ศธ.นำร่องปั้นครูพันธุ์ใหม่ 2 พันคนทดแทนอัตราเกษียณ เกณฑ์คัดนักศึกษา-สถาบันเสร็จก่อนปลายเดือนมี.ค.นี้ คาดเริ่มบรรจุในปี 2554
นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยหลังประชุมคณะกรรมการบริหารโครงการผลิตครูพันธุ์ใหม่ว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี(ครม.)อนุมัติโครงการผลิตครูพันธุ์ใหม่ 3 หมื่นคน ตั้งแต่ปีการศึกษา 2553-2562 เป็นต้นไป ใช้งบประมาณ 4,235 ล้านบาท เนื่องจากในอีก 10 ปีข้างหน้าประเทศไทยจะมีครูเกษียณอายุราชการ รวม 2 แสนคน จึงต้องดำเนินการผลิตและบรรจุครู โดยต้องเป็นครูรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพ ซึ่งการผลิตจะใช้ 2 แนวทางคือ ทางแรก ใช้งบประมาณจากโครงการผลิตครูภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ซึ่งจะนำร่องในปีการศึกษา 2553 นี้ จำนวน 2,000 คน เพื่อทดแทนอัตราเกษียณ คาดเริ่มบรรจุปี 2554
รมช.ศึกษาธิการ กล่าวอีกว่า ส่วนอีกแนวทางโครงการผลิตครูพันธุ์ใหม่ 3 หมื่นคน จะผลิตครูสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 27,600 คน สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา 2,400 คน ทั้งนี้ การวางหลักเกณฑ์การคัดนักศึกษาและสถาบันการศึกษาที่จะผลิตครูพันธุ์ใหม่ จะต้องเสร็จและประกาศให้นักเรียนทราบปลายเดือนมีนาคมนี้ โดยจะเริ่มรับนักศึกษาในปีการศึกษา 2553 ผู้ที่สามารถสมัครเข้ารับการคัดเลือกโครงการนี้ ได้แก่ นักเรียนม.6, นักศึกษาปี 1 หลักสูตรครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ 5 ปี และนักศึกษาปี 4 ซึ่งสมัครระดับประกาศนียบัตร 1 ปี
รศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า เนื่องในวันครู 16 มกราคมนี้ คิดว่าปัญหาที่ท้าทายครูในยุคปัจจุบันคือ การสอนเด็กไทยซึ่งแตกต่างจากเด็กไทยในอดีต โดยพฤติกรรมของเด็กไทยปัจจุบันจะเป็นเด็กดื้อ ก้าวร้าว สอนยาก เบื่อเรียน หนีเรียน สมาธิการเรียนสั้น เพราะเด็กมาจากครอบครัวที่ขาดการเอาใจใส่ ทำให้ครูต้องขัดเกลาเด็กหนักมากกว่าเดิม ถึงขั้นเสริมสร้างหรือซ่อมจิตวิญญาณเด็กที่ขาดหายไป เด็กและครูจะขัดแย้งกันสูง อีกทั้งครูในยุคปฏิรูปการศึกษารอบสองนั้นต้องสอนเด็กให้รู้จักคิดวิเคราะห์ โดยการตั้งโจทย์ หรือจัดการเรียนด้วยกิจกรรม โครงงาน ซึ่งครูยุคเก่าทำได้ และครูต้องปรับตัวให้เข้ากับโลกยุคไอที
"การอบรมครูประจำการกว่า 5 แสนคนโดยใช้งบไทยเข้มแข็ง 2555 จะต้องทำให้ครูเปลี่ยนวิธีการสอนให้ได้ หากทำสำเร็จจะเป็นการปฏิรูปการศึกษาสำเร็จทั้งประเทศ รวมปัญหาหนี้สินครู ซึ่งเป็นปัญหาที่ลดลง เพราะครูมีเงินเดือนที่ดีขึ้นและมีเงินวิทยฐานะ อย่างไรก็ตาม ครูควรนำแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ให้เกิดผลจริงในชีวิต" รศ.ดร.สมพงษ์ กล่าว
Credit คมชัดลึก
