แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ HR-V แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ HR-V แสดงบทความทั้งหมด
เปิดตัว Honda HR-V เริ่มต้น 8.9 แสนบาท
วันนี้(17 พ.ย.) บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด จัดงานเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ “เอชอาร์- วี ” (HR-V) โดยวางตำแหน่งให้เป็นสปอร์ตครอสโอเวอร์ระดับพรีเมียม พร้อมออปชันอย่าง ไฟขับขี่เวลากลางวัน หลังคาซันรูฟไฟฟ้าแบบพาโนรามา เบรกมือไฟฟ้า ส่วนเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.8 ลิตร 141 แรงม้า ประกบเกียร์ CVT รองรับแก็สโซฮอล์ E85 แบ่งเป็น 3 รุ่นย่อย ราคาเริ่ม 8.90 แสนบาท ตัวท็อป 1.045 ล้านบาท ตั้งเป้าขาย 20,000 คันต่อปี
การออกแบบภายใน เน้นความกว้างขวาง โปร่งโล่งของพื้นที่เหนือแผงคอนโซล ผสานกับคอนโซลกลางแบบ 2 ชั้นที่ถูกออกแบบให้มาพร้อมกับภาพลักษณ์สไตล์สปอร์ต พื้นที่ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมีทั้งระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับการสั่งงานด้วยเสียง Siri (สำหรับ iPhone 4s ขึ้นไป) ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมแผงควบคุมแบบสัมผัส มาตรวัดเรืองแสงปรับเปลี่ยนได้ 7 สี พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ ช่องเชื่อมต่อ USB 2 จุด ช่องเชื่อมต่อ HDMI และช่องจ่ายไฟสำรอง
พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่น ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์อัจฉริยะ (One Push Ignition System) และระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ (Honda Smart Key System) โดดเด่นด้วยห้องสัมภาระด้านท้ายขนาดใหญ่ ที่มาพร้อมกับเบาะนั่งอเนกประสงค์ที่ปรับพับได้ 3 รูปแบบ ได้แก่ Utility Mode, Tall Mode และ Long Mode เพื่อตอบรับทุกการใช้งาน
ฮอนด้า เอชอาร์-วี ใหม่ วางเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร SOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 141 แรงม้า ที่ 6,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 172 นิวตัน-เมตร ที่ 4,300 รอบต่อนาที รองรับพลังงานทางเลือก E85 ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT ใหม่ ที่พัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม และตอบสนองทุกการขับขี่ด้วยระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ 7 สปีด รวมถึงระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
ฮอนด้าจัดมาตรฐานความปลอดภัยในทุกรุ่น อาทิ ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) ที่ใช้งานง่ายเพียงดึงสวิตช์ที่คอนโซลกลางขึ้นเมื่อต้องการใช้เบรกมือ และระบบ Auto Brake Hold (Automatic Brake Hold) ที่จะทำการหน่วงเบรกต่อโดยอัตโนมัติหลังจากเหยียบเบรกให้รถหยุดนิ่ง ช่วยป้องกันไม่ให้รถเคลื่อนตัวโดยไม่จำเป็นต้องเหยียบเบรกค้างไว้
ตลอดจนระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ระบบควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VSA) ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA) และสัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS) เสริมด้วยกล้องส่องภาพด้านหลัง ปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-Angle Rearview Camera) และระบบถุงลม 6 ตำแหน่ง ได้แก่ ถุงลมด้านคนขับอัจฉริยะ (i-SRS) ถุงลมด้านผู้โดยสารด้านหน้า (SRS) ถุงลมด้านข้างคู่หน้าอัจฉริยะ (i-Side Airbags) ม่านถุงลมด้านข้าง (Side Curtain Airbags)
โดยเอชอาร์-วี มีให้เลือก 3 รุ่น ได้แก่ รุ่น S ราคา 890,000 บาท รุ่น E ราคา 975,000 บาท และรุ่น EL ราคา 1,045,000 บาท โดยมีให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีดำคริสตัล (มุก) สีขาวออร์คิด (มุก) และสีเงินอลาบาสเตอร์ (เมทัลลิก) และ 2 สีใหม่ คือ สีเทารูสแบล็ค (เมทัลลิก) สีน้ำเงินมอร์ฟโฟ (มุก) โดยฮอนด้าตั้งเป้าหมายการขายไว้ที่ 20,000 คันต่อปี
------------------------------------------------------------------------------------------------------
จากข้อมูลในคลับ
เครดิตคุณ MO
HR-V มีทั้งหมด 3 รุ่น S , E , EL
มีสีทั้งหมด 5 สี ขาวออร์คิดมุก , เงิน , ดำคริสตัล , (สีดำใหม่ และสีน้ำเงินใหม่ มีเฉพาะรุ่น E , EL)
ราคา (เป็นราคาโดยประมาณ ความน่าเชื่อถือ 50/50)
S : 833,000 บาท
E : 890,000 บาท
EL : 950,000 บาท
อ๊อฟชั่น (ความน่าเชื่อ 80%)
เครื่องยนต์ 1.8 L. SOHC I-Vtec 141 แรงม้า
เกียร์CVT
Paddle shift 7 speeds + Cruise Control (*E , EL)
ล้อแม็กซ์ขนาด 17 นิ้ว ทุกรุ่น (ลายสปอร์ตในรุ่น EL)
ความประหยัด
- เครื่องยนต์รองรับน้ำมัน E10 E20 E85 และค่าออกเทน 91 ขึ้นไป
- มี Eco Assist ( Econ Mode + Eco Coaching)
ภายนอก
- ไฟหน้า LED + Daytime Running light ( * E , EL ) (ในรุ่น S เป็น Multireflegtor)
- ไฟท้าย LED ทุกรุ่น (เส้นคู่ เฉพาะ EL)
- ไฟตัดหมอกคู่หน้า ( * E , EL )
- สปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรกทุกรุ่น
- เสาอากาศแบบครีบฉลามทุกรุ่น
- Panoramic Sunroof พร้อมสวิตซ์ควบคุมแยก (เฉพาะ EL)
- ไฟในเก๋งแบบ LED (เฉพาะ EL)
- มือจับประตูสไตล์รถ Coupe
ภายใน
- เบาะผ้าผสมหนังสังเคราะห์ในรุ่น S และ เบาะหนังในรุ่น E , EL
- ช่องแอร์ผู้โดยสาร 3 ตำแหน่ง เปิด-ปิด อิสระได้ตามต้องการ เป็นระบบสัมผัสในทุกรุ่น
- มาตรวัดเรืองแสง ปรับเปลี่ยนสีได้ 7 สี จอแสดงผลการขับขี่แบบ MID ปรับที่พวงมาลัย (เฉพาะ EL)
รุ่น S , E เป็นมาตรวัดเรืองแสงสีฟ้าพร้อมจอ I-mid
- กล่องคอนโซลกลางขนาดใหญ่ พร้อมที่เท้าแขน
- พื้นผิวคอนโซลกลางสไตล์สปอร์ตเปียโนแบล็ค (เฉพาะ EL)
- เครื่องเสียง Advance Touch หน้าจอ 7 นิ้ว ในรุ่น E , EL ( HDMI USB AUX CD)
- เครื่องเสียง หน้าจอสัมผัส 5 นิ้ว ในรุ่น S ( USB AUX CD )
- เชื่อมต่อ Bluetooth ได้สูงสุด 6 เครื่อง ในทุกรุ่น
- เบาะหลังปรับพับได้ 3 โหมด ในทุกรุ่น
- ความจุห้องสัมภาระท้าย ขนาด 565 ลิตร
ระบบความปลอดภัยล้ำสมัย
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ในรุ่น S , E และถุงลมนิรภัย 6 ใบในรุ่น EL
- ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) มีในทุกรุ่น
- ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ (Automatic Brake Hold) ระบบใช้งานได้ 10 นาที มีในทุกรุ่น
- กล้องส่องภาพด้านหลัง ปรับได้ 3 มุมมอง ในรุ่น E , EL
- สัญญาณกะระยะหลัง 4 ตำแหน่ง พร้อมภาพเตือนตามระยะที่จอ
- ระบบควบคุมประตูอัจฉริยะ
- ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์อัจฉริยะ
- มีระบบ VSA HSA ESS ABS EBD ในทุกรุ่น
-----------------------
ภาพประกอบของต่างประเทศนะครับ
แต่คิดว่า อ๊อฟชั่นไทยจัดเต็มขนาดนี้ ตัวจริงคงไม่แตกต่างกันมากแน่
การออกแบบภายใน เน้นความกว้างขวาง โปร่งโล่งของพื้นที่เหนือแผงคอนโซล ผสานกับคอนโซลกลางแบบ 2 ชั้นที่ถูกออกแบบให้มาพร้อมกับภาพลักษณ์สไตล์สปอร์ต พื้นที่ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมีทั้งระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับการสั่งงานด้วยเสียง Siri (สำหรับ iPhone 4s ขึ้นไป) ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมแผงควบคุมแบบสัมผัส มาตรวัดเรืองแสงปรับเปลี่ยนได้ 7 สี พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ ช่องเชื่อมต่อ USB 2 จุด ช่องเชื่อมต่อ HDMI และช่องจ่ายไฟสำรอง
พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่น ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์อัจฉริยะ (One Push Ignition System) และระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ (Honda Smart Key System) โดดเด่นด้วยห้องสัมภาระด้านท้ายขนาดใหญ่ ที่มาพร้อมกับเบาะนั่งอเนกประสงค์ที่ปรับพับได้ 3 รูปแบบ ได้แก่ Utility Mode, Tall Mode และ Long Mode เพื่อตอบรับทุกการใช้งาน
ฮอนด้า เอชอาร์-วี ใหม่ วางเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร SOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 141 แรงม้า ที่ 6,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 172 นิวตัน-เมตร ที่ 4,300 รอบต่อนาที รองรับพลังงานทางเลือก E85 ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT ใหม่ ที่พัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม และตอบสนองทุกการขับขี่ด้วยระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ 7 สปีด รวมถึงระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
ฮอนด้าจัดมาตรฐานความปลอดภัยในทุกรุ่น อาทิ ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) ที่ใช้งานง่ายเพียงดึงสวิตช์ที่คอนโซลกลางขึ้นเมื่อต้องการใช้เบรกมือ และระบบ Auto Brake Hold (Automatic Brake Hold) ที่จะทำการหน่วงเบรกต่อโดยอัตโนมัติหลังจากเหยียบเบรกให้รถหยุดนิ่ง ช่วยป้องกันไม่ให้รถเคลื่อนตัวโดยไม่จำเป็นต้องเหยียบเบรกค้างไว้
ตลอดจนระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ระบบควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VSA) ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA) และสัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS) เสริมด้วยกล้องส่องภาพด้านหลัง ปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-Angle Rearview Camera) และระบบถุงลม 6 ตำแหน่ง ได้แก่ ถุงลมด้านคนขับอัจฉริยะ (i-SRS) ถุงลมด้านผู้โดยสารด้านหน้า (SRS) ถุงลมด้านข้างคู่หน้าอัจฉริยะ (i-Side Airbags) ม่านถุงลมด้านข้าง (Side Curtain Airbags)
โดยเอชอาร์-วี มีให้เลือก 3 รุ่น ได้แก่ รุ่น S ราคา 890,000 บาท รุ่น E ราคา 975,000 บาท และรุ่น EL ราคา 1,045,000 บาท โดยมีให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีดำคริสตัล (มุก) สีขาวออร์คิด (มุก) และสีเงินอลาบาสเตอร์ (เมทัลลิก) และ 2 สีใหม่ คือ สีเทารูสแบล็ค (เมทัลลิก) สีน้ำเงินมอร์ฟโฟ (มุก) โดยฮอนด้าตั้งเป้าหมายการขายไว้ที่ 20,000 คันต่อปี
------------------------------------------------------------------------------------------------------
จากข้อมูลในคลับ
เครดิตคุณ MO
HR-V มีทั้งหมด 3 รุ่น S , E , EL
มีสีทั้งหมด 5 สี ขาวออร์คิดมุก , เงิน , ดำคริสตัล , (สีดำใหม่ และสีน้ำเงินใหม่ มีเฉพาะรุ่น E , EL)
ราคา (เป็นราคาโดยประมาณ ความน่าเชื่อถือ 50/50)
S : 833,000 บาท
E : 890,000 บาท
EL : 950,000 บาท
อ๊อฟชั่น (ความน่าเชื่อ 80%)
เครื่องยนต์ 1.8 L. SOHC I-Vtec 141 แรงม้า
เกียร์CVT
Paddle shift 7 speeds + Cruise Control (*E , EL)
ล้อแม็กซ์ขนาด 17 นิ้ว ทุกรุ่น (ลายสปอร์ตในรุ่น EL)
ความประหยัด
- เครื่องยนต์รองรับน้ำมัน E10 E20 E85 และค่าออกเทน 91 ขึ้นไป
- มี Eco Assist ( Econ Mode + Eco Coaching)
ภายนอก
- ไฟหน้า LED + Daytime Running light ( * E , EL ) (ในรุ่น S เป็น Multireflegtor)
- ไฟท้าย LED ทุกรุ่น (เส้นคู่ เฉพาะ EL)
- ไฟตัดหมอกคู่หน้า ( * E , EL )
- สปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรกทุกรุ่น
- เสาอากาศแบบครีบฉลามทุกรุ่น
- Panoramic Sunroof พร้อมสวิตซ์ควบคุมแยก (เฉพาะ EL)
- ไฟในเก๋งแบบ LED (เฉพาะ EL)
- มือจับประตูสไตล์รถ Coupe
ภายใน
- เบาะผ้าผสมหนังสังเคราะห์ในรุ่น S และ เบาะหนังในรุ่น E , EL
- ช่องแอร์ผู้โดยสาร 3 ตำแหน่ง เปิด-ปิด อิสระได้ตามต้องการ เป็นระบบสัมผัสในทุกรุ่น
- มาตรวัดเรืองแสง ปรับเปลี่ยนสีได้ 7 สี จอแสดงผลการขับขี่แบบ MID ปรับที่พวงมาลัย (เฉพาะ EL)
รุ่น S , E เป็นมาตรวัดเรืองแสงสีฟ้าพร้อมจอ I-mid
- กล่องคอนโซลกลางขนาดใหญ่ พร้อมที่เท้าแขน
- พื้นผิวคอนโซลกลางสไตล์สปอร์ตเปียโนแบล็ค (เฉพาะ EL)
- เครื่องเสียง Advance Touch หน้าจอ 7 นิ้ว ในรุ่น E , EL ( HDMI USB AUX CD)
- เครื่องเสียง หน้าจอสัมผัส 5 นิ้ว ในรุ่น S ( USB AUX CD )
- เชื่อมต่อ Bluetooth ได้สูงสุด 6 เครื่อง ในทุกรุ่น
- เบาะหลังปรับพับได้ 3 โหมด ในทุกรุ่น
- ความจุห้องสัมภาระท้าย ขนาด 565 ลิตร
ระบบความปลอดภัยล้ำสมัย
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ในรุ่น S , E และถุงลมนิรภัย 6 ใบในรุ่น EL
- ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) มีในทุกรุ่น
- ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ (Automatic Brake Hold) ระบบใช้งานได้ 10 นาที มีในทุกรุ่น
- กล้องส่องภาพด้านหลัง ปรับได้ 3 มุมมอง ในรุ่น E , EL
- สัญญาณกะระยะหลัง 4 ตำแหน่ง พร้อมภาพเตือนตามระยะที่จอ
- ระบบควบคุมประตูอัจฉริยะ
- ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์อัจฉริยะ
- มีระบบ VSA HSA ESS ABS EBD ในทุกรุ่น
-----------------------
ภาพประกอบของต่างประเทศนะครับ
แต่คิดว่า อ๊อฟชั่นไทยจัดเต็มขนาดนี้ ตัวจริงคงไม่แตกต่างกันมากแน่
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
loading...
นิยม
บทความ
-
►
2017
(43)
- ► กุมภาพันธ์ (7)
-
►
2016
(362)
- ► กุมภาพันธ์ (13)
-
►
2015
(77)
- ► กุมภาพันธ์ (6)
-
►
2014
(192)
- ► กุมภาพันธ์ (5)
-
►
2013
(57)
- ► กุมภาพันธ์ (5)
-
►
2012
(194)
- ► กุมภาพันธ์ (2)
-
►
2011
(272)
- ► กุมภาพันธ์ (43)
-
►
2010
(873)
- ► กุมภาพันธ์ (60)
loading...