รศ.ดร.สัมพันธ์ กล่าวว่า ตนรับเรื่องทั้งหมดไว้ และต้องขอไปดูก่อนว่าในแต่ละเรื่องที่ร้องมามีเรื่องใดบ้างที่เป็นอำนาจ ผอ.สทศ.ตัดสินใจได้ทันทีก็จะเร่งดำเนินการ แต่ถ้าไม่อยู่ในอำนาจที่จะตัดสินใจได้ก็ต้องขอนำเข้าหารือในคณะกรรมการบริหาร สทศ. คาดว่าสัปดาห์หน้าจะนัดประชุมบอร์ด อย่างไรก็ตามจากนี้ตนต้องขอเวลา 1 เดือน เพื่อศึกษางานต่าง ๆ ของสทศ. ก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะดำเนินการใด ๆ ขณะเดียวกันตนมั่นใจในบุคลากรและระบบการทำงานของ สทศ. ที่เป็นอยู่ว่าจะสามารถเดินหน้าต่อไปได้ โดยไม่มีปัญหา
ต่อข้อถามกรณี รศ.ดร.สัมพันธ์ ไม่ได้ลาออกจากตำแหน่งอาจารย์คณะศึกษาศาสตร์ ม.ขอนแก่น แต่มารับตำแหน่ง ผอ.สทศ. รศ.ดร.สัมพันธ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้ลาออกจริง แต่มหาวิทยาลัยได้ออกหนังสือคำสั่งให้มาทำงานที่สทศ.ได้ ซึ่งหมายความว่ายังสามารถกลับไปทำงานที่ มข.ได้อีก ซึ่งการที่ตนไม่ลาออกนั้น ระบบราชการเปิดให้ทำได้ และเป็นเรื่องของเงินบำนาญ แต่ตนไม่อยากให้นำเรื่องนี้มาเป็นประเด็น ขอให้ดูที่ผลงานจะดีที่สุด
รศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า โดยมาตรฐานวิชาชีพ รศ.ดร.สัมพันธ์ ควรจะลาออกจากราชการ เพื่อทำงานเต็มเวลา ไม่ใช่มารักพี่เสียดายน้องหรือนำเรื่องระบบราชการมาอ้างว่าทำได้ เพราะสทศ.เป็นหน่วยงานที่ตัดสินเรื่องคุณภาพมาตรฐานการศึกษา ดังนั้นต้องเป็นตัวอย่างที่ดีของสังคม แต่ถ้า รศ.ดร.สัมพันธ์ ไม่ลาออกจะเป็นที่กังขาของสังคมทำให้ความน่าเชื่อถือลดลง และไม่สง่างาม
ศ.ดร.ชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์ ผอ.สํานักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) กล่าวว่า การที่ ผอ.สทศ.คนใหม่จะลาออกจากที่เดิมหรือไม่ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้นั้น และมหาวิทยาลัยมีความจำเป็นที่จะต้องรักษาตำแหน่งทางราชการให้กับ รศ.ดร.สัมพันธ์หรือไม่
ข่าว