที่ของอ่าวตังเกี๋ยทางตอนเหนือของประเทศเวียดนาม ใกล้ชายแดนติดต่อกับประเทศจีน มีพื้นที่ทั้งหมด 1,500 ตารางกิโลเมตร และมีชายฝั่งยาว 120 กิโลเมตร อยู่ห่างจากกรุงฮานอยไปทางตะวันออก 170 กิโลเมตร ชื่อตามการออกเสียงในภาษาเวียดนามเขียนได้ว่า "Vinh Ha Long" หมายถึง "อ่าวแห่งมังกรผู้ดำดิ่ง" ในอ่าวหะล็องมีเกาะหินปูนจำนวน 1,969 เกาะโผล่พ้นขึ้นมาจากผิวทะเล บนยอดของแต่ละเกาะมีต้นไม้ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น หลายเกาะมีถ้ำขนาดใหญ่อยู่ภายใน ถ้ำที่ใหญ่ที่สุดในบริเวณอ่าวคือ ถ้ำเสาไม้ (Hang Đầu Gỗ) หรือชื่อเดิมว่า "กร็อตเดแมร์แวย์" (Grotte des Merveilles) ซึ่งตั้งชื่อโดยนักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศสที่มาเยี่ยมชมอ่าวเมื่อปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ภายในถ้ำประกอบไปด้วยโพรงกว้าง 3 โพรง มีหินงอกและหินย้อยขนาดใหญ่อยู่จำนวนมาก เกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบริเวณอ่าว 2 เกาะ คือ เกาะกั๊ตบ่าและเกาะต่วนเจิว ทั้งสองเกาะนี้มีคนตั้งถิ่นฐานอยู่อย่างถาวร บนเกาะมีโรงแรมและชายหาดจำนวนมากคอยให้บริการนักท่องเที่ยว ส่วนเกาะขนาดเล็กอื่น ๆ บางเกาะก็มีชายหาดที่สวยงามที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเยี่ยมชม บางเกาะเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวประมง และบางเกาะยังเป็นถิ่นอาศัยของสัตว์หลายชนิด เช่น ไก่ป่า ละมั่ง ลิง และกิ้งก่าหลายชนิด เกาะเหล่านี้มักจะได้รับการตั้งชื่อจากรูปร่างลักษณะที่แปลกตา เช่น เกาะช้าง (Voi Islet) เกาะไก่ชน (Ga Choi Islet) เกาะหลังคา (Mai Nha Islet) เป็นต้น

ตามตำนานพื้นบ้านได้กล่าวไว้ว่า ในอดีตนานมาแล้ว ระหว่างที่ชาวเวียดนามกำลังต่อสู้กับกองทัพชาวจีนผู้รุกราน เทพเจ้าได้ส่งกองทัพมังกรลงมาช่วยปกป้องแผ่นดินเวียดนาม มังกรเหล่านี้ได้ดำดิ่งลงสู่ท้องทะเลบริเวณที่เป็นอ่าวหะล็องในปัจจุบัน ทำให้มีอัญมณีและหยกพุ่งกระเด็นออก อัญมณีเหล่านี้กลายเป็นเกาะแก่งน้อยใหญ่กระจายอยู่ทั่วอ่าว เป็นเกราะป้องกันผู้รุกราน ทำให้ชาวเวียดนามปกป้องแผ่นดินของพวกเขาได้สำเร็จและก่อตั้งประเทศซึ่งต่อมาก็คือเวียดนามในปัจจุบัน บางตำนานสมัยใหม่ก็กล่าวไว้ว่า ปัจจุบันยังมีสัตว์ในตำนานที่ชื่อว่า Tarasque อาศัยอยู่ที่ก้นอ่าว


http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/2/2c/Iguazu_D%C3%A9cembre_2007_-_Panorama_7.jpg



3.  น้ำตกอีกวาซู (อังกฤษ: Iguazu Falls; แปลว่า "สายน้ำอันยิ่งใหญ่")

เป็นคำมาจากภาษากวารานี (Guarani) ชาวอินเดียนแดงเผ่าดั้งเดิม น้ำตกอีกวาซูตั้งอยู่บริเวณรอยต่อพรมแดนระหว่างประเทศบราซิลกับประเทศอาร์เจนตินา เป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกาใต้[1] และขึ้นชื่อว่าใหญ่ที่สุดในโลก[ต้องการอ้างอิง] โดยใหญ่กว่าน้ำตกไนแอการาประมาณ 30 เท่า อย่างไรก็ตามขนาดของน้ำตกใกล้เคียงกับน้ำตกวิกตอเรียในทวีปแอฟริกา น้ำตกอีกวาซูเกิดจากแม่น้ำอีกวาซูซึ่งไหลมาจากที่ราบสูงปารานา ตกจากขอบที่ราบสูงขนาดใหญ่ลงสู่พื้นที่ราบต่ำกว่า จึงกลายเป็นน้ำตกขนาดใหญ่เป็นแนวยาวกว่า 4 กิโลเมตร สูงกว่า 269 ฟุต ประกอบด้วยน้ำตกน้อยใหญ่อีก 275 แห่ง ในช่วงฤดูฝนระหว่างเดือนพฤศจิกายนจนถึงเดือนมีนาคมปริมาณน้ำมีมากถึงกว่า 13.6 ล้านลิตรต่อวินาที แต่ในช่วงฤดูร้อน คือระหว่างเมษายนถึงเดือนตุลาคม ปริมาณน้ำจะลดลงเหลือ 2.3 ล้านลิตรต่อวินาที บริเวณรอบ ๆ น้ำตกจะเกิดละอองน้ำอยู่ตลอดเวลาและมีเสียงดังไปไกลกว่า 24 กิโลเมตร บนฝั่งประเทศบราซิลจะมองเห็นน้ำตกได้ทั่วถึงและงดงาม แต่ทางฝั่งประเทศอาร์เจนตินาสามารถเข้าชมน้ำตกได้ใกล้กว่า

http://xn--12c7bl7alj4a7bm6a2iub5g.com/wp-content/uploads/2012/11/kor.jpg



4.  เกาะเชจู (ชื่ออย่างเป็นทางการ จังหวัดปกครองตนเองพิเศษเชจู)

เป็นหนึ่งในเก้าจังหวัดในเกาหลีใต้ และมีลักษณะเป็นเกาะโดยเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้ ตั้งอยู่บนช่องแคบเกาหลี, อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ใต้ของจังหวัดช็อลลาใต้ เป็นจังหวัดที่จังหวัดเชจูได้แยกออกมามีฐานะเป็นจังหวัดเมื่อปี พ.ศ. 2489 โดยมีเมืองเอกอยู่ที่เชจู เกาะเชจูนี้จัดเป็นจังหวัดที่เล็กที่สุดในประเทศเกาหลีใต้[2] และในจังหวัดเชจูนั้นมีมรดกโลก คือ เกาะภูเขาไฟเชจูและอุโมงค์ลาวา[3] เกาะเชจูนั้นมีอากาศอบอุ่นแม้กระทั่งในฤดูหนาว อุณหภูมิแทบจะไม่ต่ำไปกว่าจุดเยือกแข็ง

http://images.thaiza.com/38/38_201004031601111..jpg



5.  อุทยานแห่งชาติโกโมโด (อินโดนีเซีย: Taman Nasional Komodo)

เป็นอุทยานแห่งชาติในประเทศอินโดนีเซีย ตั้งอยู่ใกล้หมู่เกาะซุนดาน้อย ระหว่างจังหวัดนูซาเติงการาตะวันออกกับจังหวัดนูซาเติงการาตะวันตก อุทยานประกอบด้วยเกาะใหญ่ 3 เกาะ คือ เกาะโกโมโด เกาะรินจา และเกาะปาดาร์ รวมทั้งยังมีเกาะเล็ก ๆ อีกมากมาย ซึ่งเกาะเหล่านี้กำเนิดขึ้นจากการระเบิดของภูเขาไฟ มีพื้นที่รวมทั้งหมด 1,817 ตารางกิโลเมตร (ส่วนที่เป็นแผ่นดิน 603 ตารางกิโลเมตร) มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 4,000 คน ก่อตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อ พ.ศ. 2523 เพื่ออนุรักษ์มังกรโกโมโด ซึ่งเป็นสัตว์เฉพาะถิ่น ภายหลังยังจัดเป็นพื้นที่สำหรับอนุรักษ์สัตว์ป่าและสัตว์ทะเลชนิดอื่น ๆ อีกด้วย ใน พ.ศ. 2534 อุทยานได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก[1] และถูกจัดให้เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกทางธรรมชาติยุคใหม่อีกด้วย


http://host103.hunsa.com/img2/load_cpic.php?fid=112959&mime=image/jpeg&ext=jpg



6.อุทยานแห่งชาติแม่น้ำใต้ดินปวยร์โตปรินเซซา (อังกฤษ: Puerto Princesa Subterranean River National Park; ตากาล็อก: Pambansang Liwasang Ilog sa Ilalim ng Lupa ng Puerto Princesa)

เป็นอุทยานแห่งชาติของประเทศฟิลิปปินส์ ได้รับการจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อปี ค.ศ. 1992 และได้รับการจัดเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติในปี ค.ศ. 1999 

อุทยานแห่งชาติแม่น้ำใต้ดินปวยร์โตปรินเซซา ตั้งอยู่บริเวณเทือกเขาเซนต์พอล ทางตอนเหนือของเกาะปาลาวัน ประเทศฟิลิปปินส์ ห่างจากเมืองปวยร์โตปรินเซซา เมืองหลวงของเกาะปาลาวันทางตอนเหนือประมาณ 50 กิโลเมตร 

ณ ที่นี้ถือเป็นแม่น้ำใต้ดินที่มีความยาวที่สุดในโลก (ประมาณ 8.2 กิโลเมตร) ลอดผ่านถ้ำหินปูนของเทือกเขาเซนต์พอล ที่มีอายุกำเนิดมานานกว่า 20 ล้านปี ก่อนที่จะไหลลงสู่ทะเลจีนใต้ โดยในภายในถ้ำจะประกอบด้วยหินงอกหินย้อยต่าง ๆ ที่มีลักษณะเหมือนรูปร่างต่าง ๆ ตามแต่จินตนาการของผู้พบเห็น เช่น หัวสิงโต, เห็ด, เทียนไขเล่มยักษ์ หรือพระแม่มารี ซึ่งถือเป็นจุดสำคัญของการเข้าชม

การเข้าชมต้องใช้วิธีการล่องเรือพายเข้าไป และใช้ไฟฉายส่อง เพราะภายในถ้ำไม่มีการติดตั้งไฟอย่างถาวร ก่อนที่จะเข้าสู่ถ้ำ ต้องเดินผ่านเส้นทางชมธรรมชาติซึ่งเป็นป่าดิบที่อุดมสมบูรณ์ ประกอบไปด้วยป่าไม้นานาชนิด และสัตว์ป่าหายากชนิดต่าง ๆ เช่น ลิงแสม, นกเงือกปาลาวัน เป็นต้น และภายในถ้ำก็เป็นแหล่งอาศัยของค้างคาวจำนวนมาก 

การเข้าชม จะเข้าชมได้เพียง 1.2 กิโลเมตร ส่วนที่เหลือจะปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าชม ด้วยเหตุผลของการอนุรักษ์ และจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว อัตราค่าเข้าชมคนละ 150 เปโซ ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของเกาะปาลาวัน อุทยานแห่งชาติแม่น้ำใต้ดินปวยร์โตปรินเซซาได้รับการประกาศให้เป็น 7 สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลก เมื่อปี ค.ศ. 2011 ร่วมกับป่าแอมะซอน, อ่าวหะล็อง, น้ำตกอีกวาซู เป็นต้น

http://web.stanford.edu/~siegelr/RSA/capetown/GOPR0077%20table%20mountain%20from%20devils%20resize.jpg



7. อุทยานแห่งชาติ Table Mountain

ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของทวีปแอฟริกา เขตเมืองเคปทาวน์ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่มีภูมิประเทศที่งดงาม รวมทั้งมีทรัพยากรด้านสัตว์ป่าที่น่าสนใจหลายชนิด

 Table Mountain เป็นภูเขาที่มีความเก่าแก่ โดดเด่นและสำคัญแห่งหนึ่งของโลก มีความสูง 1,086 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง สามารถมองเห็นได้จากแทบทุกมุมของเมืองเคปทาวน์ ถูกประกาศเป็นเขตอุทยานแห่งชาติของแอฟริกาใต้ ใช้ชื่อตรงตัวว่า

Table Mountain National Park Table Mountain มีลักษณะทางธรณีวิทยาที่น่าสนใจ โดยเกิดขึ้นจากหินหลายชนิด ผ่านกระบวนการ ทางธรณีวิทยา และการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศมายาวนานกว่า 800 ล้านปี จนกระทั่งปรากฏเป็น ภูมิประเทศอันน่าอัศจรรย์ที่เราเห็นในทุกวันนี้ ส่วนฐานของ Table Mountain เป็นชั้นของหินดินดานซึ่งเกิดจากการสะสมของตะกอนน้ำทะเล และ มีหินอัคนีซึ่งเกิดจากการแทรกตัวขึ้นมาของหินหนืด (Magma) ส่วนด้านบนเป็นชั้นหินทรายตะกอนแม่น้ำ และเมื่อประมาณ 280 ล้านปีที่แล้วได้เกิดกระบวนการทางธรณีวิทยาทำให้ภูมิประเทศบริเวณนี้ถูกยก ตัวขึ้น และได้เกิดกระบวนการผุพังและถูกกัดกร่อนโดยลมและฝนมาเป็นระยะเวลาหลายร้อย ล้านปี จนเกิดเป็นภูเขาที่มีลักษณะยอดตัด (Mesa) มีสัณฐานคล้ายโต๊ะ ที่มีชื่อว่า “Table Mountain” Table Mountain อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพรรณพืชและสัตว์ โดยพบพืชกว่า 1,470 ชนิด หลายชนิดเป็น สิ่งมีชีวิตถิ่นเดียว (Endemic Species) ซึ่งพบได้เฉพาะในระบบนิเวศที่มีความพิเศษและเป็นหนึ่งเดียวแห่งนี้เมือง เคปทาวน์ สาธารณรัฐแอฟริกาใต้

ที่มา  http://world.new7wonders.com/ , วิกิพีเดีย

Blogger Comment
Facebook Comment

:ambivalent:
:angry:
:confused:
:content:
:cool:
:crazy:
:cry:
:embarrassed:
:footinmouth:
:frown:
:gasp:
:grin:
:heart:
:hearteyes:
:innocent:
:kiss:
:laughing:
:minifrown:
:minismile:
:moneymouth:
:naughty:
:nerd:
:notamused:
:sarcastic:
:sealed:
:sick:
:slant:
:smile:
:thumbsdown:
:thumbsup:
:wink:
:yuck:
:yum:

loading...

Facebook

นิยม

บทความ

loading...