สูตรลับผิวพรรณสวยสดใสจากกากกาแฟ!!
สาว ๆ คนไหนที่ชื่นชอบการสครับบำรุงผิวให้นวลเนียนสดใสอยู่เป็นประจำ เชื่อว่าจะต้องรู้จักกับกากกาแฟ กันอย่างแน่นอน แม้จะเป็นของที่เหลือทิ้งจากกระบวนการทำกาแฟสดแต่ก็มีคุณประโยชน์อย่างล้นเหลือ ทั้งนำมาสครับบำรุงผิวสวยหรือใส่กระถางต้นไม้เพื่อเป็นปุ๋ยบำรุงให้ต้นไม้แข็งแรงได้ด้วย สำหรับใครที่สนใจอยากรู้ว่าสครับจากกากกาแฟนี้จะมีวิธีการและดีกับผิวอย่างไรบ้างนั้น วันนี้กระปุกดอทคอมก็เรื่องเกี่ยวกับกากกาแฟมาฝากกันค่ะ
สูตรลับผิวพรรณสวยสดใสจากกากกาแฟ : สาว ๆ ควรเลือกใช้กากกาแฟที่แห้งสะอาดและยังมีกลิ่นหอมจากกาแฟเจือจางอยู่ ไม่ควรเลือกกากกาแฟที่เก็บไว้นานมากจนเกินไป เพราะตัวกาแฟอาจเกิดเชื้อราได้ แนะนำว่าควรใช้สูตรสครับจากกากกาแฟให้หมดภายในครั้งเดียวแบบไม่ต้องเก็บไว้ใช้ในวันอื่น
กากกาแฟ 1 ถ้วย + นมสด½ ถ้วย + น้ำผึ้ง ¼ ถ้วย
ผสมทั้งหมดให้เข้ากันทั้งกากกาแฟ นมสดและน้ำผึ้ง แล้วนำมาขัดนวดวนเบา ๆ ลงบนผิวที่เปียกน้ำสักเล็กน้อย (เพื่อป้องกันไม่ให้แสบเมื่อถูนวดกับผิว) แล้วทาทิ้งไว้ประมาณ 20 – 30 นาที สูตรนี้ช่วยเพิ่มความเนียนนุ่มของผิวให้ดูอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้น
กากกาแฟ 1 ถ้วย + ขมิ้น 2 ช้อนโต๊ะ + โยเกิร์ต 1 ถ้วย
เตรียมส่วนผสมทั้งหมดแล้วคนให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นให้นวดลงบนผิวอย่างเบามือ ใช้ขัดผิวระหว่างอาบน้ำ ทิ้งไว้ประมาณ 15 – 30 นาที ทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 1 - 2 ครั้ง จะช่วยให้ผิวที่รอยสิว รอยจุดด่างดำหรือผิวหม่นหมองดูขาวสดใสขึ้นได้
กากกาแฟขัดผิวสวย เห็นผลจริงได้มากน้อยแค่ไหน..
จะสังเกตได้ว่าเมื่อสาว ๆ ทำการขัด นวดผิวด้วยกากกาแฟแล้วนั้น ผิวบริเวณที่ขัดจะดูนุ่ม เนียนและกระจ่างใสขึ้นจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากสารต้านอนุมูลอิสระและคาเฟอีนที่มีอยู่ในกาแฟนั้นจะไปทำหน้าที่กระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวให้เปล่งปลั่ง รวมไปถึงยังช่วยดูดซับสารพิษและขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้ดูเกลี้ยงเกลาขึ้นได้
ดังนั้น หากสาว ๆ คนไหนอยากมีผิวสวยดูดีและเนียนใส กากกาแฟก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลยนะคะ :)
ที่มา kapook.com
แนะนำ คณะครุศาสตร์หรือศึกษาศาสตร์
รายละเอียดของคณะ
คณะครุศาสตร์หรือศึกษาศาสตร์มุ่งเน้นในการศึกษาทางด้านการจัดการศึกษาและการศึกษาวิชาชีพครู มีจุดมุ่งหมายในการดำเนินการและแสวงหาวิธีการพัฒนามนุษย์ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี และสร้างสรรค์สังคมที่สันติสุขอย่างแท้จริง
สาขาที่เปิดสอน
สาขาวิชาการศึกษาปฐมวัย
สาขาวิชาประถมศึกษา
สาขาวิชามัธยมศึกษา (วิทยาศาสตร์)
สาขาวิชามัธยมศึกษา (มนุษยศาสตร์-สังคมศาสตร์)
สาขาวิชาการศึกษานอกระบบโรงเรียน
สาขาวิชาธุรกิจศึกษา
สาขาวิชาศิลปศึกษา
สาขาวิชาดนตรีศึกษา
สาขาวิชาสุขศึกษาและพลศึกษา
สาขาวิชาจิตวิทยาการปรึกษา
การแนะแนวและการศึกษาพิเศษ
สาขาวิชาเทคโนโลยีการศึกษา
สาขาวิชาคหกรรมศาสตร์ศึกษา
สาขาวิชาการสอนวิทยาศาสตร์
สาขาวิชาการสอนคณิตศาสตร์
สาขาวิชาธุรกิจและคอมพิวเตอร์ศึกษา
สาขาวิชาบริหารการศึกษา
สาขาวิชาการศึกษาผู้ใหญ่
สาขาวิชาการวัดผลและวิจัยการศึกษา
สาขาวิชาการอุดมศึกษา
สาขาวิชาอุตสาหกรรมศึกษา
คุณสมบัติผู้เข้าศึกษา
จบมัธยมศึกษาตอนปลายสายวิทยาศาสตร์และสายศิลป์ เป็นผู้มีความขยันหมั่นเพียร มีความประพฤติดี และมีบุคลิกภาพที่เหมาะสมกับวิชาชีพ
แนวทางการประกอบอาชีพ
แนวทางการเรียนต่อ บัณฑิตที่จบการศึกษาทางด้านครุศาสตร์และศึกษาศาสตร์สามารถประกอบอาชีพทั้งในหน่วยงานรัฐบาลและเอกชน เป็นครู อาจารย์ ในสถาบันการศึกษา โรงเรียน วิทยาลัย มหาวิทยาลัยต่างๆ เป็นบุคลกรทางการศึกษาทำงานทางด้านการแนะแนว งานโสตทัศนศึกษา งานการศึกษานอกระบบโรงเรียน ตลอดจนประกอบอาชีพตามความสนใจของตัวเอง นอกจากนี้ยังสามารถศึกษาต่อทางด้านปริญญาโทและปริญญาเอกได้
สถาบันที่เปิดสอน
และมหาวิทยาลัยราชภัฏทั่วประเทศ
ที่มา
ที่มารูปภาพ http://www.oknation.net/blog/womenhaopengyou
18 ชายหาดแปลกที่สุดในโลก อย่าเพิ่งตายหากยังไม่ได้ไป!!
★ ★ สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ถ้าพูดถึงทะเลก็คงจะต้องมีชายหาดสวยๆ ใช่ไหมล่ะ แต่หาดสวย ทะเลใส ในโลกนี้มีเยอะ
แต่ที่แปลกๆ ก็มีไม่น้อย อย่างเช่น 18 ชายหาดสุดแปลกเหล่านี้ ถ้าหากยังไม่ได้ไปเยือนสักที่ล่ะก็ อย่าเพิ่งตายนะ!!
เอ๊ะ...แต่เราคงตายก่อน เพราะคงไม่ได้ไป ฮ่าๆๆๆ เรามาดู 18 ชายหาดที่ว่าแปลกที่สุดในโลกกันดีกว่าว่ามีที่ไหนบ้าง ... ★ ★
1.ชายหาดสุดระทึก Maho Beach - Saint Martin
ชายหาดมาโฮ หาดสุดเสียวบนเกาะเซ้นท์มาร์ติน ในประเทศเนเธอร์แลนด์ ชายหาดอันโด่งดัง ที่สร้างความตื่นเต้นให้กับนักท่องเที่ยวที่มารอชมเครื่องบินลำโต บินโฉบเฉี่ยวอยู่เหนือศีรษะ ให้นักท่องเที่ยวระทึกเป็นระยะๆ เหตุเพราะชายหาดมีอาณาเขตติดกับสนามบิน
St Maarten ดังนั้นระหว่างเริงร่าอยู่ริมหาดจะมีเครื่องบินโฉบเฉี่ยวอยู่เหนือศีรษะคุณ ให้ระทึกเป็นระยะๆ นั่นเอง
หาด Maho Beach ณ St. Maarten อยู่ท้ายสนามบิน Princess Juliana Int. Airport เป๊ะๆ โดยเป็นสนามบินที่มีสถิติการใช้งานขึ้นลงของเครื่องบินแต่ละวันมากเป็นอันดับที่ 2 ของแถบคาริบเบียนตะวันออก และชื่อของสนามบินนี้ ตั้งขึ้นตามพระนามของสมเด็จพระมารดา Juliana ของพระราชินีองค์ปัจจุบันของเนเธอร์แลนด์ตั้งแต่สมัยพระองค์ยังทรงเป็นเจ้าหญิงอยู่ หาดมาโฮนี้เป็นหาดที่มีชื่อเสียงมากหาดนึงในโลกสำหรับการมาคอยเฝ้าดูเครื่องบินขึ้นลงแบบมีส่วนร่วมในเหตุการณ์ได้จริงของบรรดาเหล่าคนรักเครื่องบินเหมือนอีเด
2 .ชายหาดเปลือกหอย Shell Beach – Shark Bay, Australia
ชายหาดเปลือกหอยอยู่ในอ่าวชาร์ก (Shark Bay) ประเทศออสเตรเลีย ชื่อ Shell Beach มาจากการที่มีเปลือกหอยเล็กๆ
ปกคลุมอยู่เต็มหาด ด้วยเพราะน้ำทะเลมีความเค็มสูง ประกอบกับสภาพภูมิอากาศและพื้นที่เหมาะที่ประชากรหอยจะขึ้นมาอาศัยอยู่
ตื่นตาเปลือกหอยสีขาวนับล้านที่ “เชลล์ บีช” เวสเทิร์นออสเตรเลีย
หากคุณมีโอกาสมาเยือน รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย (Western Australia) ประเทศออสเตรเลีย (Australia) ขอแนะนำว่าคุณต้องไม่พลาด
ไปเยือน “เชลล์ บีช” (Shell Beach) อีกหนึ่งชาย หาดที่มีชื่อเสียงของ “ชาร์คเบย์” (Shark Bay) หรือที่เราเรียกกันว่า “อ่าวฉลาม”
อ่าวที่ตั้งอยู่ที่ปลายสุดด้านตะวันตกของทวีปออสเตรเลีย นอกากนี้แล้วอ่าวฉลามยังเป็นถิ่นของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ใกล้
สูญพันธุ์ 5 ชนิด อีกทั้งยังเป็นแปลงหญ้าทะเลที่กว้างใหญ่นับว่าใหญ่ที่สุดและอุดมสมบูรณ์ที่สุดในโลก ซึ่งต่อมาองค์การยูเนสโก
(Unesco) ได้ประกาศให้อ่าวแห่งนี้เป็นมรดกโลก ในปี 1991
ชายหาดเชลล์ บีช นั้นอยู่ห่างจากเมืองเดนแฮม (Denham) เมืองในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ไปทางตะวันออกเฉียงใต้
ประมาณ 45 กิโลเมตร ความโดดเด่นของเชลล์บีชคงหนีไม่พ้นหาด ทรายเปลือกหอยสีขาวดั่งหิมะขนานไปกับน้ำทะเลสีฟ้าคราม
ของมหาสมุทรอันกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่คุณจะได้เดินทอดน่องไปบนชายหาดที่ถูกปูพรมด้วยเหล่า
เปลือกหอยสีขาวขนาดเล็กๆที่มีชื่อว่าเราเรียกกันว่า กะส้าหอย (coquina) ที่ประกอบด้วยเปลือกหอยและเศษชิ้นเหลี่ยมของหอย
เช่น หอยโคคีนา หอยสองฝาขนาดเล็กๆนับพันล้านที่พบ ได้มากในเขตเชลล์บีช ซึ่งหอยส่วนใหญ่มักตายตามธรรมชาติ
แล้วถูกน้ำทะเลพัดมาเกยชายฝั่งซึ่งใช้เวลานานหลายพันปี
3 .ชายหาดแก้ว Glass beach – California, America
ชายหาดแก้วแห่งนี้ เดิมที่เป็นที่ทิ้งขยะของรัฐแคลิฟอร์เนีย หลายสิบปีผ่านไป ขยะที่เป็นเศษแก้วถูกคลื่นซัดสาดหายไป
จนกลายเป็นชายหาดแสนสวยอย่าวน่าอัศจรรย์
หากคุณเป็นนักท่องเที่ยวอีกหนึ่งคนที่มีโอกาสมาเยือนรัฐแคลิฟอร์เนีย (California) รัฐที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของสหรัฐอเมริกา (United States of America) ทราเวลไทยซ่าส์ขอแนะนำว่าคุณต้องไม่พลาดโอกาสไปเยือน "กลาส บีช" (Glass Beach) หรือที่รู้จักกันอีกชื่อว่า "หาดทรายแก้ว" ชายหาดที่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแมคเคอริคเชอร์ (MacKerricher State Park) ใกล้ๆกับเมืองฟอร์ตบรากก์ (Fort Bragg) ในเมนโดซิโน เคาน์ตี้ ( Mendocino County)
กลาส บีช หรือ หาดทรายแก้ว เป็นอีกหนึ่งชายหาดที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ แต่สิ่งที่พิเศษของชายหาดคือ หินหลากสีสันที่มีความสวยงามราวกับอัญมณี ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นจากฝีมือของมนุษย์ทั้งนั้นคะ เนื่องจากว่าในอดีตชายหาดแห่งนี้ถูกใช้เป็นที่มนุษย์นำขยะจำพวกแก้ว เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือแม้แต่รถยนต์มาทิ้งยังบริเวณชายหาดเป็นจำนวนมาก และเมื่อเวลาผ่านไปหลายทศวรรษเศษขยะดังที่กล่าวมาได้ถูกคลื่นและน้ำทะเลซัดสาดและกัดเซาะจนเหลือเพียงหินแก้วกรวดมนสวยงามดังเช่นในปัจจุบันนี้ต่อมาในปี 1998 กลาส บีช ได้รับการดูแลโดยอุทยานแมคเคอริคเชอร์ ชายหาดอัญมณีแห่งนี้จึงได้รับการอนุรักษ์และห้ามไม่ให้นักท่องเที่ยวเก็บเอาหินแก้วบริเวณชายหาดกลับไปอย่างเด็ดขาด...
4 .ชายหาดสีชมพู Pink Sand Beach – Bahamas
หาดทรายสีชมพูนี้อยู่ในประเทศบาฮามาส สีชมพูนวลดั่งผลท้อนี้แท้จริงคือเปลือกหอยสีชมพูที่แตกละเอียด
เมื่อต้องแสงแดดตอนเที่ยงก็ระยิบระยับ ยามพระอาทิตย์ตกดินลับขอบฟ้าก็ยิ่งขับสีชมพูบนผืนหาดให้ชัดเจน
"หาดทรายสีชมพู" บนเกาะฮาร์เบอร์ (Pink sand beach at Harbour Island) หาดสวยบนเกาะเล็กๆ ในประเทศบาฮามาส (Bahamas)
เหมาะแก่การสร้างบรรยากาศโรแมนติกให้คู่รักจริงๆ เกาะที่มีความยาวเพียง 5.6 กิโลเมตร และกว้างเพียง 2.4 กิโลเมตร
สาเหตุที่ทำให้เกาะแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงเพราะมี ชายหาดทรายเป็นสีชมพูทอดตัวเป็นแนวยาวตามชายฝั่ง
ด้านตะวันออกของเกาะนั่นเอง เกาะฮาร์เบอร์นับเป็นเกาะที่มีชายหาดสวยและดีที่สุดที่สุดในทะเลแคริบเบียนอีกด้วย
หลายคนคงสงสับว่า เหตุใดหาดทรายบนเกาะแห่งนี้ถึงได้เป็นสีชมพู? สาเหตุที่ทำให้ชายหาดมีสีชมพูเป็นเพราะ มีสัตว์น้ำเซลล์เดียว
ที่ไม่มีกระดูกสันหลังประเภทแพลงตอน ฟอร์แรมมินิเฟอรา (foraminifera)อยู่บริเวณรอบเกาะจำนวนมาก ในเปลือกของแพลงตอน
มีแคลเซียมคาร์บอเนต จึงทำให้เป็นสีชมพูแดง เมื่องแพลงตอนตาย เปลือกของแพลงตอนจะถูกคลื่นพัดขึ้นฝั่ง ปะปนกับทรายขาว
จึงทำให้ดูเป็นสีชมพู เกาะฮาร์เบอร์ กลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยม ช่วงพักร้อนของนักท่องเที่ยวชาวอเมริกัน
นอกจากเกาะในประเทศบาฮามัส ยังมี เปอร์โตริโก เบอร์มิวดา บาร์บาดอส ฟิลิปปินส์ และสก็อตแลนด์ ที่มีมีหาดสีชมพูสาเหตุ
เช่นเดียวกันกับเกาะฮาเบอร์
5 .หาดทรายสีดำ Punaluu Black Sand Beach – Hawai
หาดทรายสีดำ Punaluu Beach ตั้งอยู่บน Big Island ของฮาวาย ชายหาดที่ล้อมรอบด้วยทรายสีดำที่เกิดจากลาวาที่ไหลทะลักลงสู่ทะเลและเย็นตัวลงจากภูเขาไฟในมหาสมุทร ที่หาดนี้คุณสามารถพบเต่า Hawksbill หรือ Green sea turtles แม้ว่าทรายสีดำที่หาดนี้จะสวยงาม แต่การนำทรายออกมาก็เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย
6.ชายหาดหาดทรายสีเขียว (Green sand beach) – Hawai
หาดทรายสีเขียวบนเกาะฮาวาย สีเขียวที่เห็นนั้นเป็นผลึกของหินโอลีวีน (Olivine) หรือแร่ของหินเพริโดไทต์ที่ผสมอยู่ในผืนทราย
หาดปาปาโกเลีย หาดทรายสีเขียว เป็นหาดที่ฮาวาย สหรัฐอเมริกา ตัวหาดเป็นลักษณะคล้ายจันทร์เสี้ยว
แล้วก็ไม่ได้เดินทางไปง่ายๆ ด้วย ต้องเดินเท้าหรือไม่ก็รถโฟร์วีลเท่านั้น อีกทั้งยังต้องเลาะไปตามหน้าผา ที่สำคัญอากาศร้อน
ระยะทางกว่าจะเดินทางไปถึงราว 4 กิโลเมตร
สาเหตุที่หาดทรายที่นี่เป็นสีเขียว สืบเนื่องมาจากเมื่อราว 49,000 ปีก่อนภูเขาไฟ ปูมาฮาน่า ได้ระเบิดขึ้นและถือเป็นการระเบิดครั้งสุดท้าย
ของภูเขาไฟลูกนี้ สีเขียวเหล่านี้เป็นผลพวงจากเถ้าลาวาที่ ปูมาฮาน่า พ่นออกมาจากใต้พิภพ มันคือแร่โอลิวีน (Olivine)
หรือแร่ของหินเพริโดไทต์ที่ผสมอยู่ในผืนทราย แร่นี้มีชื่อขนานนามกันอีกหนึ่งชื่อว่า "เพชรแห่งฮาวาย"
แต่ก็ไม่ใช่ว่าลาวาไหลลงมาแล้วจะมีเจ้าเกล็ดผลึกแร่โอลิวีน โปรยปรายดั่งสายฝนจากฟ้าสู่ดินมาเลยนะ ลาวาเมื่อไหลลงมาก็ต้องรอ
ให้เย็นตัวลง เมื่อเย็นแล้วก็ต้องรอเวลาผ่านร้อน ผ่านหนาว ผ่านคลื่นซัดซาดครืนๆ เป็นระยะเวลาอีกสักพัก ไปๆ มาๆ
คลื่นก็พัดแร่โอลิวีนมาสะสมมากขึ้นๆ ที่หาดแห่งนี้
7 .ชายหาดขาวที่สุดในโลก Hyams Beach – Australia
ชายหาดทางตะวันออกของออสเตรเลีย ซึ่งได้รับการบันทึกลงใน Guinness Book ว่าเป็นชายหาดที่ขาวที่สุดในโลก ด้วยเม็ดทรายละเอียดเนียนดั่งผงแป้ง เดินเล่นสุดนุ่มเท้า จึงทำให้ชายหาดแห่งนี้มีชื่อเสียงและน่าไปเยือนสำหรับนักท่องเที่ยวตั้งอยู่ทางตะวันออกของออสเตรเลีย
8.ชายหาดซากโบราณ Tulum Beach – Mexico
ชายหาดตูลุมบนคาบสมุทรยูคาตาน (Yucatan Peninsula) ประเทศแม็กซิโก กวักมือเรียกนักท่องเที่ยวได้ด้วย ซากปรักหักพังของชาวมายาโบราณที่ทำให้หาดแห่งนี้น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก ชายหาดตูลุม เป็นชายหาดที่ทอดตัวยาวขนานไปกับซากปราสาทอารยธรรมอันเก่าแก่ของชาวมายัน ตั้งอยู่ที่เมืองตูลุม (Tulum) อีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่ มีชื่อเสียงในรัฐกินตานาโร (Quintana Roo) รัฐที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกของคาบสมุทรยูคาทาน (Yucatan Peninsula) โดยในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 13-15 เมืองตูลุมนั้นมีความเจริญรุ่งเรืองมาก และในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 16 เมืองก็ถูกทิ้งร้างไปจนกระทั่งกลายเป็นซากเมืองโบราณมาจนถึงปัจจุบันนี้
9.ชายหาดที่ยาวที่สุดในโลก Coxbazar beach – Bangladesh
ชายหาดที่ได้รับการขนานนามว่ายาวที่สุดในโลกด้วยความยาว 120 กิโลเมตร ส่วนลำดับที่ 2 คือ หาดคุจูคุริฮามะ
ของประเทศญี่ปุ่นที่มีความยาว 60 กิโลเมตร
10 .ชายหาดแพนกวินว่ายน้ำ Boulders beach - South Africa
ชายหาดแห่งนี้เป็นบ้านของแพนกวินแอฟริกา เราจะได้เห็นแพนกวินเดินสวนเล่นอยู่หาด
บ้างก็ลงไปว่ายเริงร่าโต้คลื่น ดูเพลิดเพลินทีเดียว
11 .ชายหาดแมวน้ำ Childrens pool beach – America
หาดทรายขาวธรรมชาติในซานติอาโก้ ที่เจ้าแมวน้ำอ๋งอ๋งจองเต็มพื้นที่แล้ว คนไม่มีสิทธิ์เข้ามานะจ๊ะ
12.ชายหาดรถวิ่งได้ Chirihama-Nagisa drive way – Japan
ปกติชายหาดมีไว้สำหรับให้คนได้ทำกิจกรรมความเพลิดเพลินต่างๆในยามมาเที่ยวทะเล โดยไม่มีรถหรือยานพาหนะใดๆเข้ามาได้
แต่สำหรับที่จิริฮามะ เราสามารถขับรถยนต์, ขี่มอเตอร์ไซด์ เข้าไปชมวิวสวยๆได้ บางทีอาจมีรถบัสคันใหญ่ผ่านเข้ามาด้วย
13 .ชายหาดออนเซ็น Hot water beach – Newzealand
ชายหาดบนเกาะทางเหนือของนิวซีแลนด์ ยิ่งในช่วงเวลาน้ำลง ผู้คนจะมารวมตัวกันมากมาย
และขุดหลุมหาดทรายให้เป็นสปาส่วนตัว
14 .หาดโขดหิน Moeraki Boulders Beach – Newzealand
ชายหาดที่เต็มไปด้วยโขดหินกลมๆ ที่บางก้อนใหญ่และหนักถึง 3 ตันเลยทีเดียว Moeraki Boulders
ก้อนหินทรงกลมขนาดใหญ่ เส้นผ่าศูนย์กลางตั้งแต่ครึ่งเมตรถึงสองเมตรเศษนี้ รูปร่างหน้าตาคล้ายกับไข่ไดโนเสาร์
พบกระจัดกระจายตามชายหาด Koekohe ประเทศนิวซีแลนด์ ก้อนหินเหล่านี้ได้รับการสงวนป้องกันและ
คุ้มครองทางวิทยาศาสตร์ รูปทรงไข่ไดโนเสาร์นี้เกิดจากคลื่นที่กัดเซาะผาหินชายฝั่ง ถล่มลงบนชายหาด
และถูกคลื่นกัดเซาะเป็นเวลานาน จากการเอกเรย์และมองผ่านกล้องจุลทรรศ์อิเล็กตรอนพบว่าหินเหล่านี้
มีองค์ประกอบด้วย โคลน ตะกอนดินละเอียด และดินเหนียว ยึดเกาะกันด้วย แคลไซต์
จากตำนานท้องถิ่นของชนเผ่าเมาลี (Māori) อธิบายถึงก้อนหิน เป็นซากของตะกร้าใส่ปลาไหลที่ถูกซัดขึ้นชายฝั่งหลัง
จากการล่มของเรือใบแคนนูขนาดใหญ่ที่ชื่อว่า "อาไร-ที-อุรุ "ตำนานบอกว่าสันดอนหินที่ขยายออกสู่ทะเลเป็นซากของเรือ
โบราณนี้ และหินแหลมที่ใกล้เคียงกับเรือว่าเป็นร่างของกัปตันเรือใบแคนู ชายหาดและโขดหินในอดีตมีจำนวนมากกว่าปัจจุบัน
จากภาพหลักฐานที่เก็บไว้ในห้องสมุดอเล็กซานเดอร์ เทรินบูล เมื่อปี1850 เป็นบทความที่เป็นที่นิยมมากช่วงเวลานั้น
ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของนิวซีแลนด์
15 .ชายหาดและทะเลที่เล็กที่สุดในโลก Playa de Gulpiyuri beach – Spain
วิวที่เห็นอยู่นี้อยู่ท่ามกลางทุ่งหญ้าที่มีระยะทางห่างจากชายฝั่ง 100 เมตร นี่ไม่ใช่ทะเลสาบ
หากแต่เป็นน้ำเค็ม เป็นทะเลจริงๆ ถ้ำแคบๆที่เชื่อมต่อจากทะเลสามารถดูดน้ำทะเลเข้าไปได้
16.ชายหาดที่เต็มไปด้วยเสาหิน Giants Causeway Beach, Ireland
Giants Causeway Beach นี้เป็นชายหาดที่เต็มไปด้วยเสาหินกว่า 40,000 แท่ง และยังได้รับการประกาศเป็นมรดกโลก
โดยยูเนสโกในปี 1986 บนชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของไอร์แลนด์เหนืออีกด้วย ใครที่อยากไปเที่ยวที่นี่
ต้องระวังหินทิ่มขากันสักหน่อย
17. ชายหาดในถ้ำ Cave Beach in Algarve, Portugal
นี่คือความสวยงามของถ้ำทะเลในโปรตุเกส เป็นอีกชายหาดหนึ่งที่ไว้มาชิลล์ๆ เบาๆ ชมความสวยงามของทะเลโปตุเกส
18.ชายหาดธารน้ำแข็งเย็นสุดขั้ว Jokulsarlon, Iceland
โจกุลซาลอน เป็นทะเลสาบธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์อยู่ระหว่างอุทยานแห่งชาติสเกฟตาลเฟลล์
(Skeftalfell National Park) และเมืองฮอฟน์ (Höfn) นักท่องเที่ยวไปเที่ยวที่นี่จะเห็นน้ำแข็งก้อนใหญ่ๆ
ที่ละลายลงมาจากภูเขาน้ำแข็งด้านบน และไหลลงสู่ทะเล
ที่มา http://pantip.com/topic/32554760
ขอบคุณ :: http://travel.truelife.com
http://travel.thaiza.com www.boredpanda.com
แต่ที่แปลกๆ ก็มีไม่น้อย อย่างเช่น 18 ชายหาดสุดแปลกเหล่านี้ ถ้าหากยังไม่ได้ไปเยือนสักที่ล่ะก็ อย่าเพิ่งตายนะ!!
เอ๊ะ...แต่เราคงตายก่อน เพราะคงไม่ได้ไป ฮ่าๆๆๆ เรามาดู 18 ชายหาดที่ว่าแปลกที่สุดในโลกกันดีกว่าว่ามีที่ไหนบ้าง ... ★ ★
1.ชายหาดสุดระทึก Maho Beach - Saint Martin
ชายหาดมาโฮ หาดสุดเสียวบนเกาะเซ้นท์มาร์ติน ในประเทศเนเธอร์แลนด์ ชายหาดอันโด่งดัง ที่สร้างความตื่นเต้นให้กับนักท่องเที่ยวที่มารอชมเครื่องบินลำโต บินโฉบเฉี่ยวอยู่เหนือศีรษะ ให้นักท่องเที่ยวระทึกเป็นระยะๆ เหตุเพราะชายหาดมีอาณาเขตติดกับสนามบิน
St Maarten ดังนั้นระหว่างเริงร่าอยู่ริมหาดจะมีเครื่องบินโฉบเฉี่ยวอยู่เหนือศีรษะคุณ ให้ระทึกเป็นระยะๆ นั่นเอง
หาด Maho Beach ณ St. Maarten อยู่ท้ายสนามบิน Princess Juliana Int. Airport เป๊ะๆ โดยเป็นสนามบินที่มีสถิติการใช้งานขึ้นลงของเครื่องบินแต่ละวันมากเป็นอันดับที่ 2 ของแถบคาริบเบียนตะวันออก และชื่อของสนามบินนี้ ตั้งขึ้นตามพระนามของสมเด็จพระมารดา Juliana ของพระราชินีองค์ปัจจุบันของเนเธอร์แลนด์ตั้งแต่สมัยพระองค์ยังทรงเป็นเจ้าหญิงอยู่ หาดมาโฮนี้เป็นหาดที่มีชื่อเสียงมากหาดนึงในโลกสำหรับการมาคอยเฝ้าดูเครื่องบินขึ้นลงแบบมีส่วนร่วมในเหตุการณ์ได้จริงของบรรดาเหล่าคนรักเครื่องบินเหมือนอีเด
2 .ชายหาดเปลือกหอย Shell Beach – Shark Bay, Australia
ชายหาดเปลือกหอยอยู่ในอ่าวชาร์ก (Shark Bay) ประเทศออสเตรเลีย ชื่อ Shell Beach มาจากการที่มีเปลือกหอยเล็กๆ
ปกคลุมอยู่เต็มหาด ด้วยเพราะน้ำทะเลมีความเค็มสูง ประกอบกับสภาพภูมิอากาศและพื้นที่เหมาะที่ประชากรหอยจะขึ้นมาอาศัยอยู่
ตื่นตาเปลือกหอยสีขาวนับล้านที่ “เชลล์ บีช” เวสเทิร์นออสเตรเลีย
หากคุณมีโอกาสมาเยือน รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย (Western Australia) ประเทศออสเตรเลีย (Australia) ขอแนะนำว่าคุณต้องไม่พลาด
ไปเยือน “เชลล์ บีช” (Shell Beach) อีกหนึ่งชาย หาดที่มีชื่อเสียงของ “ชาร์คเบย์” (Shark Bay) หรือที่เราเรียกกันว่า “อ่าวฉลาม”
อ่าวที่ตั้งอยู่ที่ปลายสุดด้านตะวันตกของทวีปออสเตรเลีย นอกากนี้แล้วอ่าวฉลามยังเป็นถิ่นของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ใกล้
สูญพันธุ์ 5 ชนิด อีกทั้งยังเป็นแปลงหญ้าทะเลที่กว้างใหญ่นับว่าใหญ่ที่สุดและอุดมสมบูรณ์ที่สุดในโลก ซึ่งต่อมาองค์การยูเนสโก
(Unesco) ได้ประกาศให้อ่าวแห่งนี้เป็นมรดกโลก ในปี 1991
ชายหาดเชลล์ บีช นั้นอยู่ห่างจากเมืองเดนแฮม (Denham) เมืองในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ไปทางตะวันออกเฉียงใต้
ประมาณ 45 กิโลเมตร ความโดดเด่นของเชลล์บีชคงหนีไม่พ้นหาด ทรายเปลือกหอยสีขาวดั่งหิมะขนานไปกับน้ำทะเลสีฟ้าคราม
ของมหาสมุทรอันกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่คุณจะได้เดินทอดน่องไปบนชายหาดที่ถูกปูพรมด้วยเหล่า
เปลือกหอยสีขาวขนาดเล็กๆที่มีชื่อว่าเราเรียกกันว่า กะส้าหอย (coquina) ที่ประกอบด้วยเปลือกหอยและเศษชิ้นเหลี่ยมของหอย
เช่น หอยโคคีนา หอยสองฝาขนาดเล็กๆนับพันล้านที่พบ ได้มากในเขตเชลล์บีช ซึ่งหอยส่วนใหญ่มักตายตามธรรมชาติ
แล้วถูกน้ำทะเลพัดมาเกยชายฝั่งซึ่งใช้เวลานานหลายพันปี
3 .ชายหาดแก้ว Glass beach – California, America
ชายหาดแก้วแห่งนี้ เดิมที่เป็นที่ทิ้งขยะของรัฐแคลิฟอร์เนีย หลายสิบปีผ่านไป ขยะที่เป็นเศษแก้วถูกคลื่นซัดสาดหายไป
จนกลายเป็นชายหาดแสนสวยอย่าวน่าอัศจรรย์
หากคุณเป็นนักท่องเที่ยวอีกหนึ่งคนที่มีโอกาสมาเยือนรัฐแคลิฟอร์เนีย (California) รัฐที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของสหรัฐอเมริกา (United States of America) ทราเวลไทยซ่าส์ขอแนะนำว่าคุณต้องไม่พลาดโอกาสไปเยือน "กลาส บีช" (Glass Beach) หรือที่รู้จักกันอีกชื่อว่า "หาดทรายแก้ว" ชายหาดที่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแมคเคอริคเชอร์ (MacKerricher State Park) ใกล้ๆกับเมืองฟอร์ตบรากก์ (Fort Bragg) ในเมนโดซิโน เคาน์ตี้ ( Mendocino County)
กลาส บีช หรือ หาดทรายแก้ว เป็นอีกหนึ่งชายหาดที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ แต่สิ่งที่พิเศษของชายหาดคือ หินหลากสีสันที่มีความสวยงามราวกับอัญมณี ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นจากฝีมือของมนุษย์ทั้งนั้นคะ เนื่องจากว่าในอดีตชายหาดแห่งนี้ถูกใช้เป็นที่มนุษย์นำขยะจำพวกแก้ว เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือแม้แต่รถยนต์มาทิ้งยังบริเวณชายหาดเป็นจำนวนมาก และเมื่อเวลาผ่านไปหลายทศวรรษเศษขยะดังที่กล่าวมาได้ถูกคลื่นและน้ำทะเลซัดสาดและกัดเซาะจนเหลือเพียงหินแก้วกรวดมนสวยงามดังเช่นในปัจจุบันนี้ต่อมาในปี 1998 กลาส บีช ได้รับการดูแลโดยอุทยานแมคเคอริคเชอร์ ชายหาดอัญมณีแห่งนี้จึงได้รับการอนุรักษ์และห้ามไม่ให้นักท่องเที่ยวเก็บเอาหินแก้วบริเวณชายหาดกลับไปอย่างเด็ดขาด...
4 .ชายหาดสีชมพู Pink Sand Beach – Bahamas
หาดทรายสีชมพูนี้อยู่ในประเทศบาฮามาส สีชมพูนวลดั่งผลท้อนี้แท้จริงคือเปลือกหอยสีชมพูที่แตกละเอียด
เมื่อต้องแสงแดดตอนเที่ยงก็ระยิบระยับ ยามพระอาทิตย์ตกดินลับขอบฟ้าก็ยิ่งขับสีชมพูบนผืนหาดให้ชัดเจน
"หาดทรายสีชมพู" บนเกาะฮาร์เบอร์ (Pink sand beach at Harbour Island) หาดสวยบนเกาะเล็กๆ ในประเทศบาฮามาส (Bahamas)
เหมาะแก่การสร้างบรรยากาศโรแมนติกให้คู่รักจริงๆ เกาะที่มีความยาวเพียง 5.6 กิโลเมตร และกว้างเพียง 2.4 กิโลเมตร
สาเหตุที่ทำให้เกาะแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงเพราะมี ชายหาดทรายเป็นสีชมพูทอดตัวเป็นแนวยาวตามชายฝั่ง
ด้านตะวันออกของเกาะนั่นเอง เกาะฮาร์เบอร์นับเป็นเกาะที่มีชายหาดสวยและดีที่สุดที่สุดในทะเลแคริบเบียนอีกด้วย
หลายคนคงสงสับว่า เหตุใดหาดทรายบนเกาะแห่งนี้ถึงได้เป็นสีชมพู? สาเหตุที่ทำให้ชายหาดมีสีชมพูเป็นเพราะ มีสัตว์น้ำเซลล์เดียว
ที่ไม่มีกระดูกสันหลังประเภทแพลงตอน ฟอร์แรมมินิเฟอรา (foraminifera)อยู่บริเวณรอบเกาะจำนวนมาก ในเปลือกของแพลงตอน
มีแคลเซียมคาร์บอเนต จึงทำให้เป็นสีชมพูแดง เมื่องแพลงตอนตาย เปลือกของแพลงตอนจะถูกคลื่นพัดขึ้นฝั่ง ปะปนกับทรายขาว
จึงทำให้ดูเป็นสีชมพู เกาะฮาร์เบอร์ กลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยม ช่วงพักร้อนของนักท่องเที่ยวชาวอเมริกัน
นอกจากเกาะในประเทศบาฮามัส ยังมี เปอร์โตริโก เบอร์มิวดา บาร์บาดอส ฟิลิปปินส์ และสก็อตแลนด์ ที่มีมีหาดสีชมพูสาเหตุ
เช่นเดียวกันกับเกาะฮาเบอร์
5 .หาดทรายสีดำ Punaluu Black Sand Beach – Hawai
หาดทรายสีดำ Punaluu Beach ตั้งอยู่บน Big Island ของฮาวาย ชายหาดที่ล้อมรอบด้วยทรายสีดำที่เกิดจากลาวาที่ไหลทะลักลงสู่ทะเลและเย็นตัวลงจากภูเขาไฟในมหาสมุทร ที่หาดนี้คุณสามารถพบเต่า Hawksbill หรือ Green sea turtles แม้ว่าทรายสีดำที่หาดนี้จะสวยงาม แต่การนำทรายออกมาก็เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย
6.ชายหาดหาดทรายสีเขียว (Green sand beach) – Hawai
หาดทรายสีเขียวบนเกาะฮาวาย สีเขียวที่เห็นนั้นเป็นผลึกของหินโอลีวีน (Olivine) หรือแร่ของหินเพริโดไทต์ที่ผสมอยู่ในผืนทราย
หาดปาปาโกเลีย หาดทรายสีเขียว เป็นหาดที่ฮาวาย สหรัฐอเมริกา ตัวหาดเป็นลักษณะคล้ายจันทร์เสี้ยว
แล้วก็ไม่ได้เดินทางไปง่ายๆ ด้วย ต้องเดินเท้าหรือไม่ก็รถโฟร์วีลเท่านั้น อีกทั้งยังต้องเลาะไปตามหน้าผา ที่สำคัญอากาศร้อน
ระยะทางกว่าจะเดินทางไปถึงราว 4 กิโลเมตร
สาเหตุที่หาดทรายที่นี่เป็นสีเขียว สืบเนื่องมาจากเมื่อราว 49,000 ปีก่อนภูเขาไฟ ปูมาฮาน่า ได้ระเบิดขึ้นและถือเป็นการระเบิดครั้งสุดท้าย
ของภูเขาไฟลูกนี้ สีเขียวเหล่านี้เป็นผลพวงจากเถ้าลาวาที่ ปูมาฮาน่า พ่นออกมาจากใต้พิภพ มันคือแร่โอลิวีน (Olivine)
หรือแร่ของหินเพริโดไทต์ที่ผสมอยู่ในผืนทราย แร่นี้มีชื่อขนานนามกันอีกหนึ่งชื่อว่า "เพชรแห่งฮาวาย"
แต่ก็ไม่ใช่ว่าลาวาไหลลงมาแล้วจะมีเจ้าเกล็ดผลึกแร่โอลิวีน โปรยปรายดั่งสายฝนจากฟ้าสู่ดินมาเลยนะ ลาวาเมื่อไหลลงมาก็ต้องรอ
ให้เย็นตัวลง เมื่อเย็นแล้วก็ต้องรอเวลาผ่านร้อน ผ่านหนาว ผ่านคลื่นซัดซาดครืนๆ เป็นระยะเวลาอีกสักพัก ไปๆ มาๆ
คลื่นก็พัดแร่โอลิวีนมาสะสมมากขึ้นๆ ที่หาดแห่งนี้
7 .ชายหาดขาวที่สุดในโลก Hyams Beach – Australia
ชายหาดทางตะวันออกของออสเตรเลีย ซึ่งได้รับการบันทึกลงใน Guinness Book ว่าเป็นชายหาดที่ขาวที่สุดในโลก ด้วยเม็ดทรายละเอียดเนียนดั่งผงแป้ง เดินเล่นสุดนุ่มเท้า จึงทำให้ชายหาดแห่งนี้มีชื่อเสียงและน่าไปเยือนสำหรับนักท่องเที่ยวตั้งอยู่ทางตะวันออกของออสเตรเลีย
8.ชายหาดซากโบราณ Tulum Beach – Mexico
ชายหาดตูลุมบนคาบสมุทรยูคาตาน (Yucatan Peninsula) ประเทศแม็กซิโก กวักมือเรียกนักท่องเที่ยวได้ด้วย ซากปรักหักพังของชาวมายาโบราณที่ทำให้หาดแห่งนี้น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก ชายหาดตูลุม เป็นชายหาดที่ทอดตัวยาวขนานไปกับซากปราสาทอารยธรรมอันเก่าแก่ของชาวมายัน ตั้งอยู่ที่เมืองตูลุม (Tulum) อีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่ มีชื่อเสียงในรัฐกินตานาโร (Quintana Roo) รัฐที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกของคาบสมุทรยูคาทาน (Yucatan Peninsula) โดยในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 13-15 เมืองตูลุมนั้นมีความเจริญรุ่งเรืองมาก และในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 16 เมืองก็ถูกทิ้งร้างไปจนกระทั่งกลายเป็นซากเมืองโบราณมาจนถึงปัจจุบันนี้
9.ชายหาดที่ยาวที่สุดในโลก Coxbazar beach – Bangladesh
ชายหาดที่ได้รับการขนานนามว่ายาวที่สุดในโลกด้วยความยาว 120 กิโลเมตร ส่วนลำดับที่ 2 คือ หาดคุจูคุริฮามะ
ของประเทศญี่ปุ่นที่มีความยาว 60 กิโลเมตร
10 .ชายหาดแพนกวินว่ายน้ำ Boulders beach - South Africa
ชายหาดแห่งนี้เป็นบ้านของแพนกวินแอฟริกา เราจะได้เห็นแพนกวินเดินสวนเล่นอยู่หาด
บ้างก็ลงไปว่ายเริงร่าโต้คลื่น ดูเพลิดเพลินทีเดียว
11 .ชายหาดแมวน้ำ Childrens pool beach – America
หาดทรายขาวธรรมชาติในซานติอาโก้ ที่เจ้าแมวน้ำอ๋งอ๋งจองเต็มพื้นที่แล้ว คนไม่มีสิทธิ์เข้ามานะจ๊ะ
12.ชายหาดรถวิ่งได้ Chirihama-Nagisa drive way – Japan
ปกติชายหาดมีไว้สำหรับให้คนได้ทำกิจกรรมความเพลิดเพลินต่างๆในยามมาเที่ยวทะเล โดยไม่มีรถหรือยานพาหนะใดๆเข้ามาได้
แต่สำหรับที่จิริฮามะ เราสามารถขับรถยนต์, ขี่มอเตอร์ไซด์ เข้าไปชมวิวสวยๆได้ บางทีอาจมีรถบัสคันใหญ่ผ่านเข้ามาด้วย
13 .ชายหาดออนเซ็น Hot water beach – Newzealand
ชายหาดบนเกาะทางเหนือของนิวซีแลนด์ ยิ่งในช่วงเวลาน้ำลง ผู้คนจะมารวมตัวกันมากมาย
และขุดหลุมหาดทรายให้เป็นสปาส่วนตัว
14 .หาดโขดหิน Moeraki Boulders Beach – Newzealand
ชายหาดที่เต็มไปด้วยโขดหินกลมๆ ที่บางก้อนใหญ่และหนักถึง 3 ตันเลยทีเดียว Moeraki Boulders
ก้อนหินทรงกลมขนาดใหญ่ เส้นผ่าศูนย์กลางตั้งแต่ครึ่งเมตรถึงสองเมตรเศษนี้ รูปร่างหน้าตาคล้ายกับไข่ไดโนเสาร์
พบกระจัดกระจายตามชายหาด Koekohe ประเทศนิวซีแลนด์ ก้อนหินเหล่านี้ได้รับการสงวนป้องกันและ
คุ้มครองทางวิทยาศาสตร์ รูปทรงไข่ไดโนเสาร์นี้เกิดจากคลื่นที่กัดเซาะผาหินชายฝั่ง ถล่มลงบนชายหาด
และถูกคลื่นกัดเซาะเป็นเวลานาน จากการเอกเรย์และมองผ่านกล้องจุลทรรศ์อิเล็กตรอนพบว่าหินเหล่านี้
มีองค์ประกอบด้วย โคลน ตะกอนดินละเอียด และดินเหนียว ยึดเกาะกันด้วย แคลไซต์
จากตำนานท้องถิ่นของชนเผ่าเมาลี (Māori) อธิบายถึงก้อนหิน เป็นซากของตะกร้าใส่ปลาไหลที่ถูกซัดขึ้นชายฝั่งหลัง
จากการล่มของเรือใบแคนนูขนาดใหญ่ที่ชื่อว่า "อาไร-ที-อุรุ "ตำนานบอกว่าสันดอนหินที่ขยายออกสู่ทะเลเป็นซากของเรือ
โบราณนี้ และหินแหลมที่ใกล้เคียงกับเรือว่าเป็นร่างของกัปตันเรือใบแคนู ชายหาดและโขดหินในอดีตมีจำนวนมากกว่าปัจจุบัน
จากภาพหลักฐานที่เก็บไว้ในห้องสมุดอเล็กซานเดอร์ เทรินบูล เมื่อปี1850 เป็นบทความที่เป็นที่นิยมมากช่วงเวลานั้น
ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของนิวซีแลนด์
15 .ชายหาดและทะเลที่เล็กที่สุดในโลก Playa de Gulpiyuri beach – Spain
วิวที่เห็นอยู่นี้อยู่ท่ามกลางทุ่งหญ้าที่มีระยะทางห่างจากชายฝั่ง 100 เมตร นี่ไม่ใช่ทะเลสาบ
หากแต่เป็นน้ำเค็ม เป็นทะเลจริงๆ ถ้ำแคบๆที่เชื่อมต่อจากทะเลสามารถดูดน้ำทะเลเข้าไปได้
16.ชายหาดที่เต็มไปด้วยเสาหิน Giants Causeway Beach, Ireland
Giants Causeway Beach นี้เป็นชายหาดที่เต็มไปด้วยเสาหินกว่า 40,000 แท่ง และยังได้รับการประกาศเป็นมรดกโลก
โดยยูเนสโกในปี 1986 บนชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของไอร์แลนด์เหนืออีกด้วย ใครที่อยากไปเที่ยวที่นี่
ต้องระวังหินทิ่มขากันสักหน่อย
17. ชายหาดในถ้ำ Cave Beach in Algarve, Portugal
นี่คือความสวยงามของถ้ำทะเลในโปรตุเกส เป็นอีกชายหาดหนึ่งที่ไว้มาชิลล์ๆ เบาๆ ชมความสวยงามของทะเลโปตุเกส
18.ชายหาดธารน้ำแข็งเย็นสุดขั้ว Jokulsarlon, Iceland
โจกุลซาลอน เป็นทะเลสาบธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์อยู่ระหว่างอุทยานแห่งชาติสเกฟตาลเฟลล์
(Skeftalfell National Park) และเมืองฮอฟน์ (Höfn) นักท่องเที่ยวไปเที่ยวที่นี่จะเห็นน้ำแข็งก้อนใหญ่ๆ
ที่ละลายลงมาจากภูเขาน้ำแข็งด้านบน และไหลลงสู่ทะเล
ที่มา http://pantip.com/topic/32554760
ขอบคุณ :: http://travel.truelife.com
http://travel.thaiza.com www.boredpanda.com
#รับตรง58 ม.นานาชาติแสตมฟอร์ด มุ่งมั่นสร้างบัณฑิตคุณภาพสู่ตลาดงานระดับสากล
มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์
กรุงเทพฯ 18 ธันวาคม 2557 - มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด สถาบันการเรียนรู้ชื่อดังของเมื องไทยซึ่งเป็นที่ยอมรับมานานกว่ าสองทศวรรษ จัดพิธีมอบปริญญาบัตรแก่บัณฑิ ตผู้สำเร็จการศึกษา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 ธันวาคม 2557 ณ ศูนย์การประชุมไบเทคบางนา โดยมีจำนวนบัณฑิตที่สำเร็จการศึ กษาในปีนี้มากกว่า 600 คน จาก 23 ประเทศทั่วโลก และมีบัณฑิตได้รับปริญญาเกียรติ นิยมอันดับหนึ่งจำนวน 16 คน บัณฑิตของแสตมฟอร์ดถือเป็นบุ คลากรที่มีองค์ความรู้และทั กษะพร้อมสำหรั บการทำงานในสายอาชีพอย่างสมบู รณ์ อันเป็นผลจากระบบการสอนรู ปแบบใหม่ที่ผสานการเรี ยนแบบหลายช่องทางและการใช้นวั ตกรรมทางการศึกษา โดยเฉพาะการสอนโดยคณาจารย์และผู ้เชี่ยวชาญของมหาวิทยาลัยซึ่ งเป็นชาวต่างชาติกว่า 70% เพื่อสร้างผลลัพธ์ทางการเรียนรู ้ที่เป็นเลิศ พร้อมการฝึกฝนทักษะการสื่อสารด้ วยภาษาอังกฤษภายใต้วั ฒนธรรมการเรียนรู้แบบสากลอย่ างแท้จริง
พิธีมอบปริญญาบัตรในปีนี้มีบั ณฑิต คณาจารย์ บุคลากร ตลอดจนผู้ปกครองและญาติมิ ตรของผู้ที่สำเร็จการศึกษาเข้ าร่วมงานมากกว่า 1,700 คน โดยมีการตกแต่งสถานที่แบบทันสมั ย ทั้งแสง สี และเสียง ในธีม New Evolution ซึ่งสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงหลั กสูตรและระบบการเรียนการสอนของ ม.นานาชาติแสตมฟอร์ด ตลอดปีการศึกษาที่ผ่านมา โดยเฉพาะหลักสูตรเครือข่ายลอรี เอทรูปแบบใหม่ของแสตมฟอร์ดซึ่ งสามารถดึงดูดนักศึกษาทั่วโลก ซึ่งมีความโดดเด่นอย่างมากในด้ านระบบการเรียนแบบอินเตอร์แอคที ฟ เน้นการลงมือปฏิบัติจริง ผสานการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เพื ่อมอบความรู้ความเข้าใจและทั กษะที่จำเป็นในการปฏิบัติงาน ซึ่งทำให้บัณฑิตของแสตมฟอร์ดเป็ นที่ต้องการของตลาดงานระดั บสากลและสามารถก้าวสู่ อนาคตการทำงานที่สดใส สมดังวลีที่ว่า “Your Future Starts Now!” ซึ่งมอบให้แก่บัณฑิตทุกคนที่ สำเร็จการศึกษาในปีนี้
พิธีมอบปริญญาบัตรของมหาวิทยาลั ยนานาชาติแสตมฟอร์ดในวันนี้ ถือเป็นการวางรากฐานสำคัญและเป็ นจุดเริ่มต้นแห่งชีวิ ตการทำงานของผู้ที่สำเร็จการศึ กษา โดยแสตมฟอร์ดยังคงมุ่งมั่นสู่ การเป็นสถาบันการศึกษาชั้ นนำของเมืองไทยที่ผลิตบุคลากรที ่มีคุณภาพซึ่งเป็นที่ต้ องการของตลาดงานในระดับอาเซียน ปัจจุบันเป็นที่ประจักษ์ชัดแล้ วว่า บัณฑิตจากสแตมฟอร์ดมีศักยภาพสู งในตลาดงาน โดยสามารถเริ่มต้นทำงานได้ทันที และมีฐานเงินเดือนสูงกว่า ทั้งยังเป็นที่ยอมรับจากองค์ กรธุรกิจชั้นนำในระดับสากล
หากท่านต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ โทรศัพท์ 02 769 4000 โดยสามารถติดตามข่าวสารได้ที่ http://www.stamford.edu หรือhttps://www.facebook.com/ stamfordthailand
โดย Veerawan Saejao
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
loading...
นิยม
บทความ
-
►
2017
(43)
- ► กุมภาพันธ์ (7)
-
►
2016
(362)
- ► กุมภาพันธ์ (13)
-
►
2015
(77)
- ► กุมภาพันธ์ (6)
-
►
2014
(192)
- ► กุมภาพันธ์ (5)
-
►
2013
(57)
- ► กุมภาพันธ์ (5)
-
►
2012
(194)
- ► กุมภาพันธ์ (2)
-
►
2011
(272)
- ► กุมภาพันธ์ (43)
-
►
2010
(873)
- ► กุมภาพันธ์ (60)
loading...