วาไรตี้
ประชาสัมพันธ์
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ facebook แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ facebook แสดงบทความทั้งหมด

นักจิตวิทยาเผย การใช้เฟซบุคมีค่าเท่ากับการส่องกระจกมองตัวเอง

 เฟซบุค

นักศึกษาจิตวิทยาจากแคนาดาเผยว่าผู้ใช้งานเฟซบุคบ่อยๆ จะมีความเคารพตัวเองต่ำ แต่ขณะเดียวก็หลงตัวเองสุดๆ

มหาวิทยาลัย ยอร์ค ยูนิเวอร์ซิตี้ ในนครโตรอนโต ของแคนาดา เปิดเผยผลการวิจัยเมื่อวันที่ 7 กันยายน 2010 ของ Soraya Mehdizadeh นักศึกษาด้านจิตวิทยา ว่า “การใช้เฟซบุคมีค่าเท่ากับการส่องกระจกมองตัวเอง” ในแบบออนไลน์ โดยที่ Mehdizadeh วัดค่าของความเคารพตัวเอง (ใช้หลัก The Rosenberg Self-Esteem Scale)โดยดูจากโพรไฟล์หรือประวัติส่วนตัวของผู้ใช้เฟซบุคที่เป็นนักศึกษา จำนวน 100 คน อายุตั้งแต่ 18-25 ปี และจดค่าระดับความหลงตัวเองโดยใช้ Narcissism Personality Inventory

นอกจากนี้โพรไฟล์ของแต่ละคนจะถูกนำมาประเมินค่าการ “โฆษณาตัวเอง” โดยแบ่งเป็นห้าส่วนที่ประกอบด้วย ส่วน ‘About me’ ที่เขียนเล่าเกี่ยวกับตัวเอง ภาพถ่ายหลักที่ใช้ ภาพถ่าย 20 ภาพแรกในเซ็คชั่น ‘view photos of me’ เซ็คชั่นการเขียนโน้ต และการอัพเดตสถานะ

ต่อไปนี้คือสัญญาณบางอย่างที่จะบอกได้ว่าคุณมีอีโก้สูงหรือเปล่า

- การแสดงออกทางใบหน้า (เช่นการโพสต์ท่าถ่ายภาพหรือการทำสีหน้าแบบต่างๆ) หรือการดัดแปลงภาพ (เช่นใช้ซอฟต์แวร์ตกแต่งภาพถ่าย)
- การพูดถึงสิ่งที่เป็นเรื่องบวก การเขียนคติประจำใจในแบบที่ทำให้ตัวเองดูดี หรือการเขียนโควตเปรียบเปรยต่างๆ
- การโฆษณาตัวเองผ่านการเขียนโน้ตอาจจะประกอบไปด้วยการโพสต์ผลลัพธ์จากการใช้ แอพพลิเคชั่นบนเฟซบุ๊ค เช่น “แบบทดสอบคุณหน้าเหมือนดาราคนไหน” ที่นำภาพถ่ายของคุณไปเปรียบเทียบกับภาพถ่ายของดาราดัง หรือแบบทดสอบออนไลน์อื่นๆ

อย่างไรก็ตาม Mehdizadeh ก็เชื่อว่าสิ่งที่จะต้องหาคำตอบเป็นเรื่องต่อไปก็คือว่า จะสามารถนำเว็บไซต์เฟซบุคมาใช้ในการช่วยเพิ่มความเคารพตัวเองได้หรือไม่ ผลการศึกษาอาจจะมีประโยชน์เป็นอย่างยิ่งสำหรับคนที่ต้องทนทุกข์ทรมานจากการ เป็นโรคซึมเศร้าและหดหู่ทางสังคม

ผลการศึกษาเรื่องนี้แบบเต็มๆ สามารถเข้าไปดูได้ที่ Link ด้านล่างค่ะ

Source : AFP Relax News
ที่มา: http://www.liebertonline.com/doi/abs/10.1089/cyber.2009.0257?journalCode=cyber

ความเป็นมาของ Facebook ที่ทำให้เด็กหนุ่มเป็นเศรษฐี


 facebook

Facebook คืออะไร 

Facebook ก็คือ Soical Networking เว็บไซต์หนึ่งที่มีผู้นิยมใช้งานกันมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก 
เพียงแค่เราสมัครเป็นสมาชิกกับ Facebook 
เราก็จะสามารถแบ่งปันข้อมูล รูปภาพ ความรู้สึกผ่านทางหน้าเว็บไซต์ของ Facebook ได้ และที่สำคัญมากที่เป็นจุดประสงค์หลักของ
Facebook ก็คือ การหาเพื่อนเก่าผ่านทาง Facebook และสามารถหาเพื่อนใหม่ๆ ได้จากทุกมุมโลกเช่นกัน แต่ดูเหมือนว่า Facebook 
จะมีหลักการเช่นเดียวกันการบันทึกลง "หนังสือรุ่น" นั่นเอง แต่แน่นอน เนื่องจากเป็นเว็บไซต์ Facebook จึงทำอะไรๆ ได้มากมายก็ หนังสือรุ่นธรรมดา..

ที่มาของ Facebook

จุดเริ่มต้นมาจาก Mr. Mark Zuckerburg ในสมัยที่เป็นนักศึกษา มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ได้แนวคิดมาจาก 
การเขียนหนังสือที่ใช้สำหรับแนะนำตัวกับเพื่อนใหม่ในชั้นเรียน และนำมาดัดแปลงมาเป็นเว็บไซต์ในโลกของอินเตอร์เน็ต 
เริ่มต้นก็ใช้ในระดับมหาวิทยาลัย และแพร่กระจายไปเรื่อยๆ จนกระทั่งล่าสุดมีผู้ที่เป้นสมาชิก Facebook มากถึง 500 ล้านคนแล้ว

เรียกว่าปัจจุบัน Mr. Mark Zuckerburg ได้กลายเป็นเศรษฐีที่อายุน้อยคนหนึ่งของโลกเลยทีเดียว ปัจจุบันFacebook 
ได้มีการแปลเป็นภาษามากมาย รวมทั้งภาษาไทยด้วย และที่ทำให้เป็นที่นิยมอย่างรวดเร็วมากขึ้น เห็นจะมาจากการให้บริการฟรี นั่นเอง

แชต'เฟสบุ๊ค'กับชายอื่นผัวหึงจ่อยิงดับ

 
 
ผัวหึงโหดเห็นเมีย นั่งหน้าคอมฯจับได้แชต Face book กับชาย ระแวงรักกลัวปันใจให้ชายอื่น เข้าบ้านแม่ยายขโมยปืน พร้อมเขียนจดหมายลาตาย รักเมียสุดหัวใจ ไม่ยอมให้ใครพราก ลั่นกระสุนระเบิดฝ่ายหญิง ก่อนระเบิดขมับตัวตายตาม
 
 
(17ก.ค.) เหตุการณ์นี้ถูกเปิดเผยเมื่อเวลา 10 .30 น. พ.ต.ท.ธีระวัฒน์ จันทร์ศรีเพ็ชร พนักงานสอบสวน สภ.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้รับแจ้ง จากนางนิตยา พุ่มบุตร อายุ 55 ปี ว่าเกิดเหตุ ลูกเขยใช้ปืนยิงภรรยา และยิงตัวเองตายตามอยู่ในบ้านเลขที่ 13/4 ซอยเขาหมอน ม.7 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ หลังรับแจ้งได้ประสานแพทย์เวร โรงพยาบาลสัตหีบกิโลเมตรที่ 10 และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ ร่วมตรวจสอบ
 ในที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียวบนที่นอนภายในห้องนอนพบผู้เสีย ชีวิต 2 ราย คือนายจำรัส แสงแสน อายุ 48 ปี ถูกยิงเข้าขมับขวา 1 นัด กระสุนทะลุออกขมับซ้าย อยู่ในสภาพนอนทับร่างของนางบันหยัด แสงแสน อายุ 35 ปี ภรรยา ซึ่งถูกยิงเข้าขมับซ้ายกระสุนฝังใน ข้างผู้ตายพบอาวุธปืน รุ่นสมิทธ์แอนด์วิสสัน ชนิดลูกโม่ ขนาด .38 ตกอยู่ และพบจดหมายลาตายถูกเขียนด้วยลายมือของ นายจำรัส ความว่า
 “ด้วยรักจำเป็นต้อง...ผมรักเธอผมจะขาดเธอไม่ได้นะ พวกเราต้องมีอันต้องแยกจากกัน เราตายด้วยกันยังดีกว่า ผมขอฝากลูกด้วยครับทุกคน ผมรักเมียผมเราทั้งสองจะไปสู่อีกโลกอื่นลาก่อนครับ ทุกสิ่งทุกอย่างผมขออโหสิกรรมด้วยครับ ผมรักของผมจริงๆ ” เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน พร้อมนำศพผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรยังสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิตที่แท้จริง
 จากการสอบสวนนางนิตยา ให้การว่า ผู้ตายเป็นสามีภรรยาอยู่กินกันมาหลายปีจนมีบุตรชาย 1 คน กระทั่งเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา นางบันหยัด มาเล่าให้ฝังว่า เกิดมีปากเสียงทะเลาะกับนายจำรัส อย่างรุนแรง เนื่องจากขณะที่เล่น Face book อยู่หน้าคอมพิวเตอร์กับเพื่อนชาย นายจำรัส ได้มาเห็นจนเกิดอาการหึงหวง และหวาดระแวงว่าบุตสาวจะปันใจให้ชายอื่น จนเมื่อกลางดึกคืนนี้ นายจำรัส ได้เข้ามาในบ้านและได้ขโมยปืนจากเตียงไป มารู้ก็ช่วงเช้าวันนี้ว่าปืนได้หายไป จึงติดตามมาที่บ้านนายจำรัส ก็พบว่าได้ใช้ปืนกระบอกดังกล่าวปลิดชีพภรรยาและตัวเอง

ที่มา  คม ชัด ลึก

loading...

Facebook

นิยม

บทความ

loading...