วาไรตี้
ประชาสัมพันธ์
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ข่าว แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ข่าว แสดงบทความทั้งหมด

แถลงการณ์สำนักพระราชวัง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จสวรรคต

   

วันที่ 13 ตุลาคม 2559 สำนักพระราชวัง ออกแถลงการณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 เสด็จสวรรคต เมื่อเวลา 15.53 น. ณ โรงพยาบาลศิริราช รวมพระชนมพรรษา 88 พรรษา ทรงครองสิริราชสมบัติทั้งสิ้น 70 ปี

เตรียมตัวให้พร้อม แสตมฟอร์ดจะนำคุณไป เจาะลึกเคล็ดลับการตลาดที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อนกับ “อิชิตัน”



เตรียมตัวให้พร้อม  แสตมฟอร์ดจะนำคุณไป
เจาะลึกเคล็ดลับการตลาดที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อนกับ อิชิตัน
วันเสาร์ที่: 25 กรกฎาคม 2558  / สถานที่: Stamford International University, Bangkok campus

มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต วิทยาเขตกรุงเทพ Stamford Signature M.B.A.  ขอเรียนเชิญทุกท่านร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเข้าร่วมฟังการบอกเล่าประสบการณ์ตรงจากผู้เชี่ยวชาญที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในการทำตลาดของแบรนด์ดังระดับตำนานที่ทุกท่านรู้จักกันเป็นอย่างดีจาก คุณธนพันธุ์ คงนันทะ รองกรรมการผู้จัดการสายงานธุรกิจเครื่องดื่ม อิชิตัน”  ในวันเสาร์ที่ 25 กรกฎาคม 2558  ณ มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ดวิทยาเขตกรุงเทพ

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการค้นหา และแบ่งปันวิถีการตลาดที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครแบบอิชิตันได้ที่นี่เท่านั้น Stamford Signature M.B.A.   ผู้สนใจสามารถติดต่อลงทะเบียนเข้าร่วมงาน พร้อมจองสิทธิ์สมัครสอบวัดพื้นฐานเพื่อศึกษาต่อ M.B.A. ล่วงหน้าได้โดยนำรหัส STU201 ไปชำระเงินค่าสมัครสอบราคาพิเศษ เพียง 500 บาท (จากราคาปกติ 1,000 บาท) ที่เคาน์เตอร์เชอร์วิส ได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 22 กรกฎาคม 2558  Stamford สนับสนุนทันทีค่าเล่าเรียน 10,000 บาท เฉพาะผู้ที่สมัครเรียนหลักสูตร M.B.A. กับเราในวันงาน


สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม พร้อมสำรองที่นั่งได้โดย ติดต่อ: ยุ้ย: 090-198-5798   Line ID: Kesinee_stiu
เนย: 090-198-5803   Line ID: Stamford_pg
Agenda:

เวลา
รายละเอียด
09:30-10:00 น.
ลงทะเบียน
10:00-10:30 น.
Signature M.B.A. – Program Review
10:30-11:45 น.
เจาะลึกเคล็ดลับกลยุทธ์การตลาด แบบมันส์ มันส์ ตามวิถี อิชิตัน
11:45-12:00 น.
ช่วงถาม-ตอบ
12:00-13:00 น.
พักรับประทานอาหารกลางวัน
13:00-14:00 น.
สอบวัดพื้นฐานความรู้
(M.B.A. Admission Assessment Test)
14:00-15:00 น.
Interview & Meet with program counselor



สนใจข้อมูลเพิ่มเติมคลิกลิ้งค์ด้านล่าง

ยามาฮ่า ผนึกกำลัง สมาคมวิทยาลัยเทคโนโลยี และอาชีวศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย เปิดกิจกรรมมอเตอร์สปอร์ตสำหรับเยาวชนระดับอาชีวศึกษา


Yamaha Moto Challenge 2015
ยามาฮ่า ผนึกกำลัง สมาคมวิทยาลัยเทคโนโลยี และอาชีวศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย
เปิดกิจกรรมมอเตอร์สปอร์ตสำหรับเยาวชนระดับอาชีวศึกษา
                         
บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ร่วมมือกับสมาคมวิทยาลัยเทคโนโลยี และอาชีวศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย ซึ่งมีสมาชิกสถาบันศึกษาเอกชน 380 แห่งทั่วประเทศ จัดกิจกรรมมอเตอร์สปอร์ตสำหรับเยาวชนระดับอาชีวศึกษารายการ Yamaha Moto Challenge 2015 ซึ่งเป็นโครงการ สร้างเสริมพื้นฐานความรู้เชิงช่าง   ในอาชีพกีฬามอเตอร์สปอร์ตให้นักศึกษาระดับอาชีวศึกษา และรวมทั้งเป็นการพัฒนาบุคลากรเพิ่มเข้าสู่วงการมอเตอร์สปอร์ตประเทศไทย โดยผ่านการฝึกอบรมจากทีมงานมอเตอร์สปอร์ต และนักแข่งมืออาชีพของยามาฮ่า เพื่อทำการแข่งขันเก็บคะแนนสะสมในเซอร์กิตจริงด้วยรถแข่ง Yamaha Exciter 150


                นายประพันธ์ พลธนะวสิทธิ์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า "ยามาฮ่าได้ให้ความสำคัญนโยบายทางด้านมอเตอร์สปอร์ตมาอย่างต่อเนื่อง เพราะได้เล็งเห็นว่ามอเตอร์สปอร์ตนั้นเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั่วโลก และสำหรับประเทศไทยก็นับเป็นกีฬาอาชีพอีกประเภทหนึ่งที่ได้รับการรับรองโดยการกีฬาแห่งประเทศไทย รวมทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชน ในการพัฒนาทั้งด้านบุคลากร เทคโนโลยี และสถานที่จัดการแข่งขันมาอย่างต่อเนื่อง โดยในปัจจุบันประเทศไทยมีนักกีฬามอเตอร์สปอร์ตประเภทรถจักรยานยนต์ที่เข้าร่วมการแข่งขันทั้งในระดับนานาชาติ ระดับเอเชีย และระดับประเทศ ในฐานะตัวแทนนักกีฬาประจำชาติที่สร้างชื่อเสียง และนำชัยชนะมาสู่ประเทศชาติได้อย่างน่าภาคภูมิใจนอกจากนั้น ในปัจจุบันประเทศไทยยังมีสนามแข่งขันมาตรฐานสากลอย่าง สนาม "ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต" จ.บุรีรัมย์ ซึ่งได้รับการรับรองมาตรฐาน นานาชาติระดับ FIA Grade 1 และ FIM Grade A ทั้งนี้ ประเทศไทยจึงจำเป็นต้องพัฒนานักกีฬาบุคลากรทางการกีฬา และเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิค เพื่อรองรับ        การเติบโตของกีฬามอเตอร์สปอร์ตในประเทศไทยที่กำลังจะเชื่อมโยงสู่ภูมิภาคอาเซียน ยามาฮ่าจึงได้จัดทำโครงการ Yamaha Moto Challenge 2015 ขึ้นมา เพื่อสานต่อนโยบายทางด้านมอเตอร์สปอร์ตให้ชัดเจนเด่นชัดมากยิ่งขึ้น และเป็นการวางรากฐานให้กับเยาวชนเพื่อก้าวเข้าสู่วงการมอเตอร์สปอร์ตต่อไปในอนาคต"


                โดยโครงการ Yamaha Moto Challenge 2015 เป็นความร่วมมือระหว่าง สมาคมวิทยาลัยเทคโนโลยี อาชีวศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย และบริษัท       ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างเสริมพื้นฐานความรู้เชิงช่างให้นักศึกษาระดับอาชีวศึกษา เพื่อพัฒนาบุคลากรต่อยอดองค์ความรู้ทั้งในเชิงเทคโนโลยีวิศวกรรม การบริหารจัดการทีม เตรียมความพร้อมบุคลากรสู่การประกอบอาชีพทางด้านมอเตอร์สปอร์ต รวมทั้งเป็นการสร้างเสริมวัฒนธรรม  เชิงกลุ่ม สร้างความสามัคคี และการมีส่วนร่วมในกิจกรรมระหว่างอาชีวศึกษาต่างๆ ทั้งนี้ สถาบันที่ชนะเลิศจะได้รับสิทธิพิเศษเดินทางเข้าร่วมชมกิจกรรม      การแข่งขันรถจักรยานยนต์ในระดับนานาชาติ MFJ Superbike  All Japan Road Race Championship 2015


ยามาฮ่า เชื่อมั่นว่า โครงการ Yamaha Moto Challenge 2015 จะตอบรับต่อการเติบโตของกีฬามอเตอร์สปอร์ตในระดับภูมิภาคอาเซียน เพราะเป็นแหล่งเรียนรู้วิชาชีพ ให้ความรู้ด้านกีฬามอเตอร์สปอร์ต สร้างบุคคลากรให้กับวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย ปลูกจิตสำนึก และมารยาทในการขับขี่ปลอดภัยให้กับนักศึกษา         ที่เข้าร่วมโครงการเพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับสังคม


รายละเอียดของหลักสูตร Yamaha Moto Challenge 2015
ทางสถาบันที่เข้าร่วมแข่งขันทั้ง 20 ทีม จะได้รับรถจักรยานยนต์ Yamaha Exciter 150 พร้อมชุด Racing Gear อุปกรณ์การปรับแต่ง อุปกรณ์การดำเนินงาน เพื่อเข้าร่วมกิจกรรม โดยหลักสูตรการเรียนรู้ ฝึกทักษะการบริหารทีมกีฬามอเตอร์สปอร์ตมีทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติ ดังนี้
1. การฝึกอบรมสำหรับนักแข่ง
                - หลักสูตรทักษะการขับขี่รถจักรยานยนต์แบบทางเรียบในเซอร์กิตที่มีการจัดการความปลอดภัย ทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติ โดยวิทยากรครูฝึกนักแข่ง รวมถึงการให้ความรู้เกี่ยวกับกฏกติกา มารยาท และหน้าที่ของนักกีฬามอเตอร์สปอร์ต
2. การฝึกอบรมเทคนิคสำหรับช่างเครื่อง
                - ความรู้ด้านเทคนิคการปรับแต่งรถจักรยานยนต์ (ระบบหัวฉีด และการจุดระเบิด, ระบบส่งกำลัง, ระบบกันสะเทือน, ระบบเบรก, ยาง)
3. การฝึกอบรมความรู้ด้านการบริหารจัดการสำหรับผู้จัดการทีม
                - ความรู้เกี่ยวกับกฏระเบียบการแข่งขัน Road Racing และการดำเนินงานจัดแข่งขัน และการบริหารทีมแข่ง
4. การแข่งขันทดสอบวัดผล
                - การปฏิบัติงานจริงในการแข่งขันในสนามแข่งแบบเซอร์กิต
รายนามสถาบันการศึกษาที่ได้รับคัดเลือก เข้าร่วมกิจกรรม Yamaha Moto Challenge 2015 จำนวน 20 สถาบัน ดังนี้
1.วิทยาลัยเทคโนโลยีชื่นชม ไทย-เยอรมัน สระบุรี                                            
2.วิทยาลัยเทคโนโลยีวานรนิวาส (V-TECH)
3.วิทยาลัยเทคโนโลยีพายัพ และบริหารธุรกิจ                                                 
4.วิทยาลัยเทคโนโลยีช่างฝีมือปัญจวิทยา
5.วิทยาลัยเทคโนโลยีพณิชยการอยุธยา                                                         
6.วิทยาลัยเทคโนโลยีพังโคนพณิชยการ
7.วิทยาลัยเทคโนโลยียโสธรอินเตอร์เนชั่นแนล                                                
8.วิทยาลัยเทคโนโลยีสารสนเทศเพชรบูรณ์
9.เทคโนโลยีอักษรพัทยา                                                                             
10.วิทยาลัยเทคโนโลยีพณิชยการนครนายก
11.วิทยาลัยเทคโนโลยีเอเชีย                                                                        
12.เทคโนโลยีสยาม
13.เทคโนโลยีอีสานเหนือ                                                                            
14.เทคโนโลยีสงขลา
15.วิทยาลัยเทคโนโลยีพณิชยการกาฬสินธุ์                                                    
16.วิทยาลัยเทคโนโลยีกรุงธน
17.วิทยาลัยเทคโนโลยีภาคตะวันออก                                                           
18.เทคโนโลยีมีนโปลีเทคนิค
19.วิทยาลัยเทคโนโลยีหาดใหญ่                                                                  
20.วิทยาลัยเทคโนโลยีฐานเทคโนโลยี

จะมีการทดสอบวัดผลปฏิบัติการจริง โดยการให้ลงแข่งขันในสนามแข่งอย่างเป็นทางการ จำนวน 4 ครั้ง คือ
สนาม 1    วันที่ 24-26 กรกฎาคม 2558 ที่สนาม ไทยแลนด์ เซอร์กิต
สนาม 2    วันที่ 7-9 สิงหาคม 2558 ที่สนาม พีระ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต
สนาม 3    วันที่ 4-6 กันยายน 2558 ที่สนาม ไทยแลนด์ เซอร์กิต
สนาม 4    วันที่ 10-12 ตุลาคม 2558 ที่สนาม ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต
ติดตามรายละเอียดข่าวสารเพิ่มได้ที่ www.yamahamotochallenge.com หรือ www.yamaha-motor.co.th, www.facebook.com/yamahasociety, www.instagram.com/yamahasociety,  www.youtube.com/thaiyamahaofficial





สร้างสรรค์ปลุกวัยใส “รู้คุณค่า สำนึกคุณข้าว” สัมผัสวิถีชาวนากับลุงเขียด

สร้างสรรค์ปลุกวัยใส “รู้คุณค่า สำนึกคุณข้าว”
สัมผัสวิถีชาวนากับลุงเขียด
*************************************************

“ข้าวทุกจาน อาหารทุกอย่าง อย่ากินทั้งขว้าง เป็นของมีค่า ชาวนาเหนื่อยยาก ลำบาก           หนักหนา กว่าจะได้ข้าวมา เปลืองแรงเปลืองทุน ขอบคุณพ่อแม่ ขอบคุณคุณครูปรานีเกื้อหนุน                หนูทดแทนพระคุณด้วยการทำดี” เสียงเจื้อยแจ้วท่องบทขอบคุณข้าวของหนูน้อยวัยใสชั้นอนุบาล 1-3       จากโรงเรียนอนุบาลสร้างสรรค์ กรุงเทพฯ กว่า 30 ชีวิต ดังมาจากศาลาโรงนา อาหารเที่ยงมื้อนี้พิเศษกว่ามื้อไหนๆ เพราะวันนี้คุณครูยกโรงอาหารของหนูๆ มาไว้กลางทุ่งนา ภายใน “สวนลุงเขียด” (สวนเกษตรอินทรีย์สุขใจของสามพรานริเวอร์ไซด์) เพื่อมาร่วมสนุกกับกิจกรรม “รู้คุณค่า-สำนึกคุณข้าว” นั่นเอง
                                                                                                                                                                          
นอกจากเป็นมื้อพิเศษสุดแสนประทับใจสำหรับเด็กน้อยแล้ว วันนี้ พวกเขายังได้ร่วมสนุกกับการเรียนรู้เรื่องคุณค่าของข้าว และที่มาของอาหารอินทรีย์ ผ่านฐานกิจกรรมต่างๆ โดยมีลุงเขียด พี่เจี๊ยบ                พี่ทราย และพี่ๆ ทีมงานจากโรงแรมสามพรานริเวอร์ไซด์ มาทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงคอยแนะนำให้ข้อมูล และพาไปทำกิจกรรมสนุกๆ กัน เริ่มจากเรียนรู้เรื่องที่มาของอาหารปลอดภัย โดยการทำเกษตรแบบไม่พึ่งพาสารเคมี ดูการเลี้ยงไส้เดือน การทำชีวภัณฑ์ชนิดต่างๆ จากนั้นไปเก็บผัก เก็บไข่ และไฮไลต์ของกิจกรรมวันนี้ คือการเรียนรู้วิถีชีวิตชาวนากับลุงเขียด ตั้งแต่ ปลูก จน ปรุง ซึ่งทุกกิจกรรมทั้งสนุกสนาน ตื่นเต้น และสร้างความประทับใจให้เด็กจดจำ 
           
นายอรุษ นวราช กรรมการผู้จัดการ โรงแรมสามพรานริเวอร์ไซด์ และเลขานุการมูลนิธิสังคมสุขใจ กล่าวว่า นับตั้งแต่เปิดสวนลุงเขียด ซึ่งเป็นสวนเกษตรอินทรีย์ของโรงแรมให้เป็นแหล่งเรียนรู้ ก็มีหน่วยงานต่างๆ ทั้งโรงเรียน มหาวิทยาลัย ภาครัฐ ภาคเอกชน ชาวต่างประเทศ  ขอมาเรียนรู้วิถีชีวิตไทย วิถีการทำเกษตรอินทรีย์  เช่นเดียวกันกับกิจกรรม รู้คุณค่า – สำนึกคุณข้าว” ที่ทางโรงแรมได้จัดขึ้นตามความประสงค์ของโรงเรียนอนุบาลสร้างสรรค์ ที่อยากให้เด็กๆ ได้เข้ามาสัมผัสวิถีชีวิตชาวนาแบบดั้งเดิม ได้เรียนรู้ที่มาของข้าวตั้งแต่ขั้นตอนการปลูกจนปรุงเป็นอาหาร และสอดแทรกความรู้เกี่ยวกับที่มาของอาหารอินทรีย์ โดยเน้นให้เขาได้ลงมือปฏิบัติจริงด้วยตัวเอง  ซึ่งทางโรงแรมมีนโนบายส่งเสริมเรื่องนี้อยู่แล้ว ก็มีความยินดี ที่จะปรับฐานการเรียนรู้ต่างๆ  เพื่อให้ภายใน 1 วันที่เขาเข้ามาใช้ชีวิตที่สวนลุงเขียด มีคุณค่ามากที่สุด

เป็นเรื่องที่ดีมากๆ ที่โรงเรียนอนุบาลสร้างสรรค์อยากปลูกฝังให้นักเรียนรู้ได้เรียนคุณค่าของอาหารรู้ที่มาของข้าว ชี้ให้เห็นถึงความยากลำบากของชาวนาที่กว่าจะได้ข้าวมาแต่ละเม็ด ก็เชื่อว่ากิจกรรมนี้จะทำให้เด็กๆ รู้สำนึกคุณค่าของข้าและเห็นความสำคัญของการเลือกทานอาหารปลอดภัยด้วยตัวของเขาเอง”

ด้าน ครูปวีณา พลวิทย์ (ครูกบ) ครูใหญ่ของโรงเรียน บอกว่า การที่โรงแรมฯ เปิดพื้นที่ให้กับเด็กๆ ได้เข้ามาเรียนรู้วิถีชาวนา นับเป็นประสบการณ์ใหม่ที่ล้ำค่าสำหรับเด็กๆ รวมถึงผู้ปกครองและคุณครู เพราะที่นี่มีกิจกรรมหลากหลายให้ได้เรียนรู้ และลงมือทำกันจริงๆ โดยเฉพาะการ ดำนา ซึ่งเด็กๆ จะตื่นเต้นและชอบมากไม่เคยสัมผัสโคลนกันมาก่อน เลยกลายเป็นเรื่องสนุกไม่ยอมขึ้นจากนา

ส่วน “ลุงเขียด” หรือ นายอนิรุทธิ์ ขาวสนิท ผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจาก โรงแรมสามพราน               ริเวอร์ไซด์ ให้ทำหน้าที่ดูแลสวนแห่งนี้ และเป็นผู้มีความรู้เรื่องกระบวนการทำนาเป็นอย่างดี  บอกว่า การปลูกฝังสำนึกคุณค่าข้าว ที่ดีที่สุด ก็คือเปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้ลงมือทำตั้งแต่กระบวนการแรก

“อย่างวันนี้ เราจะสอนเด็กๆ ได้เรียนรู้เส้นทางที่มาของข้าว ตั้งแต่ขั้นตอนการคัดเลือกเมล็ดพันธุ์             การเพราะต้นกล้า การดำนา การเกี่ยวข้าว ฟัดข้าว สีข้าวด้วยเครื่องสีโบราณ จากนั้นเข้าสู่ขั้นตอน               การหุงข้าว โดยใช้หม้อดินหุงด้วยเตาถ่านแบบโบราณให้เด็กได้ดูและได้ชิมกันจริงๆ ซึ่งทุกขั้นตอนเราพยายามชี้ให้เด็กๆ เห็นความยากลำบากของชาวนา ที่กว่าจะได้ข้าวมาให้เด็กๆ ได้กินเป็นอาหารเลี้ยงร่างกายจนเติบโต ให้เขารู้สำนึกถึงคุณค่าของข้าว และอาหารที่รับประทานในแต่ละมื้อ” ลุงเขียด เล่าให้ฟัง

ด้วยประสบการณ์แปลกใหม่ท่ามกลางท้องทุ่งนาเช่นนี้ มีหลายอย่างให้ศึกษาเรียนรู้ ความตื่นเต้น อยากรู้อยากเห็น อยากทดลองทำ บางครั้งไม่อาจต้านทานเสียงปรามของคุณครูได้เลย ยิ่งลุงเขียดบอกว่า ที่นี่เด็กสามารถเรียนรู้ได้อย่างอิสระ ทำให้เด็กๆ สนุกสนานกันใหญ่ บางคนขอลงดำนาสองรอบสามรอบ บ้างก็ไม่ยอมออกจากเล้าเป็ด  บางคนก็ขอสนุกกับการเก็บผัก งานนี้พี่เลี้ยงจึงต้องทำงานหนักหน่อย    

และแล้วก็ล่วงเลยมาถึงเที่ยง ได้เวลาอาหารกลางวันของหนูๆ ลุงเขียด พี่เจี๊ยบ  ทราย รวมทั้งคุณครู ผู้ปกครอง ช่วยกันหุงหาอาหาร มีทั้งเมนูไข่เจียว ไข่เจียวมะเขือยาว ผัดผัก ที่เด็กๆ ช่วยกันเก็บ แล้วนั่งล้อมวงรับประทานกันในศาลาโรงนา อาหารมื้อนี้ช่างพิเศษยิ่งนักเพราะเด็กๆ ช่วยกันเก็บไข่ เก็บผัก ด้วยสองมือของพวกเขาเอง

ก่อนจากลากัน พี่เจี๊ยบ กับพี่ทราย ยังเซอร์ไพรส์ ด้วยการเตรียมต้นมะลิไว้ให้หนูๆ ช่วยกันปลูกลงในกระถางกาบมะพร้าวมอบให้กับคุณครู เพื่อเป็นการขอบคุณคุณครูอีกด้วย
  
 “สนุกมาก ๆ ค่ะ ชอบดำนา เพราะไม่เคยได้ลงนาแบบนี้เลย เห็นแต่คนทำนาในโทรทัศน์ ลุงเขียดบอกว่า กว่าชาวนาจะได้ข้าวมาให้พวกหนูกินยากลำบากนัก เพราะฉะนั้นต้องกินข้าวให้หมดชาม อย่าให้เหลือ และหนูได้เห็นการหุงข้าวกับหม้อดินที่ไม่ต้องใช้ไฟฟ้าแปลกดีสนุกทุกกิจกรรมเลยค่ะ” น้องจันทร์เจ้า หรือ ด.ญ.ศศิธารา สิงห์คำ อายุ 5 ขวบ ชั้น อนุบาล บอกเล่าความสุขที่ได้สัมผัสในวันนี้ให้ฟัง
                       
ส่วย น้องไททั่น หรือ ด.ช. พจวัฒน์ วิริยะนันท์ ชั้นอนุบาล 2 บอกว่า เป็นครั้งแรกเหมือนกันที่ได้มาทำกิจกรรมแบบนี้ ตื่นเต้นมาก ได้เก็บผัก ได้เห็นการเลี้ยงไส้เดือน  ได้ทำนา และมีการสีข้าวด้วยเครื่องสีข้าวแบบโบราณ อยากทดลองทำบ้าง แต่ลุงบอกว่าหนูยังตัวเล็ก อีกอย่างที่หนูชอบได้เข้าไปเก็บไข่เป็ดมาทำไข่เจียว อร่อยมากๆ เลยอยากให้คุณครูพามาอีกครับ

“สังคมในยุคปัจจุบัน พ่อแม่ไม่มีเวลา โรงเรียนเองไม่มีพื้นที่ให้เด็กเรียนรู้   การท่องบทขอบคุณข้าวมันไม่เห็นภาพ เด็กจินตนาการไม่ได้ และการที่เขาได้ออกมาสัมผัสของจริงด้วยตัวเองแบบนี้ อย่างน้อยช่วงหนึ่งของชีวิตเขาได้ซึมซับสิ่งดี ซึ่งมันเป็นประสบการณ์ที่สร้างความประทับใจให้เด็กจดจำได้อย่างดีเยี่ยม”   ครูกบ กล่าวทิ้งทาย ก่อนลาจากสวนลุงเขียด


สำหรับโรงเรียน และผู้ปกครอง ที่ต้องการให้นักเรียนสัมผัสวิถีชีวิตชาวนา เรียนรู้การทำนาปลูกข้าวแบบวิถีดั้งเดิม โรงแรมสามพรานริเวอร์ไซด์ ก็ได้เตรียมกิจกรรม  ตะลุยสวนลุงเขียด ดำนาวันแม่ เกี่ยววันพ่อ” ในวันที่ 12 สิงหาคม 2558 ดูรายละเอียดกิจกรรมได้ที่เว็บไซต์  www.sampranriverside.com   หรือ โทร. 034-322-588-93










เอซขยายเวลาการรับสมัครโครงการ “เอซเพื่อจิตอาสา พัฒนาสังคม ปี 2” ตั้งแต่วันนี้ – 20 กรกฎาคม 2558

เอซขยายเวลาการรับสมัครโครงการ 
“เอซเพื่อจิตอาสา พัฒนาสังคม ปี 2” ตั้งแต่วันนี้ – 20 กรกฎาคม 2558
เชิญชวนนักศึกษาระดับมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยทั่วประเทศร่วมส่งโครงการเพื่อสังคมชิงเงินทุนสนับสนุนสูงถึง 300,000 บาท


กรุงเทพฯ 24 มิถุนายน 2558  บริษัท เอซ ไอเอ็นเอ โอเวอร์ซีส์ อินชัวรันซ์ จำกัด ร่วมกับ บริษัท เอซ ไลฟ์ แอสชัวรันซ์ จำกัด (มหาชน) ภายใต้ เอซกรุ๊ป หนึ่งในบริษัทรับประกันภัยขนาดใหญ่ที่สุดของโลก ประกาศขยายเวลาการรับสมัครและส่งผลงานเข้าประกวดของนักศึกษาระดับมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยทั่วประเทศกับโครงการ เอซเพื่อจิตอาสา พัฒนาสังคม ปี 2” หรือ Enhancing Lives with ACE 2015” หลังประสบความสำเร็จจากการจัดงานในปีแรก โดยเพิ่มเงินทุนสนับสนุนโครงการที่ชนะการประกวดรวมมูลค่า 300,000 บาท สำหรับการดำเนินงานกิจกรรมเพื่อสังคมตามแผนงานของทีมที่ชนะการประกวด โดยผลงานที่ส่งเข้าประกวดจะต้องมีแนวทางสอดคล้องกับปณิธานเพื่อสังคมของเอซ ทั้งในด้านพัฒนาการศึกษาและสุขภาพ การยกระดับคุณภาพชีวิต และการรักษาสิ่งแวดล้อม ทีมที่ชนะเลิศจะได้รับเงินทุนสนับสนุน สำหรับการดำเนินงานกิจกรรมเพื่อสังคมตามแผนงานของทีมจำนวน 120,000 บาท ทีมอันดับสองจะได้รับเงินสนับสนุน100,000 บาท และทีมอันดับสามจะได้รับ 80,000 บาท

ผู้สนใจสมัครร่วมโครงการ สามารถดาวน์โหลดใบสมัครได้จาก www.acegroup.com/th/csr  และส่งผลงานทางอีเมล์มาที่Thailand.ACECSR@acegroup.com (ขนาดไฟล์ไม่เกิน 5 เมกะไบต์) ตั้งแต่วันนี้จนถึง 20 กรกฎาคม 2558

###

เกี่ยวกับเอซในประเทศไทย
เอซ กรุ๊ป นับเป็นหนึ่งในบริษัทรับประกันภัยขนาดใหญ่ที่สุดของโลก ทั้งด้านการประกันภัยทรัพย์สินและประกันภัยเบ็ดเตล็ด โดยมีสาขาในประเทศต่าง ๆ กว่า 54 ประเทศทั่วโลก เอซให้บริการด้านการประกันภัยทรัพย์สินและประกันภัยเบ็ดเตล็ด ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลและสุขภาพ ประกันภัยต่อ และประกันชีวิตเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มเอซ ลิมิเต็ด บริษัทแม่ของ เอซ กรุ๊ป ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE:ACE) และเป็นส่วนหนึ่งของดัชนีหลักทรัพย์ S&P 500  เอซ กรุ๊ป ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือทางด้านความมั่นคงทางการเงินจากสถาบันจัดอันดับชั้นนำในระดับ AA โดย Standard & Poor's และ A++ โดย A.M. Best

เอซมีรากฐานอันยาวนานในประเทศไทยมากว่า 40  ปีผ่านการเข้าซื้อกิจการ โดยให้บริการทั้งประกันวินาศภัยและประกันชีวิตธุรกิจประกันวินาศภัยของเอซในประเทศไทย เป็นสาขาของ บริษัท เอซ ไอเอ็นเอ โอเวอร์ซีส์ อินชัวรันซ์ จำกัด ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือทางด้านความมั่นคงทางการเงินในระดับ AA- โดย Standard & Poor's  ผลิตภัณฑ์ประกันวินาศภัยของเอซครอบคลุมประกันภัยทรัพย์สิน ประกันภัยเบ็ดเตล็ด ประกันภัยการขนส่งสินค้าทางทะเล ประกันภัยความรับผิดตามกฎหมายต่อบุคคลภายนอกประกันภัยทางการเงินและประกันภัยอุบัติเหตุกลุ่มสำหรับลูกค้าองค์กร รวมทั้งยังนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลและสุขภาพที่หลากหลายให้กับลูกค้ารายย่อย  ผ่านช่องทางจัดจำหน่าย  ต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ช่องทางการตลาดทางตรง ซึ่งเป็นความชำนาญของเอซ  เอซ นับเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจ เนื่องจากมีพันธมิตรที่แข็งแกร่งเป็นสถาบันการเงินและบริษัทชั้นนำหลายแห่ง ซึ่งมอบความไว้วางใจให้เอซนำเสนอกรมธรรม์ที่มอบความคุ้มครอง ที่ปรับให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าและพนักงานของพันธมิตรของเรา

บริษัท เอซ ไลฟ์ แอสชัวรันซ์ จำกัด (มหาชน) ให้บริการประกันชีวิตหลากหลายประเภท  เพื่อให้ครอบคลุมและตรงกับความต้องการทางการเงินและความมั่นคงที่แตกต่างของลูกค้า นอกจากช่องทางจัดจำหน่ายทางด้านตัวแทนกว่า 3,500 คนแล้ว  เอซ ไลฟ์ ยังร่วมกับสถาบันการเงิน  และบริษัทต่าง ๆ  ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่เหมาะสมกับลูกค้าและพนักงานของบริษัทแต่ละแห่ง  

ประวัติ ไผ่ วันพอยท์ หรือ ไผ่ ลิกค์

    

ประวัติ ไผ่ วันพอยท์ หรือ ไผ่ ลิกค์ ส.ส. กำแพงเพชร ทายาทนักการเมืองดัง หนุ่มที่ตกเป็นข่าวกับ  ดิว อริสรา และดาราสาวอีกหลายคน

        หากจะพูดถึงหนุุ่มนักการเมืองชื่อดัง ที่มีข่าวกับดารานางแบบ รวมทั้งนางเอกมาก จากอดีตถึงปัจจุบัน เชื่อว่าต้องมีชื่อของ ไผ่ วันพอยท์ หรือ ไผ่ ลิกค์ ติดอยู่ในโผอย่างแน่นอน ล่าสุด ดิว อริสรา ก็ได้ออกมายอมรับว่า ตอนนี้กำลังคบหาดูใจอยู่กับ  ไผ่ วันพอยท์ และไม่หวั่นเรื่องที่ ไผ่ วันพอยท์ เคยมีข่าวกับสาว ๆ มากหน้าหลายตาในวงการบันเทิงไทย วันนี้ กระปุกดอทคอม จึงมีประวัติ ไผ่ วันพอยท์ มาฝากกันจ้า

         ไผ่ วันพอยท์ หรือชื่อจริงคือ ไผ่ ลิกค์ เกิดเมื่อวันที่  20 เมษายน พ.ศ. 2521 เป็นบุตรชายของ นายเรืองวิทย์ ลิกค์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดกำแพงเพชร พรรคไทยรักไทย และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กับนางปราณี โชติรัตช์กุล โดยที่ไผ่ วันพอยท์ มีน้องชาย 1 คน คือ ภูผา ลิกค์

         ไผ่ วันพอยท์ จบการศึกษาด้านเอกโฆษณา  คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม จากนั้น ไผ่ วันพอยท์ จึงหันมาจับธุรกิจบ้านจัดสรร ซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัว แต่เนื่องจากงานด้านดังกล่าวไม่ใช่งานที่ถนัด ทำให้ ไผ่ วันพอยท์ ผันตัวเองเข้าสู่ธุรกิจรถยนต์ ตั้งกลุ่มแข่งรถที่เรียกว่า วันพอยท์ จนทำให้ได้รับฉายา ไผ่ วันพอยท์ ในเวลาต่อมา

         หลังจากที่นายเรืองวิทย์ ลิกค์ คุณพ่อของไผ่ วันพอยท์ หนึ่งในสมาชิกบ้านเลขที่ 111 ถูกสั่งให้เว้นวรรคทางการเมือง 5 ปี จึงทำให้ ไผ่ วันพอยท์ กระโจนลงสนามเลือกตั้งทางการเมืองเป็นครั้งแรกแทนผู้เป็นบิดา โดยในปี พ.ศ. 2550 ไผ่ วันพอยท์ ได้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. กำแพงเพชร ในสังกัดพรรคพลังประชาชน แต่กลับสอบตกไปในที่สุด ถึงกระนั้น ปี พ.ศ. 2551 ไผ่ วันพอยท์ ก็ได้รับตำแหน่งให้เป็นเจ้าหน้าที่ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี  จนกระทั่งปี พ.ศ. 2554 ที่ ไผ่ วันพอยท์ กลับมาลงสมัครรับเลือกตั้งตำแหน่ง ส.ส. กำแพงเพชรอีกครั้ง และครั้งนี้ ไผ่ วันพอยท์ ก็ได้รับเลือกตั้งสมใจปรารถนา พร้อมกับพ่วงตำแหน่งโฆษกคณะกรรมาธิการการปกครอง สภาผู้แทนราษฎรอีกด้วย จนมาถึงปัจจุบัน

         นอกจากตำแหน่งทางการเมืองแล้ว ไผ่ วันพอยท์ ยังถือเป็นนักธุรกิจระดับร้อยล้าน ผู้สืบทอดงานธุรกิจจำนวนมากของครอบครัว อาทิ ธนะสินสนุกเกอร์ , ตลาดสดธนะสิน, ธนะสินหัตถเวช, อาคารไผ่ภูผา, หมู่บ้านธนะสิน, สนามไดรฟ์กอล์ฟธนะสิน, บริษัท ไผ่ภูผา จำกัด, และบริษัท เพชรภูผา อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร ซึ่งเป็นธุรกิจเกี่ยวกับเหมืองแร่หิน

        อย่างไรก็ตาม ชื่อเสียงส่วนใหญ่ของ ไผ่ วันพอยท์ มักจะมาจากการที่ ไผ่ วันพอยท์ ไปเป็นข่าวกับดาราสาวในวงการมากหน้าหลายตา ถึงขนาดที่มีดาราสาวบางคน เคยมีข่าวแย่ง ไผ่ วันพอยท์ มาแล้ว ทั้ง หยาดทิพย์ ราชปาล ที่ไปเกาะขอบสนามแข่งเพื่อเชียร์ไผ่แข่งรถ จนมีข่าวลือหนาหูว่า หยาดเองนั้นขึ้นคอนโดของไผ่ และจากนั้นก็มีข่าวว่า ไผ่ วันพอยท์ ตามจีบ แป้ง อรจิรา แหลมวิไล ซึ่งแป้งเองก็ออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าว พร้อมกับบอกว่า ไผ่ วันพอยท์ เป็นเพียงรุ่นพี่เท่านั้น

        จากนั้น ก็มีข่าวเรื่องที่ หยาดทิพย์ และ วีเจจ๋า ณัฐฐาวีรนุช ทองมี เปิดศึกปะทะคารมกันถึงการแย่งตัว ไผ่ วันพอยท์ โดยที่หยาดให้สัมภาษณ์ว่า จ๋าได้เข้ามาขอเคลียร์กับหยาดเรื่องไผ่ วันพอยท์ แต่กลับเป็นจ๋าที่สัมภาษณ์ตรงกันข้ามว่า จ๋าแค่มายืนคุยด้วยเฉย ๆ จนทำให้ทั้งสองคนนี้ กลายเป็นคู่เกาเหลาของวงการบันเทิง และเรื่องนี้ ก็ทำให้ ไผ่ วันพอยท์ ออกมาฟ้อง เอ๋ พรทิพย์ และ บ๊วย เชษฐวุฒิ หลังจากที่ทั้งสองคนพูดถึงชื่อไผ่ วันพอยท์ ในรายการ คันปาก แต่ศาลก็ตัดสินยกฟ้องในที่สุด

         นอกจากนี้  ไผ่ วันพอยท์ ยังเคยมีข่าวกับสาว ๆ อีกมาก ทั้งแก้ม กวินตรา, หมิง ชาลิสา บุญครองทรัพย์ ที่ออกมายอมรับโดยตรงว่าสนิทสนมกับไผ่ วันพอยท์ รวมทั้ง เป้ย ปานวาด ที่ครั้งหนึ่งเคยให้สัมภาษณ์ว่า คุยกับ ไผ่ วันพอยท์ ทางบีบี และสาวชัญญ่า ทามาดะ ที่มีข่าวว่าควงไผ่ วันพอยท์ ไปมาเก๊า พร้อมกับปล่อยภาพกอดไผ่ออกมาทางอินสตาแกรม และในทริปนั้นก็มี ดิว อริสรา ไปด้วย

          ล่าสุด ดิว อริสรา ได้ออกมายอมรับว่า กำลังคบหาดูใจอยู่กับ ไผ่ วันพอยท์ ได้ประมาณ 1 ปีกว่าแล้ว แต่สถานะในตอนนี้ยังไม่ขอเรียกว่าแฟน พร้อมกับไม่หวั่นใจเรื่องที่ ไผ่ วันพอยท์ เคยมีข่าวคราวกับผู้หญิงหลาย ๆ คนก่อนหน้านี้
ประวัติ ไผ่ วันพอยท์

      ชื่อจริง : ไผ่ ลิกค์

      ชื่อเล่น : ไผ่

      ชื่อที่รู้จักกันโดยทั่วไป : ไผ่ วันพอยท์

      วันเกิด : 20 เมษายน พ.ศ. 2521

      ครอบครัว : เป็นบุตรชายของ นายเรืองวิทย์ ลิกค์ และ นางปราณี โชติรัตช์กุล มีน้องชาย 1 คน คือ ภูผา ลิกค์

      การศึกษา : ปริญญาตรี  คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม

      ประวัติทางการเมือง :

       - พ.ศ. 2550 ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.กำแพงเพชร ในสังกัดพรรคพลังประชาชน

       - พ.ศ. 2551 เจ้าหน้าที่ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี

       - พ.ศ. 2554 - ปัจจุบัน  ส.ส. กำแพงเพชร สังกัดพรรคเพื่อไทย ,โฆษกคณะกรรมาธิการการปกครอง สภาผู้แทนราษฎร




รวมคลิป เหนี่ยวไก่ ที่เป็นข่าว










loading...

Facebook

นิยม

บทความ

loading...