แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ โลกร้อน แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ โลกร้อน แสดงบทความทั้งหมด
สถานที่ที่ร้อนที่สุดในโลก!!
อันดับที่ 10 Agha Jari
Agha Jari ในประเทศ Iran ถึงจะเข้ามาเป็นอันดับสิบก็อย่างนึกว่าจะไม่ร้อน ร้อนระอุกว่า 53.3 องศา หรือกว่า 128.0 ถ้าที่หนึ่งตับแตก อันดับสิบก็ร้อนตับแห้งละครับ
อันดับ ที่ 9 Ahwaz
Ahwaz ในประเทศ Iran ร้อนถึง 53.5 องศา หรือกว่า 128.0 ฟาเรนไฮต์
อันดับ ที่ 8 Tirat Tavi
Tirat Tavi ในประเทศ Israel ร้อนกันถึงกว่า 54.0 องศา หรือกว่า 129.0 ฟาเรนไฮต์
อันดับ ที่ 7 Mammoth Tank
Mammoth Tank ใน California ในประเทศ USA ร้อนกันจนน้ำละเหยที่ 54.4 องศา หรือกว่า 130.0 ฟาเรนไฮต์
อันดับ ที่ 6 Araouane
Araouane ในประเทศ Mali ร้อนตับแตกกันเลยทีเดียวกับองศามหาโหด 54.5 องศา หรือกว่า 130.0 ฟาเรนไฮต์
อันดับ ที่ 5 Tombouctou
Tombouctou ในประเทศ Mali ร้อนได้อีกกว่า 55.0 องศา หรือกว่า 131.0 องศาฟาเรนไฮต์
อันดับ ที่ 4 Kebili
Kebili ในประเทศ Tunisia ร้อนถึง 55.0 องศา หรือกว่า 131.0 องศาฟาเรนไฮต์
อันดับ ที่ 3 Ghudamis
Ghudamis ในประเทศ Libye ร้อนถึง 55.0 องศา หรือกว่า 131.0 ฟาเรนไฮต์ กะว่าจะครองประเทศที่ร้อนที่สุดเลยไหมเนี่ย
อันดับ ที่ 2 Greenland Ranch
Death Valley ใน Greenland Ranch อยู่ในประเทศ USA ชื่อก็บ่งบอกความร้อนกันแล้ว ความร้อนก็ ร้อนไม่เกรงใจใคร ร้อนกันถึง 56.7 องศา หรือ 134.0 ฟาเรนไฮต์
อันดับ ที่ 1 Al ' Aziziyah
ร้อนนรกแตกกันเลยทีเดียวกับที่ Al ' Aziziyah อยู่ในประเทศ Libye ร้อนกันถึง 58.0 องศา หรือ 136.4 ฟาเรนไฮต์ ขนาดเมืองไทย 40 ก็ ตายกันไปหลายราย ถ้า 58 คง ละลายหายไปเลย
เครดิต Mthai, hetop10site.com
10 วิธีง่ายๆ รักษ์พลังงาน กู้โลกร้อน
| ||
นายวีระพล จิรประดิษฐกุล ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันพบว่าประเทศไทยมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงเป็นอันดับที่ 31 ของโลก หรือ อันดับที่ 4 ของอาเซียน ซึ่งสาเหตุใหญ่ที่ทำให้เกิดสภาวะโลกร้อนในปัจจุบัน คือ การที่มนุษย์เผาผลาญเชื้อเพลิงฟอสซิล เช่น น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ เพื่อนำมาผลิตเป็นพลังงาน และปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Co2) ที่เป็นสาเหตุของสภาวะโลกร้อน ดังนั้น เพื่อร่วมกันลดการใช้พลังงาน อันเป็นสาเหตุของการเกิดสภาวะโลกร้อน สนพ.มีเคล็ดลับ “10 วิธีง่ายๆ รักษ์พลังงาน กู้โลกร้อน” มาแนะนำดังนี้
เปลี่ยนหลอดไฟจากหลอดไส้เป็นหลอดตะเกียบ และ เปลี่ยนหลอดผอม (T8) เป็นหลอดผอมใหม่เบอร์ 5 (T5) ซึ่งกินไฟเพียง 28 วัตต์ โดยหากเราเปลี่ยนมาใช้หลอด T5 แทนหลอด T8 ซึ่งมีอยู่ 200 ล้านหลอดทั่วประเทศ จะประหยัดไฟได้ปีละ 9,000 ล้านหน่วย หรือ 25,000 ล้านบาทต่อปี ลดการนำเข้าเชื้อเพลิง 15,000 ล้านบาทต่อปี ลดการปล่อย Co2 ได้ถึง 4,600 ล้านตันต่อปี
แอร์ เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟสูงถึง 40% ของปริมาณการใช้ไฟฟ้าของบ้าน 1 หลัง การปรับอุณหภูมิแอร์ให้อยู่ที่ 25 องศาเซลเซียส ช่วยลดการใช้พลังงานลงได้ 5-10% และช่วยลด Co2
คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะทั่วไป กินไฟประมาณ 400-500 วัตต์ โดยตัว CPU กินไฟประมาณ 150 วัตต์ ส่วนจอมอนิเตอร์ ที่ปัจจุบันนิยมใช้เป็นจอ LCD กินไฟประมาณ 300 วัตต์ หากต้องการหยุดใช้งานคอมพิวเตอร์ชั่วคราว ควรปิดสวิตช์หน้าจอทุกครั้ง จะช่วยประหยัดพลังงาน และช่วยลด Co2
ปลูกต้นไม้ นอกจากจะช่วยเพิ่มความสดชื่น กรองฝุ่น กรองเสียง ยังช่วยบังแดดเป็นฉนวนกันความร้อนอย่างดี โดยต้นไม้ สามารถดูดซับ Co2 ตลอดอายุของต้นไม้
การขับรถ ควรใช้ความเร็วที่สม่ำเสมอ หรือตามที่กฎหมายกำหนด จะช่วยประหยัดน้ำมัน รวมทั้งยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยและป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นใน ระหว่างการเดินทาง โดยหากขับรถด้วยความเร็วไม่เกิน 90 กม./ชม.จะช่วยลดปริมาณ Co2 ได้
การเปิดช่องหน้าต่าง ประตู จะทำให้ลมพัดผ่านเข้า-ออกตัวบ้าน ทำให้บ้านเย็นสบาย โดยในแต่ละห้องในบ้านควรเปิดทางให้ลมมีทางเข้า และทางออกเพื่อให้อากาศภายในถ่ายเทสะดวกและระบายความร้อนได้ดี ช่วยลดการใช้แอร์ลงได้
งดใช้ถุงพลาสติก ในแต่ละปีมีถุงพลาสติกถูกผลิตออกสู่ตลาดมากกว่า 50,000 ล้านถุง และมีเพียง 3% ของถุงพลาสติกที่ถูกนำไป “รีไซเคิล” กลับมาใช้ใหม่อีกครั้ง โดยถุงพลาสติกแต่ละใบต้องใช้เวลาถึงพันปีกว่าจะย่อยสลายหมดไปจากโลก
ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้งานทุกครั้ง เพราะเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เสียบปลั๊กทิ้งไว้ แม้จะปิดสวิตช์ไปแล้ว ยังคงเกิดแรงดันไฟฟ้าอยู่ การถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้งานช่วยลด Co2 ได้
หมั่นตรวจเช็กลมยาง ให้ตรงตามความต้องการของรถ เพราะหากยางสึกหรอหรือลมอ่อนจะทำให้การทรงตัวของรถไม่ดี และสิ้นเปลืองน้ำมัน (ความดันลมยางต่ำกว่ามาตรฐานทุก 1 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว จะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันเพิ่มขึ้น 2%) และควรตรวจเช็คความดันลมยางอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง หรือทุกๆ ระยะทาง 500 กิโลเมตร
บริโภคให้น้อยลง เน้นนโยบาย 4RS (Rethink, Reduce, Reuse, Recycle) ทำได้หลายวิธี อาทิ การใช้กระดาษให้มีประสิทธิภาพสูงสุด จะช่วยลดการตัดต้นไม้ลงได้ การกินอาหารก็ควรกินให้หมดไม่เหลือให้เป็นขยะเน่าเสีย ซึ่งการรีไซเคิลขยะในบ้าน จะช่วยลด Co2
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
loading...
นิยม
บทความ
-
►
2017
(43)
- ► กุมภาพันธ์ (7)
-
►
2016
(362)
- ► กุมภาพันธ์ (13)
-
►
2015
(77)
- ► กุมภาพันธ์ (6)
-
►
2014
(192)
- ► กุมภาพันธ์ (5)
-
►
2013
(57)
- ► กุมภาพันธ์ (5)
-
►
2012
(194)
- ► กุมภาพันธ์ (2)
-
►
2011
(272)
- ► กุมภาพันธ์ (43)
-
►
2010
(873)
- ► กุมภาพันธ์ (60)
loading...