ประชาสัมพันธ์

10 อันดับ สุดยอดที่เที่ยวรับลมหนาว

อันดับที่ 10
ทุ่งบัวตองดอยแม่อูคอ
ทุ่งดอกบัวตองครอบคลุม เขากว้างประมาณ 1 พันไร่ ดอกบัวตองที่นี่เมื่อบานพร้อม ๆ กันในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม จะเหลืองอร่ามปกคลุมทั่วทั้งภูเขา ดอยแม่เหาะ อยู่ริมทางหลวงหมายเลข ๑๐-๘ ตรงบริเวณหลักกิโลเมตรที่ ๘๔ เขตตำบลแม่เหาะ เป็นที่ตั้ง ของศูนย์ พัฒนา และสงเคราะห์ชาวเขา จังหวัดแม่ฮ่องสอน บริเวณนี้ มีภูมิประเทศ ที่งดงาม มีชาวเขาเผ่า กะเหรี่ยง อยู่เป็นส่วนมาก ในเดือนพฤศจิกายน ถึงธันวาคม ของทุกปี ดอกบัวตอง หรือทานตะวันป่า จะบานสะพรั่ง ไปทั่วหุบเขา สวยงามมากทีเดียว
อันดับที่ 9
อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว
สภาพพื้นที่เป็นภูเขาสูงที่ป่าปกคลุมอากาศหนาวเย็นเกือบตลอดทั้งปี การเดินทางขึ้นดอยค่อนข้างลำบาก แต่เมื่อขึ้นไปถึงแล้วจะพบดอกไม้ป่าพันธุ์ต่าง ๆ เช่น ดอกหงอนนาค ดอกไม้ดินต่าง ๆ สวยงามมาก แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่น้ำตกภูสอยดาว และลานสน
อันดับที่ 8
อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า
ตั้งอยู่บนรอยต่อของสามจังหวัดคือ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และเลย ครอบคลุมพื้นที่ 191,875 ไร่ภูหินร่องกล้ามียอดเขาสูง 1,617 เมตร มีทิวทัศน์สวยงาม ปกคลุมด้วยป่าเต็งรัง ป่าดิบเขา และป่าสนเขา มีสนสองใบและสนสามใบขึ้นปะปนกัน และพบกล้วยไม้ดอกไม้ป่าหลายชนิดขึ้นอยู่ตามลานหิน เคยเป็นศูนย์กลางที่ตั้งฐานที่มั่นการเผยแพร่ลัทธิคอมมิวนิสต์ที่ใหญ่และสำคัญที่สุดของภาคเหนือ จุดที่น่าสนใจ ลานหินปุ่ม ลานหินแตก น้ำตกหมันแดง โรงเรียนการทหาร เป็นต้น
อันดับที่ 7
อุทยานแห่งชาติภูเรือ
เป็นภูเขาสูงใหญ่ บนยอดเขาเป็นที่ราบกว้างใหญ่ มีต้นสนขึ้นสลับซับซ้อน มีลักษณะแปลกคือ มีส่วนหนึ่งเป็นผา ชะโงกยื่นออกมาเหมือนหัวเรือสำเภาใหญ่ อุทยานแห่งชาติภูเรือ จุดที่น่าสนใจบนอุทยานได้แก่ ผาโหล่นน้อย ภูผาสาด และทะเลภูเขา ผาซับทอง หรือ ผากุหลาบขาว เป็นหน้าผาสูงชัน และแหล่งน้ำซับที่มีพืชน้ำไลเคนสีเหลืองคล้ายสีทองขึ้นเต็มไปทั่ว น้ำตกห้วยไผ่ เป็นน้ำตกที่ไหลจากหน้าผาสูงชัน ยอดภูเรือ เป็นจุดสูงสุดในอุทยานฯ สามารถมองเห็นแม่น้ำเหืองและแม่น้ำโขงที่กั้นพรมแดนระหว่างไทย-ลาว
อันดับที่ 6
อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
มีสภาพธรรมชาติสมบูรณ์ประกอบด้วยระบบนิเวศและภูมิประเทศหลากหลายทั้งทุ่งหญ้า ป่าสนเขา ป่าดิบ น้ำตกและหน้าผาชมทิวทัศน์ ลักษณะเด่นของอุทยานฯ แห่งนี้คือเป็นภูเขาหินทรายยอดตัด เป็นที่ราบขนาดใหญ่คล้าใบบอนหรือรูปหัวใจ มีเนื้อที่ประมาณ 60 ตารางกิโลเมตร มีความสูง 400-1,200 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง จุดท่องเที่ยวประทับใจได้แก่ ผานกแอ่น ผาหล่มสัก ผาหมากดูด น้ำตกเพ็ญพบ น้ำตกถ้ำสอเหนือ-ใต้ สระอโนดาด เป็นต้น
อันดับที่ 5
เขาค้อ - อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์
สถานที่น่าสนใจบนเขาค้อได้แก่ อนุสาวรีย์จีนฮ่อ ฐานอิทธิเจดีย์ พระบรมสารีริกธาตุเขาค้อ หอสมุดนานาชาติเขาค้อ พระตำหนักเขาค้อ น้ำตกศรีดิษฐ์ สวนสัตว์เปิดเขาค้อ และเนินมหัศจรรย์ อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูงสลับซับซ้อน เป็นแหล่งต้นน้ำที่สำคัญของแม่น้ำหลายสาย สถานที่น่าสนใจในเขตอุทยานฯ ได้แก่ ทุ่งหญ้ากงวัง ถ้ำผาหงษ์ สวนสนบ้านแปก สวนสนภูกุ่มข้าว น้ำตกซำผักคาว น้ำตกทรายแก้ว น้ำตกทรายเงิน น้ำตกเหวทราย น้ำตกทรายทอง ภูผาจิต หนองปลาไหล หนองน้ำขุ่น น้ำตกตาดพรานบา ผาล้อม ผากอง ถ้ำใหญ่น้ำ
อันดับที่ 4
ภูชี้ฟ้า-ผาตั้ง จ.เชียงราย
เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นอีกแห่งหนึ่ง มีลักษณะเป็นยอดเขาที่แหลมชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้า ยิ่งตอนที่พระอาทิตย์กำลังขึ้นมาตรงระหว่างปลายยอดเขา จะดูเหมือนเสือคาบแก้วมาก มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,628 เมตร ส่วนของหน้าผาเป็นแนวยาวยื่นไปทางฝั่งประเทศลาว ดอยผาตั้ง อยู่บนเทือกดอยผาหม่น เป็นจุดชมวิวสองฝั่งโขง ไทย-ลาว และทะเลหมอก บนดอยมีหมู่บ้านชาวจีนฮ่อ ม้ง และเย้า โดยเฉพาะชาวจีนฮ่อนั้น อดีตเคยเป็น ส่วนหนึ่งของกองพล 93 ซึ่งอพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่ดอยผาตั้งนี้ ปัจจุบันประกอบอาชีพทางการ เกษตร ปลูกพืชเมืองหนาว เช่น บ๊วย ท้อ สาลี่ แอปเปิ้ล
อันดับที่ 3
ดอยอ่างขาง
เป็นที่ตั้งสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ภายในสถานีมีโครงการวิจัยผลไม้ ไม้ดอกเมืองหนาว งานสาธิตพืชไร่ แปลงทดลองปลูกไม้ผลเมืองหนาว สวนบอนไซ มีการจำหน่ายผลิตผลพืชผักเมืองหนาวที่ปลูกในบริเวณโครงการฯ ให้แก่นักท่องเที่ยวตามฤดูกาล ในสถานีฯ มีที่พักและมีสถานที่กางเต็นท์บริการแก่นักท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ หมู่บ้านคุ้มจุดชมวิวกิ่วลม หมู่บ้านนอแล และหมู่บ้านขอบด้ง หมู่บ้านหลวง
อันดับที่ 2
อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง
ด้วยสภาพอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี มีเทือกเขาและภูเขาสูงสลับซับซ้อน ครอบคลุมอำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 179.5 ตารางกิโลเมตร หรือ 112,187.5 ไร่ ภูเขาที่สูงที่สุด คือ ดอยช้าง เป็นป่าต้นน้ำลำธาร มีลำห้วยน้อยใหญ่มากมาย ฤดูหนาวอากาศเย็น ลมแรง มีฝนตกชุกในเดือน พฤษภาคม - ตุลาคม ฤดูร้อนอากาศเย็นสบาย อุณหภูมิสูงสุดประมาณ 34 องศาเซลเซียส
อันดับที่ 1
อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์
ชื่อนี้มักจะเป็นติดอันดับต้นๆ ของการท่องเที่ยว เดิมชื่อว่า ดอยหลวง หรือ ดอยอ่างกา เป็นยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทย (2,599 เมตร) จึงทำให้มีสภาพอากาศหนาวเย็นตลอดปี สถานที่น่าสนใจในอุทยานฯ มีน้ำตกแม่ยะ น้ำตกแม่กลาง น้ำตกวชิรธาร น้ำตกสิริภูมิ ถ้ำบริจินดา โครงการหลวงอินทนนท์ และ เส้นทางศึกษาธรรมชาติหลายจุด




ที่มา  

ม.พะเยาประกาศผลการคัดเลือก รับตรงทั่วประเทศ


รับตรง ม.พะเยา ทั่วประเทศ

ม.พะเยาได้แยกตัวมาจาก ม.นเรศวร ซึ่งเดิมชื่อว่า ม.นเรศวร พะเยา ดังนั้นปีนี้เป็นปีแรกที่ ม.พะเยา เปิดรับเข้าในนามของตนเอง ใครอยากทราบผลการคัดเลือกก็ลองเข้าไปดูที่นี่เลย

สอบตรงชิงทุน TEP&TEPE คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์


กำหนดการคัดเลือกผู้สมัครโครงการ TEPE ที่ขอรับทุนการศึกษา ประจำปีการศึกษา 2554




รายละเอียด

กำหนดการ

รับสมัคร

(อ.) 21 ธันวาคม 2553 – (ศ.) 4 กุมภาพันธ์ 2554
ประกาศห้องสอบข้อเขียน
(เช้าวันสอบข้อเขียน 08.00 น.)
ณ บริเวณชั้น 1 คณะวิศวกรรมศาสตร์
(ส.) 12 กุมภาพันธ์ 2554
สอบข้อเขียน
วิชาวิทยาศาสตร์ (09:00 - 10:30 น.),
วิชาภาษาอังกฤษ (11:30 - 13:00 น.), 
วิชาคณิตศาสตร์ (13:30 - 15:00 น.)
(ส.) 12 กุมภาพันธ์ 2554
ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์
ทางเว็บไซต์ www.tep.engr.tu.ac.th
(พ.) 16 กุมภาพันธ์ 2554
สอบสัมภาษณ์ (09:00 - 12.00 น.)
(ศ.) 18 กุมภาพันธ์ 2554
ประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือก (20.00 น.)
ทางเว็บไซต์ www.tep.engr.tu.ac.th
(จ.) 21 กุมภาพันธ์ 2554
กำหนดชำระเงินค่ารักษาสิทธิ์ในการเข้าศึกษา*
(พ.) 23 - (ศ.) 25 กุมภาพันธ์ 2554

หมายเหตุ     *ผู้ผ่านการคัดเลือกจะต้องรักษาสิทธิ์โดยชำระค่าธรรมเนียม จำนวนเงิน 24,000 บาท (สองหมื่นสี่พันบาทถ้วน) หากพ้นกำหนดนี้ถือว่าสละสิทธิ์และจะไม่ได้รับเงินคือกรณีสละสิทธิ์ในภายหลัง
                   * ผู้ผ่านการคัดเลือกที่ยืนยันสิทธิ์เข้าศึกษากับโครงการฯ จะถูกส่งชื่อไปยังสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาแห่งชาติ (สกอ.) เพื่อตัดสิทธิ์การพิจารณาผลคะแนน Admissions


การคัดเลือกผู้สมัครโครงการ TEPE ที่ขอรับทุนการศึกษา
ทุนการศึกษา 
     ทุนการศึกษาเต็มจำนวนจะได้รับการยกเว้นค่าหน่วยกิตและค่าบำรุงการศึกษาทั้งหมด ในแต่ละภาคการศึกษา ตามเกณฑ์ในประกาศ เรื่อง ทุนการศึกษานี้

ค่าธรรมเนียมการศึกษา
          ค่าบำรุงการศึกษา ภาคการศึกษาละ                                     26,205.00        บาท
          ค่าหน่วยกิต (หน่วยกิตละ)                                                   2,500.00        บาท


คุณสมบัติ

     คุณสมบัติทั่วไปของผู้สมัคร คือ ต้องเป็นผู้ที่กำลังจะสำเร็จการศึกษา  หรือ  สำเร็จการศึกษาเทียบเท่าชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สายวิทย์-คณิตฯ         

วิธีการสมัคร
     สมัครออนไลน์ทาง www.tep.engr.tu.ac.th และส่งเอกสารประกอบการสมัครและหลักฐานการชำระเงินค่าสมัครจำนวนเงิน 800.- บาท ทางไปรษณีย์ลงทะเบียนมายัง “โครงการ TEP & TEPE คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เลขที่ 99 หมู่ 18 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 12120” ก่อนวันสอบสัมภาษณ์อย่างน้อย 5 วันทำการโดยโครงการฯจะส่งแบบตอบรับทางอีเมล์หลังจากได้รับเอกสารของผู้สมัครครบถ้วน


เอกสารประกอบการสมัครที่ต้องส่งมาทางไปรษณีย์ลงทะเบียน


[ ] หลักฐานเอกสารยืนยันการโอนเงิน
[ ] รูปถ่ายสี/ขาวดำ ขนาด 1 นิ้ว จำนวน 3 รูป (ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน)
[ ]
 สำเนาบัตรประชาชน      
 จำนวน 1 ชุด
[ ] สำเนาทะเบียนบ้าน    จำนวน 1 ชุด
[ ] สำเนาใบเทียบวุฒิ   จำนวน 1 ชุด (กรณีนักเรียนจบการศึกษาจากโรงเรียนนานาชาติ หรือ
     โรงเรียนในต่างประเทศ)
[ ] สำเนาวุฒิการศึกษา จำนวน 1 ชุด
[ ] สำเนาคะแนนมาตรฐานต่างๆ จำนวน 1 ชุด (กรณีผู้สมัครยื่นคะแนนมาตรฐาน)

ที่มา http://www.unigang.com/Article/5327

รับตรงเศรษฐศาสตร์ Inter ม.เกษตรศาสตร์ 2554


กำหนดการ
- ขอใบสมัครหรือดาวน์โหลดใบสมัคร ตั้งแต่วันนี้ - 31 มกราคม 2554
- ยื่นใบสมัคร                                           5 มกราคม - 4 กุมภาพันธ์ 2554
- ประกาศผู้มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์           9 กุมภาพันธ์ 2554
- ประกาศผู้มีสิทธิ์เข้าศึกษา                   25 กุมภาพันธ์ 2554

จำนวนรับสมัคร ไม่เกิน 120 คน

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม  http://www.eeba.eco.ku.ac.th/index.php/admission-2011-january.html 

รับตรง โครงการปริญญาตรีภาคพิเศษ อุตสาหกรรมการเกษตร ม.เกษตรศาสตร์ รอบที่ 1


รับตรง โครงการปริญญาตรีภาคพิเศษ อุตสาหกรรมการเกษตร  ม.เกษตรศาสตร์ รอบที่ 1
รับสมัคร วันที่ 10 ถึง 21  มกราคม 2554
สำหรับ  ผู้ที่กำลังศึกษาชั้น ม.6 หรือ สำเร็จการศึกษา  โดย Gpax ไม่ต่ำกว่า 2
ใช้ คะแนน GAT  Pat1 และ Pat2
เปิดรับสาขาละ 60 คน นะครับ

สาขาวิชาเทคโนโลยีชีวภาพ ให้การศึกษาเกี่ยวกับการนำความรู้ด้านเคมีชีวภาพ จุลชีววิทยาวิศวกรรมเคมี และพันธุวิศวกรรมมาใช้ในกระบวนการเปลี่ยนแปลงวัตถุดิบทางชีวภาพเพื่อการผลิตสารเคมีชีวภาพ ที่มีประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ รวมถึงศึกษาเกี่ยวกับการบำบัดและการนำของเสียไปใช้ประโยชน์   ดูรายละเอียดเพิ่มเติม 

สาขาวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร ให้การศึกษาโดยเรียนรู้วิชาด้านวิทยาศาสตร์พื้นฐานต่างๆ และวิศวกรรม เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในการศึกษาและทดลอง กรรมวิธีการแปรรูป วัตถุดิบทางการเกษตร ให้เป็นอาหารสำเร็จรูปหรือกึ่งสำเร็จรูปต่าง ๆ ตลอดจนการตรวจสอบและควบคุมการผลิต และคุณภาพของอาหารให้ได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับและปลอดภัยต่อการบริโภค   ดูรายละเอียดเพิ่มเติม 

สาขาวิชาเทคโนโลยีการบรรจุและวัสดุ ให้การศึกษาเกี่ยวกับการนำความรู้พื้นฐานทางด้านวัสดุศาสตร์ เคมี วิทยาศาสตร์ชีวภาพ และศิลปอุตสาหกรรม มาประยุกต์เข้าด้วยกัน เพื่อผลิตวัสดุทางการบรรจุและบรรจุภัณฑ์ สำหรับบรรจุผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรและอุตสาหกรรม นอกจากนี้ยังศึกษาวิธีทดสอบคุณสมบัติการใช้งาน ตลอดจนการออกแบบบรรจุภัณฑ์ รวมทั้งฉลากทางด้านโครงสร้างและความสวยงาม ซึ่งช่วยส่งเสริมให้ผลิตภัณฑ์ มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคและตลาด   ดูรายละเอียดเพิ่มเติม 

สาขาวิชาพัฒนาผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเกษตร ให้การศึกษาโดยมีเนื้อหาวิชาที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์พื้นฐาน การประกันและการควบคุมคุณภาพในการแปรรูปผลิตผลการเกษตร การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การวิจัยและพัฒนา การจัดการอุตสาหกรรมเกษตร นำมาประยุกต์กับความรู้ด้านการตลาดเพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกสู่ตลาด   ดูรายละเอียดเพิ่มเติม 

สาขาวิชาวิทยาการสิ่งทอ เป็นวิชาการที่เกี่ยวข้องกับวิชาพื้นฐานของอุตสาหกรรมสิ่งทอ ความรู้ในเรื่องขั้นตอนการผลิตกระบวนการแต่ละขั้นตอน และปัจจัยที่เข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น การจัดการ และการควบคุมการผลิตให้ดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยภาควิชามีเป้าหมายในการผลิตบัณฑิต ในระดับผู้ควบคุมการผลิตในทุกขั้นตอนของการอุตสาหกรรมสิ่งทอและผลิตภัณฑ์  ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

เวลาเรียน
วันจันทร์ ถึง วันศุกร์ ช่วงเวลา 09.00 น.-19.00 น. 
วันเสาร์ หรือ วันอาทิตย์ ช่วงเวลา 09.00 น.-16.00 น.

ค่าธรรมเนียมการศึกษา
ค่าธรรมเนียมการศึกษาเป็นระบบเหมาจ่าย
ภาคการศึกษาละ 37,700 บาท
(ตามหลักสูตร 4 ปี มี 8 ภาคการศึกษา)

จบแล้วทำงาอะไร 
ภาควิชาเทคโนโลยีการบรรจุและวัสดุ
ผู้ที่เรียนจบสาขาวิชาเทคโนโลยีการบรรจุและวัสดุ สามารถทำงานเป็นนักเทคโนโลยีการบรรจุ ที่ออกแบบและควบคุมการผลิตภาชนะบรรจุ หรือเป็นผู้เชี่ยวชาญในการแนะนำภาชนะบรรจุให้เหมาะสมกับชนิดของผลิตภัณฑ์ สถานที่ทำงานหลังจบการศึกษาได้แก่ บริษัทในกลุ่มอุปโภคบริโภค เช่น Procter & Gamble Manufacturing Ltd., คอลเกต ปาล์มโอลีฟ ประเทศไทย จำกัด, จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ประเทศไทย จำกัด, 3 เอ็ม ประเทศไทย จำกัด ฯลฯ บริษัทในกลุ่มวัสดุบรรจุ เช่น ฟิล์มมาสเตอร์ จำกัด, สยามคราฟท์อุตสาหกรรม จำกัด, เยื่อกระดาษสยาม จำกัด ฯลฯ และกลุ่มการพิมพ์ภาชนะบรรจุ เช่น สยามบรรจุภัณฑ์ จำกัด, สยามทบพัน จำกัด, Fuji Ace Co.,Ltd ฯลฯ

ภาควิชาเทคโนโลยีชีวภาพ
ผู้ที่จบสาขาวิชาเทคโนโลยีชีวภาพสามารถทำงานในภาคอุตสาหกรรมการหมัก อุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมเครื่องดื่ม ฯลฯ ในบทบาทของนักวิจัย ผู้ควบคุมการผลิต ผู้ควบคุมคุณภาพ หรือศึกษาต่อปริญญาโทเพื่อเพิ่มพูนความรู้ทั้งในสาขาเทคโนโลยีชีวภาพ หรือวิศวกรรมเคมี บัณฑิตของภาควิชาเทคโนโลยีชีวภาพได้มีโอกาสเข้าไปทำงานในบริษัทต่างๆ เช่น บริษัทเนสเล่(ประเทศไทย) จำกัด, บริษัทอายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัทไทยเทพรสผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน), บริษัทเบทาโกรอโกรกรุ๊ฟ จำกัด (มหาชน), บริษัทซี.พี.อินเตอร์ฟูด (ไทยแลนด์) จำกัด ฯลฯ หรือทำงานในหน่วยงานราชการต่างๆ เช่น สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย และมหาวิทยาลัยต่างๆ ฯลฯ


ภาควิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร
ผู้จบการศึกษาสาขาวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหารสามารถทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมอาหาร ในฝ่ายควบคุมการผลิต ฝ่ายควบคุมคุณภาพ ฝ่ายวิจัยและพัฒนา หรือฝ่ายขาย และ ผู้จบการศึกษาสาขาวิชาวิศวกรรมอาหารสามารถทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมอาหารในตำแหน่งวิศวกรกระบวนการแปรรูปอาหาร และเจ้าหน้าที่ฝ่ายควบคุมการผลิต บัณฑิตของภาควิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหารสามารถทำงานในบริษัทต่างๆ เช่น บริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี), บริษัทลีเวอร์บราเธอร์ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัทเนสท์เล่ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัทยูไนเต็ดฟูดส์ จำกัด ฯลฯ หรือทำงานในหน่วยงานรัฐบาลต่างๆ เช่น สำนักงานอาหารและยา กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวงสาธารณสุข โครงการหลวงและโครงการส่วนพระองค์ ฯลฯ

ภาควิชาวิทยาการสิ่งทอ
ผู้ที่เรียนจบสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสิ่งทอสามารถก้าวสู่มืออาชีพด้านการจัดการธุรกิจสิ่งทอและผลิตภัณฑ์ หรือเป็นผู้ควบคุมการผลิต หรือหัวหน้างานในโรงงานอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มต่างๆ เช่น โรงงานปั่นด้าย โรงงานฟอกย้อม โรงงานพิมพ์ผ้า โรงงานผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูป โรงงานผลิตภัณฑ์สิ่งทอต่างๆ โรงงานเคหะสิ่งทอ หรือเป็นนักวิจัยในหน่วยงานราชการต่างๆ เช่น กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สถาบันสิ่งทอ สถาบันค้นคว้าและวิจัยต่างๆ ฯลฯ

 
 ภาควิชาพัฒนาผลิตภัณฑ์
ผู้ที่เรียนจบสาขาวิชาพัฒนาผลิตภัณฑ์สามารถเป็นนักวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ เป็นพนักงานควบคุมการผลิตในบริษัทเอกชนต่างๆ ที่มีกิจการเกี่ยวข้องกับสินค้าอุตสาหกรรมเกษตร ทั้งที่เป็นอาหารและไม่ใช่อาหาร หรือทำงานในองค์กรของรัฐต่างๆ เช่น สภาวิจัย ศูนย์พันธุวิศวกรรม สถาบันอาหาร ฯลฯ ในตำแหน่งนักวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ และผู้ควบคุมคุณภาพสินค้า หรือศึกษาต่อในสถาบันการศึกษาต่างๆ ในสาขาเดิมหรือสาขาอื่น เช่น สาขาสิ่งแวดล้อม,Food Engineering, Chemical Engineering, MBA, Marketing, Industrial Engineering, Packaging ฯลฯ


รายละเอียดการรับสมัคร   http://www.sbai.agro.ku.ac.th/inews/photo/113.pdf
หน้าเว็บไซต์หลัก http://www.sbai.agro.ku.ac.th/

ไป "เชียงคาน"กัน ... !!

  
อำเภอ เชียงคาน จังหวัด เลย  
อิสระอยู่ที่ใจไปไหนไป " เลย 
"เชียงคาน เมืองโบราณ ที่ไม่ล้าสมัย"
  เมืองเชียงคาน ในปัจจุบันเป็นเมืองโบราณเก่าแก่ในสายตาของนักท่องเที่ยว เป็นชุมชนที่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาได้ยาวนานกว่า 100 ปี ซึ่งเพิ่งจะมีการจัดงานฉลอง "100 ปี เชียงคาน เมืองโบราณ ริมฝั่งโขง" ไปเมื่อวันที่ 4-6 ธันวาคม 2552 ที่ผ่านมานี้เอง เพื่อเป็นการอนุรักษ์ความเป็นเอกลักษณ์ให้คงอยู่สืบไป 
   เมืองเชียงคาน เมืองโบราณ.. บ้านไม้เก่าๆ ร้านกาแฟ มุมหนังสือเล็กๆ เท่านั้น แต่กลับมีนักท่องเที่ยวที่ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นหนุ่มสาว เดินเที่ยวกันให้เต็มไปหมด อาจจะด้วยเพราะเมืองเชียงคานนี้เงียบสงบ บรรยากาศดี ด้วยการที่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์แต่ผสมผสานกับความเป็นสมัยใหม่ที่ไม่มากจนเกินไปได้อย่างลงตัวในแบบฉบับของเชียงคาน ผู้คนที่เชียงคานก็เป็นมิตร อัธยาศัยดี และการไปเที่ยวที่เชียงคานก็ไม่แพงจนเกินกำลัง ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าเชียงคานแห่งนี้ ก็จะเป็นที่รู้จักกันมากขึ้น หลายๆ สิ่งที่เชียงคานอาจเปลี่ยนแปลงไป อย่างไรก็ตาม เชียงคานจะไม่เปลี่ยนแปลงไป ถ้าเราทุกคนยังคงช่วยกันรักษาความเป็นเอกลักษณ์ ดำรงวิถีชีวิตในแบบของเชียงคานสืบไป ความเป็นเชียงคานที่คงความเป็นเอกลักษณ์ได้ยาวนานกว่าร้อยปี ก็จะเป็นเช่นเดิมตลอดไป.. อ่านต่อ

     เชียงคาน อำเภอเล็ก อารยธรรมแห่งลุ่มน้ำโขง จากอาณาจักรล้านช้างในอดีต จากภูมิประเทศที่ติดชายแดนลาว ผู้คนที่นี่ทำการค้าขายกับคนลาวฝั่งตรงข้ามอยู่สม่ำเสมอตั้งแต่อดีตกาล
     ครั้นประเทศลาวตกเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศส ศิลปวัฒนธรรมการก่อสร้างบ้านเรือน อาหารการกิน คนที่นี่พลอยได้รับอารยธรรมฝรั่งเศสไปด้วย
     การคมนาคมนอกจากเรือ แล้ว จักรยานเห็นจะเป็นยานพาหนะยอดฮิตของผู้คนที่นี่ เราสามารถเห็นจักรยานรุ่นเก่าจอดเรียงอยู่หน้าบ้าน แถวเชียงคานอยู่ทั่วไป
     บ้านเรือทรงไทยโบราณเกือบร้อยปี หากใครมีฐานะหน่อยก็จะมีระเบียงหน้าบ้าน จนหน่อยก็มีแค่หน้าต่าง
     วัฒนธรรมการใส่บาตรข้าวเหนียวยามเช้า ยังคงมีให้เห็นอยู่ พระที่นี่เดินบินฑบาตกันแต่เช้ามืด ประมาณ 6.00 น. ช่วงหน้าหนาวสว่างช้าหน่อยก็เดินกันตั้งแต่ 6.30 น.
     ทางหอการค้าท่องเที่ยว จ.เลย มีแผนการหลายอย่างที่จะอนุรักษ์ วัฒนธรรมความเป็นอยู่ สิ่งก่อสร้าง ภาษาท้องถิ่น ของผู้คนที่นี่
     ปัจจุบันทางการกำลังทำถนนจาก อ.ท่าลี่ สู่ หลวงพระบาง ประเทศลาว ประมาณ 320 กม. ถือว่าสั้นและสะดวกที่สุดในการเดินทางโดยรถยนต์ โครงการนี้จะแล้วเสร็จ ประมาณปี 2556
     ลัดเลาะสองฝั่งโขง แถวเชียงคานนี่เอง เป็นจุดเริ่มลำน้ำโขงที่มาบรรจบกับลำน้ำเหือง ไหลผ่านอีกหลาย อำเภอ ของอีกหลายจังหวัดของประเทศไทย ทิวทัศน์แปลกตา มีเกาะแก่งน้อยใหญ่ให้ดูชมตลาดเส้นทางที่คู่ขนานกับลำน้ำสายนี้
     อาหารการกิน ส่วนใหญ่เป็นจำพวกปลาต่างๆ จากแหล่งน้ำโขงนี่เอง 

 เชียงคาน....ในความทรงจำ 
เชียงคาน เป็นชื่อที่ผมคุ้ยเคยเป็นอย่างดี แต่ยังไม่เคย 
ได้ไปสัมผัสสักครั้ง ดังนั้นจึงตั้งไว้เป็นปณิธานเลยว่าใน 
ชีวิตนี้ผมต้องไปเยือนที่แห่งนี้ให้ได้ และแล้วการค้นหา 
ข้อมูลก็เริ่มขึ้น "เชียงคาน" เป็นอำเภอเล็กๆแห่งหนึ่ง 
ของ จ.เลย บรรยากาศคล้ายเมืองปาย แต่สงบเงียบ 
มากกว่า หากเปรียบ อ.ปาย เป็นสาวรุ่นที่กำลังเริ่มจะใจ 
แตก เชียงคานก็ถือว่ายังเป็นเด็กน้อยวัยละอ่อน ที่ยังไร้การแต่งแต้มสีสันใส่จริต


         เชียงคาน ผมมีโอกาสมาเยือนที่นี่ถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อปี 2550 ผมมากับพ่อแม่ ชั่วชีวิตที่ผ่านมาเท่าที่จำความได้ผมไม่เคยเห็น 
พ่อกับแม่ไปไหนเลย นอกจากจังหวัดบ้านของตัวเอง นี่จึงเป็นการเดินทางไปจังหวัดอื่นๆครั้งแรกในชีวิตของท่านทั้ง 2 คน ความจริงผม 
มาทำงานแต่อยากพาท่านมาเที่ยวด้วย รู้สึกอุ่นใจไม่น้อยที่มีทั้ง 2 คนเดินทางมาด้วย 
       ครั้งที่สอง ผมมากับคนคนนึง เป็นการเที่ยวด้วยกันครั้งแรกของเรา 2 คนและก็เป็นครั้งสุดท้ายอีกเช่นกัน แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความรู้สึก 
ประทับใจกับสถานที่เลือนหายไป ทันทีที่เดินทางมาถึงเชียงคาน ผมก็มีความรู้สึกว่าชีวิตของเราเดินช้าลง ไม่ต้องไปเร่งรีบกับชีวิตให้วุ่นวาย 
ใช้จักรยานแทนรถเครื่อง อาคารไม้เก่าแก่ดูเป็นเสน่ห์ดึงดูดแรกๆ ที่คนมาเที่ยวเชียงคานนึกถึง เดินไปทางไหนก็มีแต่รอยยิ้มและมิตรไมตรี 
ของผู้คนที่นี่ที่พร้อมต้อนรับบุคคลแปลกหน้าอย่างสม่ำเสมอ 


      เชียงคาน ไม่ได้มีเพียงแต่บ้านเรือนเก่าคลาสสิค แต่ยังมีสิ่งยึดเหนี่ยวของชาวบ้านที่นี่อีกมากมาย นั้นก็คือวัดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น 
วัดพระพุทธบาทภูควายเงิน จากเชียงคาน - ปากชมประมาณ 6 กิโลเมตร พระพุทธบาทภูควายเงินเป็นรอยพระพุทธบาทประดิษฐานบน 
หินลับมีด ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานเมื่อพ.ศ. 2478 รอยพระพุทธบาทภูควายเงินเป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้านในแถบนี้มาก 
ทุกปีในวันขึ้น15 ค่ำ เดือน 3 ทางวัดจะจัดงานสมโภชประจำปีถือเป็นงานสำคัญของชาวบ้านในแถบนี้ วัดศรีคุณเมือง วัดเก่าแก่คู่เมือง 
เชียงคาน สวยงามด้วยศิลปะที่ผสมผสานระหว่างล้านนาและล้างช้าง หรือจะไปชมซุ้มประตูวิหารทรงโค้งแปลกตาที่ วัดโพนชัย หรือ 
วัดท่าแขก ที่อยู่บนเส้นทางที่จะไปแก่งคุดคู้ ก็มีความงามไม่น้อยหน้าเช่นกัน เพราะเป็นวัดเก่าแก่โบราณ อยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ปัจจุบันเป็น
วัดธรรมยุต ภายในโบสถ์มีพระพุทธรูปเก่าแก่และศักดิ์สิทธิ์มาก

 


1. นอกจากความสงบภาพบ้านเรือนไม้เก่าแก่ 
คือ เสน่ห์และเอกลักษณ์ของเมืองเชียงคาน 
ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยว


2. ภาพรถจักรยานคู่ใจกับอาคารไม้คลาสิค 
ก็เป็นอีกภาพหนึ่งที่นักท่องเที่ยวต้องบันทึกภาพ 
กลับมาแทบทุกครั้ง




      พาหนะ ที่พวกเราใช้ตลอดการอยู่ที่นี่ก็คือจักรยาน ซึ่งก็เป็นการออกกำลังกายไปในตัวและช่วยลดภาวะโลกร้อน ไม่เฉพาะพวกเราเท่านั้น 
ชาวบ้านที่นี่ส่วนใหญ่ก็ยังอนุรักษ์ไว้ มีบ้างที่เปลี่ยนเป็นรถเครื่อง ซึ่งเป็นไปตามกาลเวลาตามนวัตกรรม และเทคโนโลยีใหม่ แต่ก็ไม่ได้มาก 
มายจนทำให้บรรยากาศเปลี่ยนไป เพราะถึงแม้สิ่งต่างๆจะหมุนเวียนไปตามโลก แต่ความสงบของเชียงคาน ก็ยังคงทำหน้าที่ของมันได้อย่าง 
ดีไม่เสื่อมคลาย ระหว่างที่ปั่นจักรยานชมความงามของเมืองเชียงคาน สายตาของผมก็ได้สัมผัสกับสภาพบ้านเรือนของที่นี่ ที่ต่างยังคงเป็น 
แบบเรือนไม้ดั้งเดิม อาจมีบางหลังที่แปรสภาพเป็นปูนไปแล้ว แต่ส่วนใหญ่ก็ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ทำให้การมาเยือนของผม 
สนุกสนานกับการได้บันทึกความทรงจำไว้เป็นภาพถ่าย และมีความสุขที่ได้ยินเสียงกดชัตเตอร์บันทึกภาพแต่ละใบ บ้านเรือนแต่ละหลังก็จะ 
มีลักษณะที่แตกต่างกันออกไป เก่ามากบ้าง เก่าน้อยบ้าง แต่ผมกลับคิดว่า นี่แหละคือเสน่ห์ของเชียงคานจริงๆ มันดูคลาสสิคและมีเสน่ห์ 
บ้านผมปัจจุบันก็บ้านไม้ จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมผมชอบบ้านเหล่านี้นักหนา


     กิจกรรมในช่วงเช้าที่ทุกคนพร้อมใจกันทำ นั่นคือการใส่บาตรบ้านแต่ละหลังก็จะหุงหาอาหารพร้อมสรรพ ทุกๆเช้าจะมาพระบิณฑบาตร
เดินเรียงกันเป็นภาพที่ดูน่าประทับใจยิ่งนัก ใครๆหลายคนบอกที่กรุงเทพฯก็มีภาพแบบนี้ แต่สำหรับผมกลับรู้สึกว่าที่นี่มันมีมนต์เสน่ห์อบ่าง 
บอกไม่ถูก ส่วนกิจกรรมส่วนใหญ่ในยามสายของผู้เฒ่าผู้แก่ที่นี่ก็คือการมานั่งสนทนากัน มองดูชีวิตที่แปลกหน้าแปลกตาที่หมั่นแวะเวียน 
มาเยือนเชียงคาน หลายชีวิตมาแล้วก็จากไป หลายชีวิตก็ทิ้งความวุ่นวายจากเมืองใหญ่ย้อนกลับมาโหยหาความสงบอีก ครั้งอย่างไม่มีวันเบื่อ 
ี่




 

       แหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่ไม่ควรพลาดก็คือ แก่งคุดคู้ 
แก่งหินใหญ่ขวางอยู่กลางลำน้ำโขง ปั่นจักรยานมาประมาณ 3 
กิโลเมตรก็ถึงแล้วครับ ที่นี่จะมีหินก้อนใหญ่ ๆ จำนวนมาก ด้วย 
ความที่หินเหล่านี้อยู่ใต้น้ำเวลานาน ทำให้หินมีสีสันแตกต่างกัน 
กันออกไป ตัวแก่งกว้างใหญ่เกือบจรดสองฝั่งแม่น้ำโขงมีกระแส 
น้ำไหลผ่านไปเพียงช่องแคบ ๆ ใกล้ฝั่งไทยเท่านั้นเอง เวลาที่ 
เหมาะจะชมแก่งคุดคู้ที่สุดคือ เดือน 
กุมภาพันธ์ -พฤษภาคม 
เป็นเวลาที่น้ำแห้ง มองเห็นเกาะแก่งชัดเจน และตลอดเส้น 
ทางไปแก่งคุดคู้ จะมีของฝากขึ้นชื่อนั่นก็คือ มะพร้าวแก้วฝีมือ 
ของชาวบ้านรับรองอร่อยไม่แพ้เจ้าใดๆ


        เชียงคาน มีเกสเฮ้าต์์หลายแห่ง ราคาแตกต่างกันไป แต่ก็ไม่ได้แพงอะไรมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เรือนแรมลูกไม้ แซมเกสเฮ้าต์์ เชียงคานเกสเฮ้าท์ และอีกมากมาย ที่ตั้งอยู่บนถนนชายโขงติดริมแม่น้ำโขง สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน แต่ทั้ง 2 ครั้งผมเลือกพักที่ โฮมสเตย์ของ คุณยายศรีพรรณ ด้วยความที่แกอยู่คนเดียวแขกทุกคนที่ไปเยือนจึงเปรียบเสมือนลูกหลานที่จากบ้านไปไกลแล้วกลับมา 
เยี่ยมแกอีกครั้ง คุณยายศรีพรรณ จะรู้สึกกระตือรือร้นต้อนรับแขกผู้มาเยือนทุกครั้ง จัดการหุงหาอาหาร นึ่งข้าวเหนียวใส่บาตรช่วงเช้า 
ขอเพียงผ่านไปทักทายคุณยายบ้าง ก็คงจะพอคลายเหงาให้แกได้ไม่น้อย
  
1.คุณยายศรีพรรณเตรียมอาหารเช้าให้พวกเราทาน
 2.หญิงสาวแห่งบ้านนิยมไทยกำลังขมักเขม้นเย็บ 
ผ้านวม สินค้าขึ้นชื่อแห่งเมืองเชียงคาน

       ส่วน บ้าน "นิยมไทย" ที่อยู่ฝั่งตรงกันข้ามบ้านของคุณยายศรีพรรณก็เป็นเพื่อนบ้านที่ดี เป็นคุณยายอีกท่าน บ้านหลังนี้จะผลิตผ้านวมทำมือ 
ซึ่งเป็นของขึ้นชื่อเมืองเชียงคาน เวลาผมไม่ได้ทำกิจกรรมอื่นๆก็มานั่งคุยกับแก การที่คนสองวัยได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ ความรู้ซึ่งกันและกัน 
ได้ดีทีเดียว เพราะช่วงชีวิตในแต่ละวัยในกาลเวลาที่พ้นผ่าน ย่อมมีสิ่งต่างๆเกิดขึ้นมากมาย เพราะฉะนั้นการแลกเปลี่ยนความคิด จึงเป็นอีกเส้นทาง 
หนึ่งที่ทำให้เราได้เรียนรู้อะไรได้เพิ่มเติมขึ้น และถ้าใครสนใจก็สามารถซื้อเป็นของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้านด้วยก็ได้นะครับ อุ่นจริงๆผมยืนยัน

      ด้วยสิ่งเหล่านี้จึงไม่แปลกใจเลยว่า เชียงคาน ถึงยังเป็นเมืองที่มีเสน่ห์ที่หลายๆคนต่างหมายปองจะเดินทางมาสัมผัส บางคนอาจมองว่าไม่ีมี 
อะไร แต่ในความที่ไม่มีอะไร นั่นแหละมันมีมากพอ หากคุณลองเปิดใจสักนิดไม่ปิดกั้นตัวเองอยู่ในกรอบแคบๆ เส้นทางการเดินทางของคุณอาจ 
จะยาวไกลขึ้นก็ได้ ใครจะรู้ และตราบใดที่ยังมีทางให้คุณเดิน ขอให้คุณจงเดินต่อไปอย่าหยุดยั้ง การท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆ จะทำให้คุณเปิด 
โลกทัศน์ได้กว้างไกลขึ้น และเชียงคาน ก็เป็นอีก 1 ทางเลือกของคนที่ชอบท่องเที่ยวเช่นคุณ เชียงคาน ...ในวันนี้ ยังเปิดใจรอต้อนรับทุกรอย 
เท้าที่พร้อมจะก้าวเข้ามาสัมผัส ขอให้เพื่อนๆทุกคนมีความสุขกับการท่องเที่ยวนะครับ

 ขอบคุณเรื่องและภาพ จาก คุณ เอ ตัวเรา 
เยี่ยมเยียนได้ที่ http://phitchaphat.multiply.com

  

  อัพเดทข้อมูลท่องเที่ยว ใหม่ล่าสุด คลิ๊ก เชียงคาน
การเดินทางไปเชียงคาน 

1. โดยรถส่วนตัว 
- จากกรุงเทพใช้ทางหลวงหมายเลข 1(พหลโยธิน) เมื่อถึงจ. สระบุรีใช้ทางหลวงหมายเลข 2 (มิตรภาพ) ผ่าน อ. ปากช่องลำตะคอง 
แยกซ้ายเข้าอ.สีคิ้ว จ. นครราชสีมาเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 201 ผ่านอ.ด่านขุนทดเข้าสู่ จ. ชัยภูมิ แยกขวาและไปตามทางหลวง 
หมายเลข 201 ผ่านอ. คอนสวรรค์ อ. แก้งคร้อ ,อ. ภูเขียว,อ.ชุมแพ จ. ขอนแก่น เมื่อเชื่อมกับทางหลวงหมายเลข 12 แยกซ้ายไปทาง 
อ .คอนสาร จากนั้นแยกขวาไปตามทางหลวงหมายเลข 201 สู่เขต จ.เลยอีกที ที่ภูผาม่าน ผ่านภูกระดึง วังสะพุง ถึงตัวเมืองเลย สุดท้ายแยกขวาสู่อ.เชียงคาน รวมระยะทางประมาณ 597 ก.ม. 

 2. โดยรถสาธารณะ 
รถโดยสารไปเชียงคาน มีเฉพาะของ บริษัทขนส่ง เท่านั้น ที่ไปถึงเมืองเชียงคาน โดยตรง 
- กรุงเทพฯ-เชียงคาน เที่ยวไปเชียงคานมี 2 รอบ คือ รถป. เวลา 20.00 น. และรถ VIP 22.00 น. โทร 0-2936-2841-8),(0-2936-0657)ต่อ605 
- เชียงคาน-กรุงเทพ มี 3 รอบ คือ รถ ป. 2  รอบ 18.40 น. รถป 1 (ต่อรถที่ตัวเมืองเลย) รอบ 19.30 น. รถ VIP 22.00 น.   ซื้อตั๋วได้ที่ร้านแสงทอง ตรงตลาดเช้า โทรจองตั๋วล่วงหน้าได้ที่แอร์เมืองเลย โทร 042 811 706 

เที่ยวอย่างไรในเมืองเชียงคาน 
เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศของเมืองเชียงคาน รถจักยานยนต์และรถจักรยาน ถือเป็นพาหนะที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ซึ่งรีสอร์ท และ 
เกสต์เฮาส์แต่ละแห่งก็จะมีคอยให้บริการอยู่แล้ว หากต้องการเดินไปแก่งคุดคู้ก็ไปเช่าหารถสกายแล็ปแถวตลาดราคา100บาทค่ะ 
ร้านอาหารแนะนำ 
- ร้านลุกโภชนา 042 821 281 
- ร้านบ้านต้นโขง 0 4282 1281 


โรงแรม ที่พักเชียงคาน อัพเดทภาพ+ข้อมูล อย่างละเอียด คลิ๊กที่นี่ค่ะ ที่พักเชียงคาน  

- เรือนแรมลูกไม้ ราคา 300-400 บาท โทร 086 234 0011 , 
เบิ่งโขง โฮมสเตย์ ราคา 500 บาท โทร 085 776 6743 , 042 822 348 บ้านสามพี่น้อง ราคา 300 บาท โทร 089 714 0553 
- คิดถึง ณ เชียงคาน โทร 087 037 6968 
สองผัวเมีย 450-1,200 โทร 085 464 8008 ,089 438 8008, 083 461 8008      
- เฮือนพัดโบก 400-600 โทร 083-5861714,042-822085 เถ้าแก่ลาว 600- 700 โทร 081 311 9754 โขงอิงคาน 
500 บาท โทร 089 942 1592    
ริมโขงวิว 500 บาท โทร 042 821 376, 081 546 1827 

ยูโรเฟรนด์ชิพ ราคา 600 บาท โทร 042-821028 , 081-2639068 

เฮือนพัดโบก ราคา 500- 600 บาท โทร 042-821028 , 081-2639068 เจอเลย โฮมสเตย์ ราคา 400 บาท โทร 042 821 069 รักเลย ราคา 300-500 บาท โทร 0-4282-1064 , 08-1769-9918 เบิ่งโขง โฮมสเตย์ ราคา 300- 500 บาท โทร 085 776 6743 , 042 822 348 แฟริเทล ราคา 300-500 บาท โทร 081-544 0298, 042-821125 เฮือนหลวงพระบาง ราคา 300- 400 บาท โทร 042 821 046 
- โฮมสเตย์บ้านป้าศรีพรรณ โทร 0 42 821 797 หรือ http://www.sripanhomestay.co
- แซม เกรสเฮ้าท์ ถนนชายโขง ซอย 20 ราคา 300 ขึ้นไป โทร 0-4282-1041 087 233-3797 หรือ www.sams-guesthouse.com 
- ต้นโขงเกสต์เฮาส์ ราคา 150-300 บาท โทร 042 821 547 , 085 854 7679 
- เชียงคานเกสต์เฮาส์ ราคา 150-300 บาท จำนวน 13 ห้อง โทร 042 821 1691 http://www.thailandunplugged.com 
- เชียงคาน ฮิลล์ รีสอร์ท แก่งคุดคู้ โทร 0 4282 1285 , 0 4282 1414 จำนวน 50 ห้อง ราคา 500 - 3,100 บาทwww.chiangkhanhill.com
- โรงแรมสมบูรณ์ ราคา 300-1,00 บาท โทร 042 282 1064 
- โรงแรมพูลสวัสดิ์ 251/2 ถ.ชายโขง อ.เชียงคาน โทร. 0-4282-1114 9 ห้อง 20 คน 60 บาท 
- แนม เกสท์เฮ้าส์ 112 ถนนริมโขง โทร. 821295, 821342 จำนวน 5 ห้อง ราคา 150-250 บาท 
- ฟูจิคัมปาย รีสอร์ท ศรีเชียงคาน ซ. 22 โทร. 07 - 8592435, 042 - 821306 ราคา 200-350 บาท หรือ
- สายฤดี เกสต์เฮาส์ โทร 042 821 238 085 132 7476 
- แก่งคุดคู้รีสอร์ท 40/3 หมู่ 4 ตำบลเชียงคาน โทร. 821248 จำนวน 11 ห้อง ราคา 200 บาท 
-มาเลยเด้ เกสต์เฮ้าท์ ซ.9 ถ.ชายโขง อ.เชียงคาน จ.เลย เบอร์ติดต่อ 086-404-4372,085-365-5977 
081-721-0432 มีทั้งหมด 5 ห้อง ห้องแอร์,พัดลม ราคา 440-940 บาท



ที่มา  
loading...

Facebook

นิยม
บทความ

loading...