ศึกษาธิการมอบ “สอศ.” จัดทำแผนรับเด็ก ปวช. “ชินวรณ์” หวังการรับนักศึกษาจะเป็นระบบ เพื่อสนองนโยบาย
เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยถึงการรับนักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.)ของ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.) ประจำปีการศึกษา 2554 ว่า จากสภาพปัจจุบันการรับเด็ก ปวช. ต้องมีการบูรณาการให้สอดคล้องกับการรับนักเรียนของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน(สช.) โดยในส่วนรายละเอียดนั้น ตนได้มอบให้ สอศ.ไปดำเนินการจัดทำแผนการรับโดยให้ดำเนินตามนโยบายการเพิ่มปริมาณผู้เรียนสายอาชีพ ซึ่งทาง สอศ.คาดการณ์การจ้างงานโดยรวมทั้งจากภาค การเกษตร และอุตสาหกรรม ว่าต้องการแรงงานเพิ่มขึ้น เฉลี่ยตั้งแต่ปี 2553 – 2562 จำแนกตามระดับการศึกษา ปวช. และระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ที่เป็นแรงงานไม่มีฝีมือร้อยละ 65.50 แรงงานมีฝีมือร้อยละ 20.57 และรับดับอุดมศึกษาร้อยละ 11.17 ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับการผลิตกำลังคนให้สูงขึ้น และสอดรับนโยบายการปฏิรูปการศึกษารอบ 2 ตนจึงมอบให้ ดำเนินการใช้แผนการรับนักเรียนเพื่อปรับสัดส่วนให้เป็นไปตามเป้าหมาย สายอาชีพ และสายสามัญที่ชัดเจน ขอความร่วมมือสถานศึกษาที่เปิดสอนระดับมัธยมศึกษาให้มีการแนะแนว ถึงความก้าวหน้าในการเรียนสายอาชีพ ให้ผู้เรียนมีอิสระในการเลือกเรียน สร้างความเข้าแก่ผู้ปกครอง รวมไปถึงให้ สอศ.ปรับรูปแบบแนะแนวเชิงรุก พร้อมทั้งให้ปรับแนวทางการรับนักศึกษาที่ให้เกิดความยืดหยุ่นมากขึ้น
“สอศ.ต้องเร่งทำโครงการแนะแนวเชิงรุกเพื่อที่จะได้จูงใจให้นักเรียนที่มีความสามารถ มีความถนัดในด้านวิชาชีพ ได้เรียนต่อสายอาชีพ โดยให้เห็นเป้าหมายในการขยายสัดส่วนการรับนักเรียนจากสายสามัญ สู่ สายวิชาชีพที่ชัดเจน ตลอดจนให้ทราบว่าการเรียนสายอาชีพสามารถเข้าร่วมโครงการเรียนฟรี 15 ปีอย่างมีคุณภาพของรัฐบาล และจะมีการจัดตั้งสถาบันการอาชีวศึกษา เพื่อให้เด็กสายอาชีพได้มีโอกาสเรียนต่อ ป.ตรี พร้อมทั้งมุ่งเน้นการจัดตั้งสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพเพื่อให้แรงงานที่จบออกไปมีค่าตอบแทน ค่าจ้างที่สูงขึ้นตามความถนัดอย่างแท้จริง” รมว.ศึกษาธิการ กล่าว
นายชินวรณ์ กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ตนจะขอจำนวนนักเรียนและศักยภาพการรับนักศึกษาปวช. จาก สอศ. ว่ามีศักยภาพในการรับจำนวนเท่าไร พร้อมทั้งของตัวเลขการรับนักเรียนจากสช.ด้วยว่า จะมีจำนวนเด็กที่เรียนต่อทั้งสายสามัญ และสายอาชีพเท่าใด และเมื่อได้จำนวนโดยภาพรวมทั้งหมดแล้ว ก็จะได้มีการทำแผนกำหนดสัดส่วนการรับ ซึ่งตนหวังว่าการรับนักศึกษาปีนี้จะเป็นระบบเพื่อสนองนโยบายต่อไป
“สอศ.ต้องเร่งทำโครงการแนะแนวเชิงรุกเพื่อที่จะได้จูงใจให้นักเรียนที่มีความสามารถ มีความถนัดในด้านวิชาชีพ ได้เรียนต่อสายอาชีพ โดยให้เห็นเป้าหมายในการขยายสัดส่วนการรับนักเรียนจากสายสามัญ สู่ สายวิชาชีพที่ชัดเจน ตลอดจนให้ทราบว่าการเรียนสายอาชีพสามารถเข้าร่วมโครงการเรียนฟรี 15 ปีอย่างมีคุณภาพของรัฐบาล และจะมีการจัดตั้งสถาบันการอาชีวศึกษา เพื่อให้เด็กสายอาชีพได้มีโอกาสเรียนต่อ ป.ตรี พร้อมทั้งมุ่งเน้นการจัดตั้งสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพเพื่อให้แรงงานที่จบออกไปมีค่าตอบแทน ค่าจ้างที่สูงขึ้นตามความถนัดอย่างแท้จริง” รมว.ศึกษาธิการ กล่าว
นายชินวรณ์ กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ตนจะขอจำนวนนักเรียนและศักยภาพการรับนักศึกษาปวช. จาก สอศ. ว่ามีศักยภาพในการรับจำนวนเท่าไร พร้อมทั้งของตัวเลขการรับนักเรียนจากสช.ด้วยว่า จะมีจำนวนเด็กที่เรียนต่อทั้งสายสามัญ และสายอาชีพเท่าใด และเมื่อได้จำนวนโดยภาพรวมทั้งหมดแล้ว ก็จะได้มีการทำแผนกำหนดสัดส่วนการรับ ซึ่งตนหวังว่าการรับนักศึกษาปีนี้จะเป็นระบบเพื่อสนองนโยบายต่อไป