เตรียมรับมือกับการสอบสัมภาษณ์
น้องๆ ที่กำลังครั่นเนื้อครั่นตัว หนาวๆ ร้อนๆ กับการนับวันรอคอยเข้าสอบสัมภาษณ์ อย่าเพิ่งร้อนใจไปค่ะ แทนที่จะตั้งหน้าตั้งตาหวาดหวั่นถึงวันนั้น เรามาเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อมจะสู้ศึกครั้งนี้กันดีกว่า เพราะอันที่จริงแล้ว การสอบสัมภาษณ์นั้น ก็ไม่น่าจะต้องเครียดกันไปให้เหนื่อยแรงหรอกนะ เพราะว่าเราก็ได้ผ่านการสอบข้อเขียนอันหนักหน่วงมาแล้ว ถือว่าผ่านด่านอรหันต์หฤโหดมาเรียบร้อย แค่สอบสัมภาษณ์....เรื่องเล็กจ้ะ
ก่อน อื่นเราต้องทำความเข้าใจถึงจุดประสงค์ของการสอบสัมภาษณ์กันก่อน อย่าลืมไปว่าการสัมภาษณ์นั้นโดยปกติแล้วไม่ได้ถูกจัดวางให้เป็นด่านชี้เป็น ชี้ตายในการสอบคัดเลือก แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีความสำคัญหรือว่ามีผลต่อการสอบคัดเลือกเลยทีเดียว โดยรวมแล้ว การสอบสัมภาษณ์นั้นมีขึ้นเพื่อวัด บุคลิกภาพ ทัศนคติ และศักยภาพเบื้องต้นของนักศึกษา จากสถิติการสอบสัมภาษณ์นักศึกษาเข้ามหาวิทยาลัยนั้น มีนักเรียนในอัตราส่วนที่น้อยมากที่ตกการสอบสัมภาษณ์ ถ้าไม่ได้เกิดเรื่องที่ร้ายรุนแรงจริงๆ แล้วนั้น กรรมการผู้สอบสัมภาษณ์ก็จะไม่ได้เข้มงวดกับจุดนี้มากมายนัก
แต่ เพื่อความแน่นอน แน่ใจแล้วนั้นเราลองเตรียมคำตอบสำหรับความถามพื้นฐานไว้ในใจ เพื่อจะได้มีคำตอบที่ลงตัวและดูดีที่สุดนำไปใช้ในวันสอบจริง เพราะจะตระเตรียม ตัดตอนสักกี่ครั้งก็ย่อมทำได้ตราบเท่าที่ยังไม่ถึงวันสัมภาษณ์ คำ ถามยอดฮิต ก็ได้แก่ เหตุผลในการเลือกเรียนคณะนั้นๆ วิชาที่ชอบและไม่ชอบ อาชีพในฝัน ถ้าไม่ได้เรียนที่คณะนี้จะเลือกเรียนที่ไหน ถ้าระหว่างเรียนเกิดปัญหาที่มีผลต่อการจบ จะแก้ไขอย่างไร เป็นต้น แนวทางของคำตอบนั้น พยายามตอบเป็นกลางๆ คือไม่ได้ฟังดูดีมาก หรือห้วนจนเกินไป เพื่อความเป็นธรรมชาติ และไม่ดูเป็นสคริปต์มากนัก และที่สำคัญ ควรตอบคำถามทุกคำถามด้วยถ้อยคำชัดเจนและสุภาพ เพื่อแสดงความมั่นใจในตัวเองและความเคารพต่อกรรมการผู้สัมภาษณ์
ถ้า มีคำถามนอกเหนือจากที่เราคาดไว้ ก็ใช้เวลาอึดใจหนึ่งคิดให้ดีก่อนแล้วค่อยตอบ แต่อย่าใช้เวลานานเกินไปนัก เดี๋ยวจะกลายเป็นว่าเราจนมุมกับคำถามทีได้รับ อันไหนที่เกินความรู้ที่จะตอบหรือไม่ทราบจริงๆ ก็ให้ตอบไปว่าเราก็มีความสนใจในประเด็นนั้นอยู่เช่นกัน ว่าจะค้นคว้าเพิ่มเติม เป็นการทำให้เราดูเป็นคนใฝ่รู้และเปิดใจแก้ไขข้อบกพร่องของตัวเอง และควรหลีกเลี่ยงการตอบคำถามโดยพาดพิงถึงบุคคลอื่นในทางลบ แม้เราจะนำมาใช้สนับสนุนคำตอบในแง่คิดที่ดีก็ตาม แต่การตำหนิผู้อื่นนั้น จะยิ่งเพิ่มภาพลบให้กับตัวเราเอง
การ แต่งกายก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม นอกจากจะเป็นชุดนักเรียนตามระเบียบแล้ว ควรดูแลให้ชุดนั้นอยู่ในความเรียบร้อย ไม่หลุดลุ่ยหรือยับยู่ยี่ไม่น่าดู ทรงผมก็ควรจัดให้อยู่ทรงดูสะอาดตา ไม่หล่นมาปรกหน้าทั้งนี้เพื่อหลีกเลี่ยงการเสยผมหรือความวังกลในจุดนี้ ระหว่างการสัมภาษณ์ เพราะอาการยุกยิก แคะ แกะ เกา นั้น เป็นพฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยง เพราะนอกจากจะทำให้เราดูเป็นคนที่มีบุคลิกไม่ดีแล้ว อาจก่อความรำคาญให้กับคู่สนทนาได้ ซึ่งในทีนี้ก็คือ กรรมการผู้สัมภาษณ์นั่นเอง
สิ่ง ที่เราควรท่องไว้ในใจตลอดเวลาและควรยึดถือเป็นสิ่งที่ต้องปฏิบัติ ไม่ให้ขาดตกเป็นอันดับหนึ่งนั้นก็คือเรื่องของมารยาท เพราะต่อให้เราตอบคำถามดีแค่ไหน หรือว่าแต่งตัวเนี้ยบเช่นไร แต่ถ้าไม่มีมารยาทหรือสัมมาคารวะแล้ว เป็นอันลบล้างความดีในข้ออื่นอย่างหมดสิ้นเลยทีเดียว นับ ตั้งแต่ก้าวเข้าห้องไป ควรยกมือไหว้และกล่าวคำสวัสดี ควรให้กรรมการเป็นผู้อนุญาตหรือเชิญให้เรานั่งก่อน แล้วจึงค่อยนั่ง จากนั้นก็ตอบคำถามด้วยท่าทางนอบน้อมแต่แฝงความเชื่อมั่น เพื่อไม่ให้เราดูเป็นคนขาดความมั่นใจจนเกินไป และตอบคำถามทุกคำด้วยกิริยาสุภาพและน้ำเสียงสดใส ไม่แข็งกระด้าง และพยายามควบคุมอารมณ์ให้นิ่ง อย่าตื่นเต้น หรือว่าประหม่าจนทำให้เราไม่มีสมาธิกับคำถาม
ก่อน อื่นเราต้องทำความเข้าใจถึงจุดประสงค์ของการสอบสัมภาษณ์กันก่อน อย่าลืมไปว่าการสัมภาษณ์นั้นโดยปกติแล้วไม่ได้ถูกจัดวางให้เป็นด่านชี้เป็น ชี้ตายในการสอบคัดเลือก แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีความสำคัญหรือว่ามีผลต่อการสอบคัดเลือกเลยทีเดียว โดยรวมแล้ว การสอบสัมภาษณ์นั้นมีขึ้นเพื่อวัด บุคลิกภาพ ทัศนคติ และศักยภาพเบื้องต้นของนักศึกษา จากสถิติการสอบสัมภาษณ์นักศึกษาเข้ามหาวิทยาลัยนั้น มีนักเรียนในอัตราส่วนที่น้อยมากที่ตกการสอบสัมภาษณ์ ถ้าไม่ได้เกิดเรื่องที่ร้ายรุนแรงจริงๆ แล้วนั้น กรรมการผู้สอบสัมภาษณ์ก็จะไม่ได้เข้มงวดกับจุดนี้มากมายนัก
แต่ เพื่อความแน่นอน แน่ใจแล้วนั้นเราลองเตรียมคำตอบสำหรับความถามพื้นฐานไว้ในใจ เพื่อจะได้มีคำตอบที่ลงตัวและดูดีที่สุดนำไปใช้ในวันสอบจริง เพราะจะตระเตรียม ตัดตอนสักกี่ครั้งก็ย่อมทำได้ตราบเท่าที่ยังไม่ถึงวันสัมภาษณ์ คำ ถามยอดฮิต ก็ได้แก่ เหตุผลในการเลือกเรียนคณะนั้นๆ วิชาที่ชอบและไม่ชอบ อาชีพในฝัน ถ้าไม่ได้เรียนที่คณะนี้จะเลือกเรียนที่ไหน ถ้าระหว่างเรียนเกิดปัญหาที่มีผลต่อการจบ จะแก้ไขอย่างไร เป็นต้น แนวทางของคำตอบนั้น พยายามตอบเป็นกลางๆ คือไม่ได้ฟังดูดีมาก หรือห้วนจนเกินไป เพื่อความเป็นธรรมชาติ และไม่ดูเป็นสคริปต์มากนัก และที่สำคัญ ควรตอบคำถามทุกคำถามด้วยถ้อยคำชัดเจนและสุภาพ เพื่อแสดงความมั่นใจในตัวเองและความเคารพต่อกรรมการผู้สัมภาษณ์
ถ้า มีคำถามนอกเหนือจากที่เราคาดไว้ ก็ใช้เวลาอึดใจหนึ่งคิดให้ดีก่อนแล้วค่อยตอบ แต่อย่าใช้เวลานานเกินไปนัก เดี๋ยวจะกลายเป็นว่าเราจนมุมกับคำถามทีได้รับ อันไหนที่เกินความรู้ที่จะตอบหรือไม่ทราบจริงๆ ก็ให้ตอบไปว่าเราก็มีความสนใจในประเด็นนั้นอยู่เช่นกัน ว่าจะค้นคว้าเพิ่มเติม เป็นการทำให้เราดูเป็นคนใฝ่รู้และเปิดใจแก้ไขข้อบกพร่องของตัวเอง และควรหลีกเลี่ยงการตอบคำถามโดยพาดพิงถึงบุคคลอื่นในทางลบ แม้เราจะนำมาใช้สนับสนุนคำตอบในแง่คิดที่ดีก็ตาม แต่การตำหนิผู้อื่นนั้น จะยิ่งเพิ่มภาพลบให้กับตัวเราเอง
การ แต่งกายก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม นอกจากจะเป็นชุดนักเรียนตามระเบียบแล้ว ควรดูแลให้ชุดนั้นอยู่ในความเรียบร้อย ไม่หลุดลุ่ยหรือยับยู่ยี่ไม่น่าดู ทรงผมก็ควรจัดให้อยู่ทรงดูสะอาดตา ไม่หล่นมาปรกหน้าทั้งนี้เพื่อหลีกเลี่ยงการเสยผมหรือความวังกลในจุดนี้ ระหว่างการสัมภาษณ์ เพราะอาการยุกยิก แคะ แกะ เกา นั้น เป็นพฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยง เพราะนอกจากจะทำให้เราดูเป็นคนที่มีบุคลิกไม่ดีแล้ว อาจก่อความรำคาญให้กับคู่สนทนาได้ ซึ่งในทีนี้ก็คือ กรรมการผู้สัมภาษณ์นั่นเอง
สิ่ง ที่เราควรท่องไว้ในใจตลอดเวลาและควรยึดถือเป็นสิ่งที่ต้องปฏิบัติ ไม่ให้ขาดตกเป็นอันดับหนึ่งนั้นก็คือเรื่องของมารยาท เพราะต่อให้เราตอบคำถามดีแค่ไหน หรือว่าแต่งตัวเนี้ยบเช่นไร แต่ถ้าไม่มีมารยาทหรือสัมมาคารวะแล้ว เป็นอันลบล้างความดีในข้ออื่นอย่างหมดสิ้นเลยทีเดียว นับ ตั้งแต่ก้าวเข้าห้องไป ควรยกมือไหว้และกล่าวคำสวัสดี ควรให้กรรมการเป็นผู้อนุญาตหรือเชิญให้เรานั่งก่อน แล้วจึงค่อยนั่ง จากนั้นก็ตอบคำถามด้วยท่าทางนอบน้อมแต่แฝงความเชื่อมั่น เพื่อไม่ให้เราดูเป็นคนขาดความมั่นใจจนเกินไป และตอบคำถามทุกคำด้วยกิริยาสุภาพและน้ำเสียงสดใส ไม่แข็งกระด้าง และพยายามควบคุมอารมณ์ให้นิ่ง อย่าตื่นเต้น หรือว่าประหม่าจนทำให้เราไม่มีสมาธิกับคำถาม
ตลอด การสัมภาษณ์ คำถามส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับตัวคุณ ประสบการณ์การทำงาน ทักษะความชำนาญ ความรู้เกี่ยวกับบริษัท และอุตสาหกรรม และเป้าหมายในการทำงานของคุณ จำไว้ว่า คุณไม่จำเป็นต้องตอบถูกทุกข้อ แต่คุณสามารถมั่นใจได้ว่า การสัมภาษณ์จะเป็นไปอย่างราบรื่น จากการที่คุณทำการบ้านมาดี รู้จุดเด่น จุดด้อยและเป้าหมายการทำงาน ของตัวเองเป็นอย่างดี และเตรียมตัวอย่างผลงาน ที่สามารถ อธิบายประสบการณ์อันโชกโชนของคุณ ที่จะทำให้คุณเหมาะกับงานนี้ เอาไว้เรียบร้อยแล้ว แต่อย่าลืม นำข้อมูลบริษัทฯ ที่คุณเตรียมไว้ มาใช้ให้ได้ประโยชน์ที่สุดด้วยล่ะค่ะ
การ เป็นตัวของตัวเอง และความซื่อสัตย์ คือสิ่งสำคัญที่สุด ในการสอบสัมภาษณ์ โดยคุณสามารถ ตอบคำถามโดยการยกตัวอย่าง เพื่อจะช่วยให้คำตอบชัดเจนขึ้น เน้นทักษะความชำนาญที่คุณสามารถทำสำเร็จ และตอบคำถามในแง่ดี และพยายามเปลี่ยนจุดอ่อน และเรื่องที่ยากๆ ให้เป็นเรื่องที่คุณสามารถเรียนรู้ได้ และที่สำคัญ ไม่ว่าคุณจะพูดอะไรเกี่ยวกับเจ้านายคนก่อน ให้พูดแต่ในแง่ดีเท่านั้นค่ะ
คำ ถามทั่วไป เกี่ยวกับเชื้อชาติ สีผิว อายุ เพศ ศาสนา สัญชาติ สถานภาพ การกระทำผิดกฎหมาย การดื่มสุรา การเสพยา สถานะทางด้านการเงิน การวางแผนครอบครัว อายุเท่าไร ต่ำกว่าเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดไว้หรือเปล่า คำถามบางคำถาม ที่อาจทำให้คุณรู้สึก อึดอัด เหมือนถูกล่วงเกิน และรู้สึกว่า ไม่จำเป็นต้องตอบ คุณสามารถปฏิเสธที่จะตอบได้ อย่างสุภาพค่ะ
คำ ถามที่นิยมใช้มีสองแบบ คือ คำถามเปิด และคำถามปิด ซึ่งขึ้นอยู่กับตัวคุณเองว่า จะเริ่มต้นเล่าประวัติการศึกษา ประสบการณ์การทำงาน และสามารถแสดงให้เห็นวัตถุประสงค์การทำงานของคุณ ได้มากน้อยแค่ไหน
Could you tell me about yourself?
(ช่วยเล่าประวัติของคุณให้เราฟังหน่อยสิครับ)
What led you to choose your major field of study, your college, or university?
(ทำไมคุณถึงเลือกเรียนที่มหาวิทยาลัยนี้ และเลือกเอกสาขานี้)
How did you decide to become an (accountant, engineer, etc.)?
(อะไรที่ทำให้คุณตัดสินใจ อยากเป็น…พนักงาน
การ เป็นตัวของตัวเอง และความซื่อสัตย์ คือสิ่งสำคัญที่สุด ในการสอบสัมภาษณ์ โดยคุณสามารถ ตอบคำถามโดยการยกตัวอย่าง เพื่อจะช่วยให้คำตอบชัดเจนขึ้น เน้นทักษะความชำนาญที่คุณสามารถทำสำเร็จ และตอบคำถามในแง่ดี และพยายามเปลี่ยนจุดอ่อน และเรื่องที่ยากๆ ให้เป็นเรื่องที่คุณสามารถเรียนรู้ได้ และที่สำคัญ ไม่ว่าคุณจะพูดอะไรเกี่ยวกับเจ้านายคนก่อน ให้พูดแต่ในแง่ดีเท่านั้นค่ะ
คำ ถามทั่วไป เกี่ยวกับเชื้อชาติ สีผิว อายุ เพศ ศาสนา สัญชาติ สถานภาพ การกระทำผิดกฎหมาย การดื่มสุรา การเสพยา สถานะทางด้านการเงิน การวางแผนครอบครัว อายุเท่าไร ต่ำกว่าเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดไว้หรือเปล่า คำถามบางคำถาม ที่อาจทำให้คุณรู้สึก อึดอัด เหมือนถูกล่วงเกิน และรู้สึกว่า ไม่จำเป็นต้องตอบ คุณสามารถปฏิเสธที่จะตอบได้ อย่างสุภาพค่ะ
คำ ถามที่นิยมใช้มีสองแบบ คือ คำถามเปิด และคำถามปิด ซึ่งขึ้นอยู่กับตัวคุณเองว่า จะเริ่มต้นเล่าประวัติการศึกษา ประสบการณ์การทำงาน และสามารถแสดงให้เห็นวัตถุประสงค์การทำงานของคุณ ได้มากน้อยแค่ไหน
Could you tell me about yourself?
(ช่วยเล่าประวัติของคุณให้เราฟังหน่อยสิครับ)
What led you to choose your major field of study, your college, or university?
(ทำไมคุณถึงเลือกเรียนที่มหาวิทยาลัยนี้ และเลือกเอกสาขานี้)
How did you decide to become an (accountant, engineer, etc.)?
(อะไรที่ทำให้คุณตัดสินใจ อยากเป็น…พนักงาน
จงบอกตัวเองก่อนก้าวเข้าห้องสัมภาษณ์ว่า “เราทำได้ เรื่องแค่นี้เอง” แล้ว ปล่อยใจให้สบาย ทำหน้าตาให้ยิ้มแย้ม แจ่มใส แล้วก้าวเข้าห้องด้วยความมั่นใจ ก็แหม เตรียมตัวมาดีซะขนาดนี้ ไม่มีอะไรเกินความสามารถของเราหรอก จริงไหม!
ที่มา
http://campus.sanook.com/entrance/technic_01613.php
http://women.sanook.com/work/jobseeker/jobseeker_00351.php