เมื่อเร็วๆ นี้ ผศ.ดร.ทิวา พาโคกทม หัวหน้าศูนย์วิจัยและบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสน นำเจ้าหน้าที่และคณะเยาวชนอาเซียนที่เข้าร่วมอบรมโปรแกรม "Organic Vegetable" Production and Marketing เดินทางมาศึกษาดูงาน โครงการสามพรานโมเดล โดยมีคุณอรุษ นวราช ผู้บริหาร สามพราน ริเวอร์ไซด์ ให้การต้อนรับ ณ โรงแรมสามพราน ริเวอร์ไซด์ อ.สามพราน จ.นครปฐม

มุ่งพัฒนาเยาวชนขยายผลสู่เครือข่าย
    
อาเซียน หรือสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้ก่อตั้งขึ้นภายใต้ปฏิญญากรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2510 โดยมีสมาชิกผู้ร่วมก่อตั้ง 5 ประเทศ ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ และ ฟิลิปปินส์ ต่อมาได้  มีประเทศต่าง ๆ สมัคร  เข้าเป็นสมาชิกเพิ่มเติม ได้แก่ บรูไน เวียดนาม ลาว พม่า และ กัมพูชา ตามลำดับ ทำให้อาเซียนมีสมาชิกรวมทั้งหมด 10 ประเทศ สำหรับการก่อตั้งอาเซียนมีวัตถุประสงค์ เพื่อ ส่งเสริมความร่วมมือและให้ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจ สังคม วัฒน ธรรม เทคโนโลยี และการบริหาร ส่งเสริมสันติภาพและความมั่นคงของภูมิภาค ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับต่างประเทศ และองค์กรระหว่างประเทศ  ให้ความร่วมมือทางสังคมและวัฒนธรรมครอบคลุมทุกสาขา 
    
ในปี 2546 ผู้นำประเทศอาเซียนได้เห็นชอบร่วมจัดตั้ง “ประชาคม สังคมอาเซียน” ซึ่งมีประชาคม สังคมและวัฒน ธรรมเป็นหนึ่งในเสาหลัก และได้ตั้งเป้าหมายเป็นประชาคมสังคมอาเซียนในปี 2558 มุ่งหวังเป็นประชาคมที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง มีสังคมที่เอื้ออาทรและแบ่งปัน ประชาชนอาเซียนมีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีและการพัฒนาในทุกด้าน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ส่งเสริมการใช้สอยทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน 
    
ขณะที่ กระทรวงศึกษาธิการ ได้กำหนดบทบาทการดำเนินงานด้านต่างประเทศเชิงรุก โดยเน้นการกระชับความสัมพันธ์และการขยายความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านและในภูมิภาคเอเชียภายใต้กรอบความร่วมมือต่าง ๆ โดยเฉพาะกรอบความร่วมมือด้านการศึกษา เนื่องจากการศึกษาเป็นรากฐานสำคัญในการขับเคลื่อนความเจริญของประเทศไทยและภูมิภาค สอดคล้องกับแนวทางการปฏิรูปการศึกษา ยกระดับคุณภาพการศึกษา การนำโครงสร้างพื้นฐานสิ่งอำนวยความสะดวกและเทคโนโลยีการสื่อสารเข้ามารองรับ ตลอดจนการบริหารจัดการการศึกษาในเชิงคุณภาพและจัดทำแผนการศึกษา
    
 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จึงจัดตั้งอาเซียนศึกษาในสถานศึกษา สังกัด สพฐ. 24 โรงเรียน ได้รับคัดเลือกเป็นโรงเรียน Buffer School และอีก 30 โรงเรียนเป็นโรงเรียน Sister School รวมทั้งหมด 54 โรง โดย โรงเรียนกัลยาณวัตร จ.ขอนแก่นได้รับคัดเลือกเป็นหนึ่งในโรงเรียน Sister School และเป็นศูนย์อาเซียนศึกษา แล้วได้คัดเลือกโรงเรียนในเขตพื้นที่การศึกษาขอนแก่นอีก 14 โรง เพื่อเป็นโรงเรียนเครือข่ายในการขยายผลการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับประชาคมอาเซียน ได้แก่ โรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย โรงเรียนขอนแก่นวิทยาลัย โรงเรียนนครขอนแก่น โรงเรียน  ขามแก่นนคร โรงเรียนท่าพระวิทยายน โรงเรียนสนามบิน โรงเรียน   สาวะถีพิทยาสรรพ์ โรงเรียนบ้านทุ่ม (ทุ่มประชานุเคราะห์) โรงเรียนอนุบาลขอนแก่น โรงเรียนชุมชนบ้านพระยืน โรงเรียนดงมันพิทยาคม โรงเรียนเขาสวนกวางวิทยานุกูล โรงเรียนชุมชนบ้านฝาง และโรงเรียนบ้านบึงเนียมบึงใคร่นุ่น
        
ศูนย์อาเซียนศึกษาโรงเรียนกัลยาณวัตร จ.ขอนแก่น มี นายลิขิต เพชรผล ผู้อำนวยการโรงเรียนกัลยาณวัตร เป็นผู้อำนวยการศูนย์อาเซียนศึกษา โดยมีคณะครูโรงเรียนกัลยาณวัตรร่วมกันเป็นคณะทำงาน ภายใต้การกำกับดูแลของ นายสุริยนต์ วะสมบัติ ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาขอนแก่น เขต 1 พร้อมด้วย ดร.แสงสุรีย์ ดวงคำน้อย ศึกษานิเทศก์เขตพื้นที่การศึกษาขอนแก่น เขต 1 และ ดร.นิวัติ ศรีสวัสดิ์ เป็นที่ปรึกษาศูนย์  อาเซียนฯ โดยศูนย์อาเซียนศึกษาโรงเรียนกัลยาณวัตร จ.ขอนแก่น เปิดให้บริการบุคลากรทางการศึกษาจากทุกสถาบันการศึกษา รวมถึงประชา ชนทั่วไป มาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2553 ที่ผ่านมา เวลา 08.00-16.30 น. วันจันทร์ถึงศุกร์ เว้นวันหยุดราชการ ภายในศูนย์ฯ มีสื่อให้ความรู้หลากหลายประเภท อาทิ หนังสือและแผ่นพับเกี่ยวกับประชาคมอาเซียนและประเทศสมาชิกทั้ง 10 ประเทศ แหล่งสืบค้นทางอินเทอร์เน็ต คอม พิวเตอร์พร้อมอินเทอร์เน็ตจำนวน 5 เครื่อง ตุ๊กตาประจำชาติสมาชิกอาเซียนทั้ง 10 ประ เทศ สื่อวีดิทัศน์ที่ให้ความเพลิดเพลินควบคู่กับความรู้เรื่องประชา คมอาเซียนและการ  พัฒนาในอนาคตเอกสารข้อมูลสืบค้นที่สามารถยืมได้ สัญลักษณ์ที่สื่อ  ถึงวัฒนธรรมของชาติต่าง ๆ เป็นต้น
    
“กิจกรรมของศูนย์อาเซียนศึกษานอกจากการจัดทำหลักสูตรอาเซียนศึกษา คือ จัดอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อการจัดทำหลักสูตรอาเซียนศึกษาให้แก่คณะครูกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ และกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรมจากโรงเรียนเครือข่ายทั้ง 14 โรงแล้วยังมีการจัดกิจกรรมสร้างความตระหนักรู้ประชาคมอาเซียน กิจกรรมบริการความรู้เคลื่อนที่ กิจ กรรมค่ายวิชาการเกี่ยวกับประชาคมอาเซียน และกิจกรรมสัปดาห์อาเซียน ทั้งนี้เพื่อจะได้ร่วมกันพัฒนาการศึกษาอย่างยั่งยืนให้เยาวชนไทยมีสมรรถนะ สร้างชาติให้เจริญรุ่งเรือง  ต่อไป”.

เพ็ญศรริ นาคทน
ที่มา  เดลินิวส์