คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล จะเป็นรับสมัครบุคคลเพื่อเข้าศึกษาในหลักสูตรปรกาศนียบัตรผู้ช่วยพยาบาล ปีการศึกษา 2554 จำนวน 150 คนเป็นหญิง 130 คน ชาย 20 คน รับสมัครด้วยตัวเองระหว่างวันที่ 1-8 เมษายน 2554
คุณสมบัติทั่วไปของผู้สมัคร
1.เป็นผู้ยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
2.เป็นผู้ไม่มีโรคติดต่อร้ายแรง โรคที่สังคมรังเกียจ หรือโรคสำคัญที่จะเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
3.เป็นผู้ที่มีผู้รับรองว่าจะอุดหนุนค่าบำรุง และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการศึกษาได้
4.เป็นผู้ที่มีความประพฤติเรียบร้อย และรับรองต่อมหาวิทยลัยได้ว่าจะตั้งใจศึกษาเล่าเรียนเต็มความสามารถ และจะปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับของมหาวิทยาลัยมหิดลที่มีอยู่แล้ว และ/หรือที่จะมีต่อไปโดยเคร่งครัดทุกประการ
5.ต้องเป็นผู้ที่อยู่ในประเทศไทยโดยถูกต้องตามกฎหมาย
6.มีสัญชาติไทย ต้องมีบัตรประจำตัวประชาชนไทย
7.เป็นผู้่ไม่ถูกให้ออกจากสถาบันการศึกษาใด ๆ มาแล้ว เพราะความประพฤติไม่เหมาะสม หรือกระทำความผิดต่าง ๆ ที่ไม่ใช่ทางด้านวิชาการ
8.จะต้องไม่เป็นผู้กระทำหรือร่วมกระทำทุจริตในการสอบในโรงเรียน หรือการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันการศึกษาในระดับต่าง ๆ
9.เป็นผู้สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือหลักสูตรที่กระทรวงศึกษาธิการเทียบเท่า หรือกำลังศึกษาอยู่และรอผลการสอบมัธยมศึกษาตอนปลาย
10.มีคะแนนเฉลี่ยสะสมระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 2.00
11.เป็นหญิงหรือชายโสด อายุครบ 17 ปีบริบูรณ์นับถึงวันที่ 31 มีนาคม 2554
12.มีคะแนนผลสอบ O-NET
คุณสมบัติเฉพาะข้อ 2
จะต้องมีสุขภาพสมบูรณ์ แข็งแรง และปราศจากโรค อาการของโรคหรือความพิการอันเป็นอุปสรรคต่อ
การศึกษา และการประกอบอาชีพตามเกณฑ์ของมหาวิทยาลัยมหิดล ดังต่อไปนี้
1.มีความพิการอันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและปฏิบัติงาน
2.มีปัญหาทางจิตเวชขั้นรุนแรง ได้แก่ โรคจิต (psychosis) โรคประสาทรุนแรง (severe neurosis)
หรือโรคบุคลิกภาพแปรปรวน โดยเฉพาะ antisocial personality หรือ borderline personality รวมถึง
ปัญหาทางจิตเวชอื่น ๆ อันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและการประกอบอาชีพ
3.โรคติดต่อในระยะติดต่ออันตราย หรือส่งผลให้เกิดความพิการอย่างถาวร อันเป็ นอุปสรรคต่อ
การศึกษาและการประกอบอาชีพ อาทิ โรคเรี้อน โรคเท้าช้าง
4.โรคไม่ติดต่อหรือภาวะอันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา และการประกอบอาชีพ เช่น
• โรคลมชักที่ยังไม่สามารถควบคุมได้ (โรคลมชักที่ไม่มีอาการชักมาแล้วอย่างน้อย 3 ปี โดยมีการ
รับรองจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ถือเป็นโรคลมชักที่ควบคุมได้)
• โรคหัวใจระดับรุนแรง จนเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา และการประกอบอาชีพ
• โรคความดันเลือดสูงรุนแรง และมีภาวะแทรกซ้อนจนทำให้เกิดพยาธิสภาพต่ออวัยวะอย่างถาวร
• ภาวะไตวายเรื้อรัง
• โรคติดสารเสพติดให้โทษ
5.ตาบอดสีชนิดรุนแรงทั้งสองข้าง
6.ความผิดปกติในการเห็นภาพ โดยมีอย่างน้อยข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้
• สายตาไม่ปกติ เมื่อรักษาโดยใช้แว่นแล้วยังมีสายตาต่ำ กว่า 6/24 ทั้งสองข้าง
• สายตาข้างดีต่ำกว่า 6/12 เมื่อได้รับการแก้ไขอย่างดีที่สุดแล้ว
• ไม่สามารถมองเห็นภาพเป็นสามมิติ
7.หูหนวกหรือหูตึง (threshold ของการได้ยินสูงกว่า 40 dB) จากความผิดปกติทางประสาท และ
การได้ยิน (sensorineural hearing loss) ถ้าได้รับการรักษาแล้วไม่ดีขึ้น
8.โรคหรือความพิการอื่น ๆ ซึ่งมิได้ระบุไว้ที่คณะกรรมการแพทย์ผู้ตรวจร่างกายเห็นว่าเป็ นอุปสรรคต่อ
การศึกษา ทั้งนี้ ีคณบดีอาจแต่งตั้งผู้เชี้ยวชาญเฉพาะโรคตรวจบางรายเพิ่มเติมได้
นอกจากคุณสมบัติที่กล่าวมาข้างต้นแล้วการศึกษาหลักสูตรผู้ช่วยพยาบาล จะเน้นการศึกษาและฝึ กปฏิบัติกับผู้ป่ วยเป็ นส่วนใหญ่ เมื่อจบการศึกษาจะมีหน้าที่ช่วยปฏิบัติการพยาบาลและดูแลช่วยเหลือผู้ป่ วยซึ่งเป็นงานที่หนัก ต้องการความเข้มแข็งอดทนเสียสละ มีความเข้าใจและเห็นใจผู้ป่ วยที่มีความทุกข์ทั่งทางร่างกายและจิตใจ ดังนั้นผู้ที่จะเข้าศึกษาหลักสูตรนี้ จึงต้องมีความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจที่จะศึกษาและปฏิบัติงานในลักษณะดังกล่าวได้ กล่าวคือ
• มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ พร้อมที่จะทำงานหนักได้ ทั้งนี้ ีเพราะการดูแลช่วยเหลือผู้ป่วยจะมีงาน
อย่างต่อเนื่อง งานบางอย่างต้องใช้กำลังค่อนข้างมาก เช่น การช่วยพลิกตัวผู้ป่วยหนัก หรือช่วยพยุงผู้ป่ วย
ให้ลุกนั่ง ยืน เดิน การยกหรือแขวนขวดน้ำเกลือ นอกจากนี้ยังต้องอยู่เวรปฏิบัติงานในเวลากลางคืนและ
วันหยุดราชการด้วย ดังนั้นผู้สมัครต้องมีความสูงไม่น้อยกว่า 150 เซ็นติเมตร และน้ำหนักตัวไม่น้อยกว่า 40 กิโลกรัม ผู้ที่มีค่าดัชนีมวลกาย (BMI)* มากกว่า 28.9 กก./ตร.ม หรือมีอายุมากไม่
เหมาะกับลักษณะงานเช่นนี้
• ไม่มีโรคประจำตัวหรือมีความเจ็บป่ วยเรื้อรังที่ไม่เหมาะกับลักษณะการศึกษาและการปฏิบัติงานผู้ช่วย
พยาบาล
• มีความเข้าใจและเห็นคุณค่าของงานผู้ช่วยพยาบาล มีจิตใจเมตตา และเต็มใจที่จะช่วยเหลือและให้บริการ
ผู้ป่วย
คุณสมบัติเฉพาะข้อ 3
ต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนที่จะเข้ารับราชการได้หลังจากจบการศึกษาแล้วเนื่องจากผู้เข้าศึกษาในหลักสูตรนี้ ถ้ามีตำแหน่งต้องเข้ารับราชการตามสัญญาที่ทำไว้ก่อนเข้าศึกษา จึงต้องมีคุณสมบัติที่จะเข้ารับราชการหรือทำงานตามสัญญาได้ ซึ่งคุณสมบัติที่สำคัญประการหนึ่งก็คือ อายุครบ 18 ปีบริบูรณ์ น้ำหนักตัว (กก.)
* ค่าดัชนีมวลกาย (Body Mass Index) = ความสูง 2 (ม.)
ผู้ที่เกิดหลังวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2537 จะไม่มีสิทธิ่สมัครในปี การศึกษา 2554 นี้
คุณสมบัติเฉพาะข้อ 5
ก่อนเข้าศึกษาต้องสามารถทำสัญญาตามเงื่อนไขของมหาวิทยาลัยมหิดล และคณะแพทยศาสตร์ศิริราช-
พยาบาล เงื่อนไขตามสัญญาดังกล่าวมีสาระสำคัญดังนี้
1.หลังจากสำเร็จการศึกษาแล้วจะต้องเข้ารับราชการหรือทำงานเพิ่มเติมตามคำสั่ง ของคณะแพทยศาสตร์
ศิริราชพยาบาลเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 2 เท่าของระยะเวลาที่ศึกษา
2.หากไม่ยินยอมเข้ารับราชการ หรือทำงาน ภายในเวลากำหนดตามคำสั่ง ดังกล่าวจะต้องชดใช้เงินให้แก่
มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นจำนวนเงิน 100,000 บาท
3.กรณีที่เข้ารับราชการชดใช้ไปบ้างแต่ไม่ครบตามระยะเวลาที่กำหนดจำนวนเงินที่จะต้องชดใช้ตามความ
ในข้อ (2) จะลดลงตามส่วนของระยะเวลาที่รับราชการไปบ้างแล้ว
4.หากสำเร็จการศึกษาแล้วไม่สามารถเข้ารับราชการหรือทำงานได้เพราะขาดคุณสมบัติตามมาตรา 30
แห่งพระราชบัญญัติข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 ต้องยินยอมชดใช้เงินให้แก่มหาวิทยาลัยมหิดล
เป็ นจำนวนเงินตามข้อ (2) ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันประพฤติผิดสัญญา
5.ในกรณีที่ได้รับทุนสนับสนุนค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ระหว่างการศึกษาจากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
มหาวิทยาลัยมหิดล จะต้องรับราชการหรือทำงานเพิ่มจากระยะเวลาที่กล่าวในข้อ (1) โดยคิดระยะเวลา
เพิ่มเติมในอัตราถัวเฉลี่ย 4,000 บาทต่อเดือน และเศษของเดือน ให้คิดเป็น 1 เดือน
6.หากไม่เข้ารับราชการหรือทำงานเพิjมเติมตามระยะเวลาที่กล่าวในข้อ 5 นอกจากจะต้องชดใช้เงินตามข้อ(2) แล้ว ยังจะต้องชดใช้เงินคืนในอัตรา 2 เท่า ของทุนที่ได้รับการสนับสนุนจากคณะฯ ในกรณีที่เข้ารับ
ราชการหรือทำงานเพิ่มเติมไปบ้างแล้ว แต่ไม่ครบระยะเวลาตามที่กล่าวในข้อ 5 จำนวนเงินที่จะต้องชดใช้
จะลดลงตามส่วนของระยะเวลาที่รับราชการหรือทำงานไปบ้างแล้ว
7.ถ้าลาออกก่อนสำเร็จการศึกษา จะต้องชดใช้เงินให้กับมหาวิทยาลัยมหิดลเดือนละ 4,200 บาท
โดยเริ่มนับระยะเวลาชดใช้ตั้งแต่วันเริ่มการศึกษาตามหลักสูตร กรณีที่นับระยะเวลาแล้วมีเศษไม่ถึงเดือนให้นับเป็ นหนึ่งเดือน
อนึ่งในการทำสัญญาเพื่อศึกษาในหลักสูตรประกาศนียบัตรผู้ช่วยพยาบาลดังกล่าวข้างต้น จะต้องมีผู้ค้ำประกันสัญญาด้วย สาระสำคัญของสัญญาค้ำประกันและผู้ค้ำประกัน มีดังนี้
1.ยอมรับผิดตามความผิดของนักศึกษา
2.เป็นผู้มีคุณสมบัติและ/หรือหลักทรัพย์
3.ถ้าไม่มีหลักทรัพย์อาจใช้ข้าราชการประจำระดับ 4 หรือเทียบเท่าขี้นไป ถ้าเป็ นข้าราชการทหารหรือ
ตำรวจต้องมียศตั้งแต่ร้อยเอกหรือเทียบเท่าขี้ไปหรือพนักงานรัฐวิสาหกิจที่ได้รับเงินเดือนไม่ต่ำ กว่าข้าราชการพลเรือนระดับ 5 ขื้นไปเป็ นผู้ค้ำประกันได้
4.ในกรณีที่ไม่อาจหาผู้มีคุณสมบัติตามข้อ (2) หรือ (3) เป็นผู้ค้ำประกัน ให้บิดาหรือมารดาเป็นผู้ค้ำ
ประกันได้
การทำสัญญาค้ำประกันดังกล่าวข้างต้นจะต้องทำเป็นสัญญาแนบท้ายสัญญาเพื่อศึกษาด้วย
ระยะเวลาการศึกษา และค่าใช้จ่าย
1.หลักสูตรการศึกษาใช้เวลาศึกษา 1 ปี ผู้ที่ศึกษาสำเร็จการศึกษาจะได้รับประกาศนียบัตรผู้ช่วยพยาบาล
2.ผู้ที่ได้รับคัดเลือกเข้าศึกษา ต้องชำระเงินในวันมอบตัวเข้าศึกษาเป็นค่าหน่วยกิต ค่าบำรุงการศึกษา
ค่าอุปกรณ์การเรียนและค่าใช้จ่ายอื่นๆ สำหรับการศึกษาตลอดหลักสูตรเป็นเงินประมาณ 10,000.00 บาท
3.ระหว่างศึกษาจะต้องจัดหาที่พักเอง
4.มีสวัสดิการอาหารกลางวันวันละ 1 มื้ ือ
5.ผู้ที่มีปัญหาทางด้านการเงิน อาจขอทุนสนับสนุนค่าใช้จ่ายตามข้อ (2) และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ได้ ทั้งนี้ผู้ที่ผ่านการพิจารณาและได้รับทุนสนับสนุนจะต้องรับราชการ หรือปฏิบัติงานเพิ่มเติมตามระยะเวลาที่
ระบุในสัญญาก่อนเข้าศึกษา
หลักฐานการสมัคร
1.ใบสมัครบุคคลเข้าศึกษาในหลักสูตรประกาศนียบัตรผู้ช่วยพยาบาล คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
2.สำเนาเอกสารที่ต้องแนบมากับใบสมัคร โดยผู้สมัครสอบเซ็นชื่อรับรองสำเนาถูกต้องทุกฉบับ ดังนี้
2.1สำเนาประกาศนียบัตร หรือสำเนาหนังสือรับรองคุณวุฒิ 1 ฉบับ
2.2สำเนาใบระเบียนผลการศึกษา 1 ฉยัย
2.3สำเนาใบแจ้งผลการสอบ O-NET ซึ่งดำเนินการจัดสอบโดยสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติจำนวนอย่างละ 1 ฉบับ สำหรับผู้ที่สอบก่อนปี 2554 หรือสำเนาบัตรที่นั่งสอบวัดความรู้ O-NET สำหรับผู้ที่สอบไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2554
2.4สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน 1 ฉบับ
ใบสมัครสามารถดาวน์โหลดได้ที่ http://www.si.mahidol.ac.th/education/admin/news_files/337_1.pdf
คุณสมบัติทั่วไปของผู้สมัคร
1.เป็นผู้ยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
2.เป็นผู้ไม่มีโรคติดต่อร้ายแรง โรคที่สังคมรังเกียจ หรือโรคสำคัญที่จะเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
3.เป็นผู้ที่มีผู้รับรองว่าจะอุดหนุนค่าบำรุง และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการศึกษาได้
4.เป็นผู้ที่มีความประพฤติเรียบร้อย และรับรองต่อมหาวิทยลัยได้ว่าจะตั้งใจศึกษาเล่าเรียนเต็มความสามารถ และจะปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับของมหาวิทยาลัยมหิดลที่มีอยู่แล้ว และ/หรือที่จะมีต่อไปโดยเคร่งครัดทุกประการ
5.ต้องเป็นผู้ที่อยู่ในประเทศไทยโดยถูกต้องตามกฎหมาย
6.มีสัญชาติไทย ต้องมีบัตรประจำตัวประชาชนไทย
7.เป็นผู้่ไม่ถูกให้ออกจากสถาบันการศึกษาใด ๆ มาแล้ว เพราะความประพฤติไม่เหมาะสม หรือกระทำความผิดต่าง ๆ ที่ไม่ใช่ทางด้านวิชาการ
8.จะต้องไม่เป็นผู้กระทำหรือร่วมกระทำทุจริตในการสอบในโรงเรียน หรือการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันการศึกษาในระดับต่าง ๆ
9.เป็นผู้สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือหลักสูตรที่กระทรวงศึกษาธิการเทียบเท่า หรือกำลังศึกษาอยู่และรอผลการสอบมัธยมศึกษาตอนปลาย
10.มีคะแนนเฉลี่ยสะสมระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 2.00
11.เป็นหญิงหรือชายโสด อายุครบ 17 ปีบริบูรณ์นับถึงวันที่ 31 มีนาคม 2554
12.มีคะแนนผลสอบ O-NET
คุณสมบัติเฉพาะข้อ 2
จะต้องมีสุขภาพสมบูรณ์ แข็งแรง และปราศจากโรค อาการของโรคหรือความพิการอันเป็นอุปสรรคต่อ
การศึกษา และการประกอบอาชีพตามเกณฑ์ของมหาวิทยาลัยมหิดล ดังต่อไปนี้
1.มีความพิการอันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและปฏิบัติงาน
2.มีปัญหาทางจิตเวชขั้นรุนแรง ได้แก่ โรคจิต (psychosis) โรคประสาทรุนแรง (severe neurosis)
หรือโรคบุคลิกภาพแปรปรวน โดยเฉพาะ antisocial personality หรือ borderline personality รวมถึง
ปัญหาทางจิตเวชอื่น ๆ อันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและการประกอบอาชีพ
3.โรคติดต่อในระยะติดต่ออันตราย หรือส่งผลให้เกิดความพิการอย่างถาวร อันเป็ นอุปสรรคต่อ
การศึกษาและการประกอบอาชีพ อาทิ โรคเรี้อน โรคเท้าช้าง
4.โรคไม่ติดต่อหรือภาวะอันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา และการประกอบอาชีพ เช่น
• โรคลมชักที่ยังไม่สามารถควบคุมได้ (โรคลมชักที่ไม่มีอาการชักมาแล้วอย่างน้อย 3 ปี โดยมีการ
รับรองจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ถือเป็นโรคลมชักที่ควบคุมได้)
• โรคหัวใจระดับรุนแรง จนเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา และการประกอบอาชีพ
• โรคความดันเลือดสูงรุนแรง และมีภาวะแทรกซ้อนจนทำให้เกิดพยาธิสภาพต่ออวัยวะอย่างถาวร
• ภาวะไตวายเรื้อรัง
• โรคติดสารเสพติดให้โทษ
5.ตาบอดสีชนิดรุนแรงทั้งสองข้าง
6.ความผิดปกติในการเห็นภาพ โดยมีอย่างน้อยข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้
• สายตาไม่ปกติ เมื่อรักษาโดยใช้แว่นแล้วยังมีสายตาต่ำ กว่า 6/24 ทั้งสองข้าง
• สายตาข้างดีต่ำกว่า 6/12 เมื่อได้รับการแก้ไขอย่างดีที่สุดแล้ว
• ไม่สามารถมองเห็นภาพเป็นสามมิติ
7.หูหนวกหรือหูตึง (threshold ของการได้ยินสูงกว่า 40 dB) จากความผิดปกติทางประสาท และ
การได้ยิน (sensorineural hearing loss) ถ้าได้รับการรักษาแล้วไม่ดีขึ้น
8.โรคหรือความพิการอื่น ๆ ซึ่งมิได้ระบุไว้ที่คณะกรรมการแพทย์ผู้ตรวจร่างกายเห็นว่าเป็ นอุปสรรคต่อ
การศึกษา ทั้งนี้ ีคณบดีอาจแต่งตั้งผู้เชี้ยวชาญเฉพาะโรคตรวจบางรายเพิ่มเติมได้
นอกจากคุณสมบัติที่กล่าวมาข้างต้นแล้วการศึกษาหลักสูตรผู้ช่วยพยาบาล จะเน้นการศึกษาและฝึ กปฏิบัติกับผู้ป่ วยเป็ นส่วนใหญ่ เมื่อจบการศึกษาจะมีหน้าที่ช่วยปฏิบัติการพยาบาลและดูแลช่วยเหลือผู้ป่ วยซึ่งเป็นงานที่หนัก ต้องการความเข้มแข็งอดทนเสียสละ มีความเข้าใจและเห็นใจผู้ป่ วยที่มีความทุกข์ทั่งทางร่างกายและจิตใจ ดังนั้นผู้ที่จะเข้าศึกษาหลักสูตรนี้ จึงต้องมีความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจที่จะศึกษาและปฏิบัติงานในลักษณะดังกล่าวได้ กล่าวคือ
• มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ พร้อมที่จะทำงานหนักได้ ทั้งนี้ ีเพราะการดูแลช่วยเหลือผู้ป่วยจะมีงาน
อย่างต่อเนื่อง งานบางอย่างต้องใช้กำลังค่อนข้างมาก เช่น การช่วยพลิกตัวผู้ป่วยหนัก หรือช่วยพยุงผู้ป่ วย
ให้ลุกนั่ง ยืน เดิน การยกหรือแขวนขวดน้ำเกลือ นอกจากนี้ยังต้องอยู่เวรปฏิบัติงานในเวลากลางคืนและ
วันหยุดราชการด้วย ดังนั้นผู้สมัครต้องมีความสูงไม่น้อยกว่า 150 เซ็นติเมตร และน้ำหนักตัวไม่น้อยกว่า 40 กิโลกรัม ผู้ที่มีค่าดัชนีมวลกาย (BMI)* มากกว่า 28.9 กก./ตร.ม หรือมีอายุมากไม่
เหมาะกับลักษณะงานเช่นนี้
• ไม่มีโรคประจำตัวหรือมีความเจ็บป่ วยเรื้อรังที่ไม่เหมาะกับลักษณะการศึกษาและการปฏิบัติงานผู้ช่วย
พยาบาล
• มีความเข้าใจและเห็นคุณค่าของงานผู้ช่วยพยาบาล มีจิตใจเมตตา และเต็มใจที่จะช่วยเหลือและให้บริการ
ผู้ป่วย
คุณสมบัติเฉพาะข้อ 3
ต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนที่จะเข้ารับราชการได้หลังจากจบการศึกษาแล้วเนื่องจากผู้เข้าศึกษาในหลักสูตรนี้ ถ้ามีตำแหน่งต้องเข้ารับราชการตามสัญญาที่ทำไว้ก่อนเข้าศึกษา จึงต้องมีคุณสมบัติที่จะเข้ารับราชการหรือทำงานตามสัญญาได้ ซึ่งคุณสมบัติที่สำคัญประการหนึ่งก็คือ อายุครบ 18 ปีบริบูรณ์ น้ำหนักตัว (กก.)
* ค่าดัชนีมวลกาย (Body Mass Index) = ความสูง 2 (ม.)
ผู้ที่เกิดหลังวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2537 จะไม่มีสิทธิ่สมัครในปี การศึกษา 2554 นี้
คุณสมบัติเฉพาะข้อ 5
ก่อนเข้าศึกษาต้องสามารถทำสัญญาตามเงื่อนไขของมหาวิทยาลัยมหิดล และคณะแพทยศาสตร์ศิริราช-
พยาบาล เงื่อนไขตามสัญญาดังกล่าวมีสาระสำคัญดังนี้
1.หลังจากสำเร็จการศึกษาแล้วจะต้องเข้ารับราชการหรือทำงานเพิ่มเติมตามคำสั่ง ของคณะแพทยศาสตร์
ศิริราชพยาบาลเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 2 เท่าของระยะเวลาที่ศึกษา
2.หากไม่ยินยอมเข้ารับราชการ หรือทำงาน ภายในเวลากำหนดตามคำสั่ง ดังกล่าวจะต้องชดใช้เงินให้แก่
มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นจำนวนเงิน 100,000 บาท
3.กรณีที่เข้ารับราชการชดใช้ไปบ้างแต่ไม่ครบตามระยะเวลาที่กำหนดจำนวนเงินที่จะต้องชดใช้ตามความ
ในข้อ (2) จะลดลงตามส่วนของระยะเวลาที่รับราชการไปบ้างแล้ว
4.หากสำเร็จการศึกษาแล้วไม่สามารถเข้ารับราชการหรือทำงานได้เพราะขาดคุณสมบัติตามมาตรา 30
แห่งพระราชบัญญัติข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 ต้องยินยอมชดใช้เงินให้แก่มหาวิทยาลัยมหิดล
เป็ นจำนวนเงินตามข้อ (2) ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันประพฤติผิดสัญญา
5.ในกรณีที่ได้รับทุนสนับสนุนค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ระหว่างการศึกษาจากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
มหาวิทยาลัยมหิดล จะต้องรับราชการหรือทำงานเพิ่มจากระยะเวลาที่กล่าวในข้อ (1) โดยคิดระยะเวลา
เพิ่มเติมในอัตราถัวเฉลี่ย 4,000 บาทต่อเดือน และเศษของเดือน ให้คิดเป็น 1 เดือน
6.หากไม่เข้ารับราชการหรือทำงานเพิjมเติมตามระยะเวลาที่กล่าวในข้อ 5 นอกจากจะต้องชดใช้เงินตามข้อ(2) แล้ว ยังจะต้องชดใช้เงินคืนในอัตรา 2 เท่า ของทุนที่ได้รับการสนับสนุนจากคณะฯ ในกรณีที่เข้ารับ
ราชการหรือทำงานเพิ่มเติมไปบ้างแล้ว แต่ไม่ครบระยะเวลาตามที่กล่าวในข้อ 5 จำนวนเงินที่จะต้องชดใช้
จะลดลงตามส่วนของระยะเวลาที่รับราชการหรือทำงานไปบ้างแล้ว
7.ถ้าลาออกก่อนสำเร็จการศึกษา จะต้องชดใช้เงินให้กับมหาวิทยาลัยมหิดลเดือนละ 4,200 บาท
โดยเริ่มนับระยะเวลาชดใช้ตั้งแต่วันเริ่มการศึกษาตามหลักสูตร กรณีที่นับระยะเวลาแล้วมีเศษไม่ถึงเดือนให้นับเป็ นหนึ่งเดือน
อนึ่งในการทำสัญญาเพื่อศึกษาในหลักสูตรประกาศนียบัตรผู้ช่วยพยาบาลดังกล่าวข้างต้น จะต้องมีผู้ค้ำประกันสัญญาด้วย สาระสำคัญของสัญญาค้ำประกันและผู้ค้ำประกัน มีดังนี้
1.ยอมรับผิดตามความผิดของนักศึกษา
2.เป็นผู้มีคุณสมบัติและ/หรือหลักทรัพย์
3.ถ้าไม่มีหลักทรัพย์อาจใช้ข้าราชการประจำระดับ 4 หรือเทียบเท่าขี้นไป ถ้าเป็ นข้าราชการทหารหรือ
ตำรวจต้องมียศตั้งแต่ร้อยเอกหรือเทียบเท่าขี้ไปหรือพนักงานรัฐวิสาหกิจที่ได้รับเงินเดือนไม่ต่ำ กว่าข้าราชการพลเรือนระดับ 5 ขื้นไปเป็ นผู้ค้ำประกันได้
4.ในกรณีที่ไม่อาจหาผู้มีคุณสมบัติตามข้อ (2) หรือ (3) เป็นผู้ค้ำประกัน ให้บิดาหรือมารดาเป็นผู้ค้ำ
ประกันได้
การทำสัญญาค้ำประกันดังกล่าวข้างต้นจะต้องทำเป็นสัญญาแนบท้ายสัญญาเพื่อศึกษาด้วย
ระยะเวลาการศึกษา และค่าใช้จ่าย
1.หลักสูตรการศึกษาใช้เวลาศึกษา 1 ปี ผู้ที่ศึกษาสำเร็จการศึกษาจะได้รับประกาศนียบัตรผู้ช่วยพยาบาล
2.ผู้ที่ได้รับคัดเลือกเข้าศึกษา ต้องชำระเงินในวันมอบตัวเข้าศึกษาเป็นค่าหน่วยกิต ค่าบำรุงการศึกษา
ค่าอุปกรณ์การเรียนและค่าใช้จ่ายอื่นๆ สำหรับการศึกษาตลอดหลักสูตรเป็นเงินประมาณ 10,000.00 บาท
3.ระหว่างศึกษาจะต้องจัดหาที่พักเอง
4.มีสวัสดิการอาหารกลางวันวันละ 1 มื้ ือ
5.ผู้ที่มีปัญหาทางด้านการเงิน อาจขอทุนสนับสนุนค่าใช้จ่ายตามข้อ (2) และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ได้ ทั้งนี้ผู้ที่ผ่านการพิจารณาและได้รับทุนสนับสนุนจะต้องรับราชการ หรือปฏิบัติงานเพิ่มเติมตามระยะเวลาที่
ระบุในสัญญาก่อนเข้าศึกษา
หลักฐานการสมัคร
1.ใบสมัครบุคคลเข้าศึกษาในหลักสูตรประกาศนียบัตรผู้ช่วยพยาบาล คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
2.สำเนาเอกสารที่ต้องแนบมากับใบสมัคร โดยผู้สมัครสอบเซ็นชื่อรับรองสำเนาถูกต้องทุกฉบับ ดังนี้
2.1สำเนาประกาศนียบัตร หรือสำเนาหนังสือรับรองคุณวุฒิ 1 ฉบับ
2.2สำเนาใบระเบียนผลการศึกษา 1 ฉยัย
2.3สำเนาใบแจ้งผลการสอบ O-NET ซึ่งดำเนินการจัดสอบโดยสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติจำนวนอย่างละ 1 ฉบับ สำหรับผู้ที่สอบก่อนปี 2554 หรือสำเนาบัตรที่นั่งสอบวัดความรู้ O-NET สำหรับผู้ที่สอบไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2554
2.4สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน 1 ฉบับ
ใบสมัครสามารถดาวน์โหลดได้ที่ http://www.si.mahidol.ac.th/education/admin/news_files/337_1.pdf
ที่มา "การศึกษาวันนี้" http://www.unigang.com/Article/6189
ปี58รับสมัครเดือนไหนครับ
ตอบลบ