ยามาฮ่าเนรมิต “YAMAHA REV RIDERS’ COMMUNITY” กลาง Motor Show พร้อมเผยโฉม Yamaha MT-10 ครั้งแรกในอาเซียน!

 มร. ชิเงโอะ ฮายาคาวะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด (คนที่ 8 จากขวา) พร้อมด้วยคณะผู้บริหารระดับสูง ร่วมทำพิธีเปิดบูธยามาฮ่าภายใต้“YAMAHA REV RIDERS' COMMUNITY” ภายในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 37 โดยได้รับเกียรติจาก ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธาน การจัดงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 37 (คนกลาง) พร้อมด้วยแขกผู้มีเกียรติระดับวีไอพีเข้าร่วมเปิดบูธยามาฮ่าอย่างเป็นทางการ โดยบูธยามาฮ่าในปีนี้พร้อมตอบรับกระแส Big Bike Fever จัดแสดงรถจักรยานยนต์ในรูปแบบ Series เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในทุกไลฟ์สไตล์ พร้อมเผยโฉม Yamaha MT-10 เนคเก็ตไบค์ระดับท็อปคลาส เป็นครั้งแรกในอาเซียน พร้อมให้ชาวไทยได้สัมผัสก่อนใคร ณ ชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี เมื่อเร็วๆ นี้

ข้อมูลเพิ่มเติม

ยามาฮ่าเนรมิต “YAMAHA REV RIDERS’ COMMUNITY” กลาง Motor Show พร้อมเผยโฉม Yamaha MT-10 ครั้งแรกในอาเซียน! และนวัตกรรมล่าสุด Tricity 155cc.

ยามาฮ่าจัดใหญ่ เนรมิตบูธในรูปแบบ “YAMAHA REV RIDERS’ COMMUNITY” สไตล์ futuristic ในงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 37” ตอบรับกระแส Big Bike Fever จัดโชว์มอเตอร์ไซค์ในรูปแบบ Series เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในทุกสไตล์ พร้อมโชว์ Yamaha  MT-10 มอเตอร์ไซค์ท็อปคลาสสไตล์ Naked ครั้งแรกในอาเซียน ให้ชาวไทยได้สัมผัสก่อนใคร พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษมากมายระหว่างวันที่ 23 มีนาคม - 3 เมษายน นี้ ณ อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1 อิมแพ็ค เมืองทองธานี

มร. ชิเงโอะ ฮายาคาวะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า   “สำหรับ มอเตอร์โชว์ในปีนี้ แนวคิดของบูธเรา คือ “YAMAHA REV RIDERS’ COMMUNITY” ใช้การออกแบบที่เป็นโกลบอลคอนเซ็ปต์ ที่เรียกว่า “BooM Concept” ที่มีทั้งความไดนามิค และล้ำอนาคต เราจะแบ่งรถออกเป็น 4 โซนแห่งความเร้าใจ นั่นคือ MT-Series Zone, R-Series Zone, High Technology Zone     และ Victory Zone โดยเฉพาะในปีนี้ เรามีการจัดแสดงสุดยอดรถสปอร์ตสไตล์ Naked ที่ทุกคนรอคอย Yamaha MT-10 เผยโฉมครั้งแรกในอาเซียนที่ประเทศไทย และ Yamaha Tricity 155cc. นวัตกรรมล่าสุดของรถตระกูล LMW ที่เพิ่งเปิดตัวที่ประเทศญี่ปุ่น และอีกหลากหลายรุ่น ซึ่งผมเชื่อว่า   รถของเราจะต้องสร้างความเร้าใจ หรือ Revs Your Heart ให้กับทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมชมบูธของยามาฮ่าอย่างแน่นอนครับ”

ภายในบูธจะมีการจัดวางรถในโซนต่างๆ เพื่อให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่ชื่นชอบรถในประเภทที่ต่างกัน อาทิ

MT-Series :

o   MT-10 หนี่งเดียวที่คุณรอคอย! สายพันธุ์สปอร์ตอันทรงพลัง พบกับคุณครั้งแรกในงาน   มอเตอร์โชว์ 2016

o   MT-09 สัญลักษณ์แห่งรัตติกาล ขีดสุดของวิญญาณแห่งรถสปอร์ต

o   MT-07 และ MT-07 Moto Cage ที่ตกแต่งในคอนเซ็ปต์พิเศษ “Thrill your dark side”

o   MT-03 Dark Knight of street รูปลักษณ์โฉบเฉี่ยว อารมณ์ Street Naked พันธุ์ดุ

o   M-SLAZ องศาใหม่ของความเร้าใจ น้องใหม่ล่าสุดจากตระกูล MT-Series

R-Series : สำหรับผู้ที่ชื่นชอบมอเตอร์ไซค์ในสไตล์สปอร์ต

o   YZF-R1M ซูเปอร์สปอร์ตตัวท็อปคลาสขั้นสุดจากโมโตจีพี

o   YZF-R1 และ YZF-R1 60^th Anniversary Special Color ตกแต่งลายพิเศษ และสีพิเศษ    ฉลองครบรอบ 60 ปี ในการเข้าร่วมการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก

o   YZF-R3 สปอร์ตเหนือชั้น สายพันธุ์ R ซีรี่ส์ DNA เรซซิ่งตระกูล R

o   YZF-R15 ปฐมบทของสายพันธุ์สปอร์ต

Super Bike Series :

o   Yamaha Adventure Touring :

o   Super Tenere สู่ความเหนือกว่าด้วยขุมกำลังพิกัด 1,200cc. ที่จะทำให้ผู้ขับขี่ตะลุยข้ามทวีปพร้อมกับการผจญภัยอย่างไม่หยุดยั้ง เปิดตัวสีใหม่พร้อมขายครั้งแรกในประเทศไทย (Light Reddish Yellow Solid ฉลองครบ 60 ปี Motor Sport)

o   FJ-09 รุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวกับคอนเซ็ปต์ “The two souls of the dark side” เป็นการผสมผสาน 2 บุคลิกเข้าด้วยกันอย่างลงตัวระหว่างการขับขี่แบบดุดันสไตล์ MT และการขับขี่สไตล์ทัวร์ริ่ง

o   YZ250F รถสไตล์โมโตครอสที่คว้าแชมป์โลกจากการแข่งขัน FIM WMXGP World Championship 2015 และเอเชียโมโตครอสในรายการ Asian Motocross Championship 2015

o   Yamaha Cruiser :

o   Bolt-R 2016 2 สีใหม่ (Yellow Gray Metallic และสีพิเศษ Vivid Red Cocktail) และ Bolt Café Racer รุ่นใหม่ล่าสุด ที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นาน ที่มาพร้อมกับลายกราฟฟิกพิเศษ เพิ่มความสปอร์ตด้วย Grip ที่ปลายแฮนด์ และเบาะเดี่ยวต่ำรูปทรงเพรียวเข้ากับตัวรถ

o   SR400 กำเนิดแห่งตำนานคลาสสิคที่เรียบง่าย

o   Yamaha Big Scooter :

o   TMAX : Big scooter ที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ “The Max is never enough” เครื่องยนต์ 530cc. ระบบเกียร์อัตโนมัติที่ตอบโจทย์ทั้งการขับขี่ในเมือง และการเดินทางท่องเที่ยว

o   Fashion & Lifestyle series :

o   Exciter150 สปอร์ตเร้าใจด้วยเกียร์ 5 สปีด 150cc. ออกตัวเร็ว เร่งแซงเหนือชั้น ทรงตัวดีเยี่ยมสไตล์รถซูเปอร์สปอร์ต บิดมันส์ติดมือ เร้าใจในทุกย่านความเร็ว

o   Tricity เทรนด์ใหม่...สไตล์เวิลด์คลาส ยนตรกรรมแห่ง Metro Life ที่ตอบสนองชีวิตในเมืองใหญ่ทั่วโลก โดดเด่นด้วยดีไซน์ล้ำสมัยสไตล์ทัวร์ริ่งที่แตกต่างไม่ซ้ำใคร และการขับขี่           ที่ให้ประสบการณ์ใหม่เร้าใจระดับโลก

o   Blue Core Technology :

o   NMAX เจเนอเรชั่นใหม่ของออโตเมติกพรีเมี่ยม เพื่อชีวิตคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง

o   Fino 125 อัพเกรดความลงตัวทุกความรู้สึก เครื่องยนต์ 125cc. เทรนด์ใหม่...ใช่ทุกแนว

o   Grand Filano ออโตเมติกพรีเมี่ยม สะดวกสบายด้วยฟังก์ชั่นรอบคัน ตอบโจทย์ชีวิตมีคลาส สมาร์ทแบบมีสไตล์ได้อย่างลงตัว

o   GT125 สปีดตัวจริงของวัยรุ่น บิดมันส์ทันใจตั้งแต่วินาทีแรกที่ออกตัว

o   Concept bike :

o   03GEN-X คอนเซ็ปต์ไบค์ นวัตกรรมผสมผสานสายลุยแบบ Motocross และทางเรียบ พร้อมลุยในทุกสภาพถนนแบบ Scrambler

o   Hyper-SLAZ ปฏิมากรรมยานยนต์ที่แต่งเติมความแข็งแกร่งให้กับช่วงล่าง และปฏิวัติความ  โฉบเฉี่ยวในช่วงบน ภายใต้คอนเซ็ปต์ Ultimate Extreme Street บนพื้นฐานตระกูล MT-Series

นอกจากรถจักรยานยนต์ที่นำมาจัดแสดงในงานอย่างครบครันแล้ว เรายังนำผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของลูกค้ามาจัดแสดงด้วย

o   WaveRunner FX Cruiser SVHO สมรรถนะแห่งความหรูหรา ด้วยนวัตกรรมของระบบ RIDE   ทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นจริง

o   SuperJet ทางเลือกแห่งชัยชนะในทุกสนามแข่ง Yamaha SuperJet การผสมผสานกัน     อย่างลงตัวระหว่างสมรรถนะที่ทรงประสิทธิภาพ และความอิสระในระดับสุดยอด

o   Golf Car โลดแล่นสู่ความเป็นที่หนึ่ง พัฒนาให้ตรงความต้องการด้วยสมรรถนะ และความมั่นใจที่เหนือกว่าภายในรูปลักษณ์ที่หรูหรา

o   YXZ1000R / SE ยนตรกรรม 4 ล้อ ขนาด 998cc. สไตล์ออฟโรด ที่จะเปลี่ยนโลกของคุณ     ไปตลอดกาล

และจากความสำเร็จของยามาฮ่าในสนามแข่งขันปี 2015 เราจึงนำทุกความสำเร็จมาให้คนไทย     ได้ชื่นชมกันอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นซูเปอร์ไบค์อย่าง YZR-M1 ตัวแรงในสนามแข่งขัน ที่ทำให้ยามาฮ่า        คว้าแชมป์แบบ Triple Crown ทั้งในส่วน Team, Rider และ Manufacturer ในการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก MotoGP 2015 สำหรับในระดับเอเชีย เราได้นำตัวแข่ง YZF-R6 ของ Yamaha Thailand Racing Team ที่คว้าแชมป์ MFJ Superbike All Japan Road Race Championship รุ่น ST600 มาให้     ชื่นชมกับความสำเร็จของทีมแข่งไทย ส่วนในระดับประเทศเรานำ YZF-R1 รุ่นใหม่ของนักบิดอย่าง อนุชา นาคเจริญศรี และอานนท์ สังวาลย์ ที่คว้าแชมป์ FMSCT All Thailand Superbike Championship 2015  มาให้ได้ใกล้ชิด และพลาดไม่ได้กับคอทางฝุ่นที่จะได้ชื่นชมกับ YZ250F ของนักบิด ชัยยันต์ โรมพันธ์ แชมป์ประเทศไทย รุ่น Supercross MX2A

พร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษในงานมอเตอร์โชว์

o   บิ๊กไบค์ ดอกเบี้ยเริ่มต้น 0.99-3.75% ฟรี! ทะเบียน+พ.ร.บ. / Super Tenere, Bolt-R, Bolt-C, FJ-09 รับเพิ่ม ประกันชั้น 1+กล้อง GoPro รุ่น Hero+ LCD รวมมูลค่า 35,050 บาท / MT-09, MT-07 รับเพิ่ม ประกันชั้น 1+แว่นกันแดด Oakley รุ่น Frogskins VR46 รวมมูลค่า 25,500 บาท เมื่อจองในงาน และโชว์รูม ยามาฮ่าไรเดอร์สคลับทั่วประเทศ

o   SR400 ฟรี ทะเบียน+พ.ร.บ.+ประกันชั้น 1 และคูปองน้ำมันมูลค่า 5,000-10,000 บาท (เฉพาะรุ่น)

o   NMAX และ Tricity ฟรี คูปองน้ำมันมูลค่า 3,000 บาท เมื่อจองในงาน และยามาฮ่า สแควร์ ทั่วประเทศ

o   Apparel & Accessories ลดกระหน่ำสูงสุดถึง 50%

ยามาฮ่ายังมีกิจกรรม และการแสดงพิเศษจากดารา และศิลปินมากมายตลอดทั้ง 10 วัน มาให้    ชาวมอเตอร์ไซค์ได้ร่วมสนุกกัน โดยเฉพาะวันเสาร์ และวันอาทิตย์ พลาดไม่ได้ วันเสาร์ที่ 26 มีนาคม 2559 ตั้งแต่เวลา 12:00-18:00 น. กับ Yamaha Custom-Made Battle 2016 การประชันไอเดียตกแต่งยามาฮ่า M-SLAZ ของสำนักแต่งชื่อดัง ชิงรางวัลรวมมูลค่ากว่าสี่แสนบาท นอกจากนี้ยังมีการนำรถแต่ง   ของลูกค้าที่ได้รับยอดไลค์สูงสุดเข้ามาร่วมโชว์ภายในงาน พร้อมกิจกรรมพิเศษอีกมากมาย

พบกันได้ที่บูธ Yamaha ระหว่างวันที่ 23 มีนาคม – 3 เมษายน 2559 ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1   เมืองทองธานี และสามารถติดตามความเคลื่อนไหว และข้อมูลข่าวสารทางออนไลน์ได้ที่

Website : www.yamaha-motor.co.th

Facebook : Yamaha Society Thailand

Instagram : Yamaha Society Thailand

Youtube : Yamaha Society Thailand

นับถอยหลังสู่การประกาศผลการประกวดออกแบบ รีโค่ ยัง ดีไซเนอร์ ประจำปี 2559

กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – 23 มีนาคม 2559 – การประกวดออกแบบ รีโค่ ยัง ดีไซเนอร์ ประจำปี 2559 (RECO Young Designer 2016) ภายใต้คอนเซ็ปต์การใช้ชีวิตอย่างสนุกสนาน “Life is Play: Show Your Passion” ได้ดำเนินมาจนถึงรอบสุดท้าย หลังได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักออกแบบ นักเรียน และนักศึกษาทั่วประเทศที่ส่งผลงานไอเดียเชิงสร้างสรรค์เข้าร่วมประกวดกว่า 200 ชิ้น เพื่อชิงเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 300,000 บาท พร้อมโล่เกียรติคุณ โดยภายในงาน ท่านจะได้พบกับผลงานรักษ์โลกในไอเดียสุดเก๋ด้านผลิตภัณฑ์และแฟชั่นจาก 20 ทีมที่ผ่านการคัดเลือก ซึ่งทุกทีมได้นำเทคนิคและแรงบันดาลใจจากการเข้าร่วมเวิร์คช็อปกับกูรูและดีไซเนอร์ชื่อดังมาสร้างสรรค์ผลงานอย่างเต็มที่ สำหรับงานรอบประกาศผลการตัดสินการประกวดออกแบบ รีโค่ ยัง ดีไซเนอร์ ประจำปี 2559 จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 2 เมษายน 2559 เวลา 13.00 – 15.30 น. ณ ลานอีเดน ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

นอกจากนี้ ท่านสามารถติดตามชมผลงานที่ผ่านเข้ารอบประกวดทั้งหมด 20 ชิ้น จากสาขาแฟชั่นและผลิตภัณฑ์ ได้ที่ Hof Art Residency ชั้น 2 ในโครงการของ W District สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสพระโขนง ตั้งแต่วันที่ 4 – 11 เมษายน 2559 เวลา 10:00 – 19:00 น.

NPS (เอ็นพีเอส) ดึงเยาวชนโชว์ความสามารถร่วมจัด “รายการวิทยุเพื่อชุมชน”

บริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือเอ็นพีเอส ผู้นำด้านพลังงานจากพลังงานปลูกได้ เชิญนักเรียนจากโรงเรียนวัดบุยายใบ ต.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ผู้ชนะการประกวดในโครงการ “ดีเจเสียงใสอนุรักษ์พลังงานสะอาด” ของเอ็นพีเอส ร่วมแสดงความสามารถจัดรายการเกี่ยวกับการอนุรักษ์พลังงานและสาระที่เป็นประโยชน์ให้กับชุมชนในกิจกรรม “รายการวิทยุโรงไฟฟ้า NPS เพื่อชุมชน” เมื่อเร็วๆ นี้

แซนดิสก์ เพิ่มความจุมากไปอีกขั้นกับแฟลชไดร์ฟสำหรับมือถือ

SanDisk Connect Wireless Stick ความจุ 200 GB และ SanDisk Ultra Dual USB Drive 3.0 ความจุ 128 GB

ผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพขั้นสุดให้แก่สมารท์โฟนและแท็บเล็ตของคุณ

กรุงเทพฯ, 15 มีนาคม 2559 - แซนดิสก์ คอร์ปอเรชั่น (NASDAQ: SNDK) ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชั่นการจัดเก็บข้อมูลแบบแฟลช ขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อการจัดเก็บข้อมูลสำหรับมือถือ ด้วยสองผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดซึ่งพัฒนาจากแฟลชไดร์ฟสำหรับมือถือรุ่นยอดนิยม ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ SanDisk Connect™ Wireless Stick  ขนาดความจุ 200 GB* และ SanDisk Ultra^® Dual USB Drive 3.0 ขนาดความจุ 128 GB ให้ความเร็วในการโอนถ่ายข้อมูลสูงสุด พร้อมให้ผู้ใช้มีทางเลือกอันหลากหลายสำหรับการขยายความจุให้แก่อุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ

เจษฎา ภวภูตานนท์ ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทย แซนดิสก์ คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ด้วยปริมาณข้อมูลที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน ผู้ใช้งานต่างได้เริ่มมองหาทางเลือกการจัดเก็บข้อมูลรูปแบบใหม่ๆ ที่จะใช้จัดเก็บ ภาพถ่าย วิดีโอ และข้อมูลต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการใช้งานอุปกรณ์พกพาของตนเอง ซึ่งไม่เพียงจะมีจำนวนที่มาก แต่ยังมีความละเอียดและขนาดของไฟล์ที่สูงขึ้น ทั้งนี้เป้าหมายของเราคือการส่งมอบนวัตกรรม และริเริ่มสิ่งใหม่ๆ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถจัดเก็บทุกความเคลื่อนไหวในชีวิต โดยปราศจากความกังวลด้านพื้นที่การจัดเก็บข้อมูลที่จำกัด

แซนดิสก์มอบความจุสูงสุดแก่แฟลชไดร์ฟสำหรับมือถือ

ผลิตภัณฑ์ SanDisk Connect Wireless Stick ที่มาพร้อมความจุขนาด 200 GB  นับเป็นความจุที่มากที่สุดของแฟลชไดร์ฟสำหรับมือถือในปัจจุบัน ด้วยการให้พื้นที่สำหรับการจัดเก็บภาพและวิดีโอที่มากขึ้น ผู้ใช้งานจึงสามารถเข้าถึงและแบ่งปันข้อมูลได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส จากการได้รับรางวัล “Innovation Honoree” ในหมวดอุปกรณ์เสริมแบบไร้สาย จาก CEA ภายในงาน CES 2016 ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์รุ่นนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มผู้ที่มองหาอุปกรณ์ที่ง่ายต่อการถ่ายโอนและแบ่งปันข้อมูลระหว่างอุปกรณ์พกพากับคอมพิวเตอร์

การใช้งานผลิตภัณฑ์ SanDisk Connect Wireless Stick ร่วมกับแอพพลิเคชั่น SanDisk Connect จะช่วยให้การถ่ายโอนข้อมูลระหว่างอุปกรณ์¹ เป็นไปอย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้น ในการจัดการข้อมูล  ระหว่าง iPhone, iPad, iPod, Mac, PC และอุปกรณ์ระบบแอนดรอยด์ ผ่านการเชื่อมต่อผ่านไวไฟพร้อมเข้ารหัสเพื่อป้องกันความปลอดภัย โดยแอพพลิเคชันได้มีการอัพเดทเมื่อไม่นานมานี้เพื่อสนับสนุนการแสดงผลไปยังหน้าจอขนาดใหญ่ผ่าน AirPlay ของ Apple TV และ Google Chromecast พร้อมรองรับ ระบบ 3D Touch บน  iPhone 6s  และ iPhone 6s Plus และด้วยการพัฒนาล่าสุดของแอพ SanDisk Connect จึงทำให้ภาพถ่ายแบบ Live Photos ที่ ถูกถ่ายโดย iPhone 6s  และ iPhone 6s Plus สามารถถูกบันทึกจัดเก็บไว้ใน SanDisk Connect Wireless Stick ได้ ทั้งนี้แอพพลิเคชัน SanDisk Connect สามารถดาวน์โหลดได้แล้วที่ App Store และ Google Play™ สำหรับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์

ความจุที่เพิ่มขึ้นพร้อมความเร็วเหนือระดับสำหรับผู้ใช้แอนดรอยด์

ผลิตภัณฑ์ SanDisk Ultra Dual USB Drive 3.0 เป็นโซลูชั่นชั้นเลิศสำหรับอุปกรณ์ที่รองรับ OTG (On-the-Go) ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต² สามารถเพิ่มพื้นที่ความจุได้มากขึ้นและสามารถถ่ายโอนรูปภาพและวิดีโอไปยังคอมพิวเตอร์ได้อย่างง่ายดาย ด้วยความจุขนาด 128 GB จึงทำให้ผู้ใช้อุปกรณ์แอนดรอยด์สามารถเพิ่มจำนวนรูปภาพ เพลง วิดีโอและข้อมูลอื่นๆได้มากเป็นเท่าตัวโดยไม่ต้องกังวลว่าจะทำให้พื้นที่ของสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตเต็ม และเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของผลิตภัณฑ์    แซนดิสก์ยังปรับปรุงประสิทธิภาพของตัวเชื่อมต่อ USB Drive 3.0 ให้สามารถถ่ายโอนข้อมูลจากไดร์ฟ สู่คอมพิวเตอร์ด้วยความเร็ว 150MB/s³ เพื่อเพิ่มความเร็วสูงสุดในการถ่ายโอนข้อมูลอีกด้วย

เมื่อมีการเชื่อมต่ออุปกรณ์เข้ากับสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต ที่รองรับ OTG แอพมาตรฐานบนอุปกรณ์พกพาจะเข้าถึงข้อมูลที่จัดเก็บอยู่ใน SanDisk Ultra Dual USB Drive ได้ทันที สำหรับผู้ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์สามารถติดตั้งแอพพลิเคชัน Sandisk Memory Zone เพิ่มเติม เพื่อช่วยจัดการข้อมูลได้สะดวกยิ่งขึ้น  โดยสามารถดาวน์โหลดแอพลิเคชั่นได้ฟรีผ่าน Google Play™ โดยแอพพลิเคชันจะถูกเปิดขึ้นอย่างอัตโนมัตทันทีเมื่อเสียบไดร์ฟบนอุปกรณ์  เพื่อมอบการเข้าถึงแบบได้อย่างรวดเร็วและทำให้สามารถจัดการได้อย่างง่ายมากขึ้น

ราคาและการจัดจำหน่าย

ผลิตภัณฑ์ SanDisk Ultra Dual USB Drive 3.0 ความจุขนาด128 GB มีวางจำหน่ายแล้วที่ร้านขายอุปกรณ์ไอทีทั่วประเทศไทยในราคา 1,590 บาท และ ผลิตภัณฑ์ SanDisk Connect Wireless Stick ความจุขนาด 200 GB มีวางจำหน่ายแล้วที่ iStudio by Com7และ Banana IT ในราคา 4,490 บาท

ยิปรอค ร่วมสร้างอาคารเรียนใหม่ของโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกลจังหวัดลำปาง

​

ภาพข่าว: เอกรัช กาวีย์ ผู้จัดการศูนย์ฝึกอบรมยิปรอค (กลาง) และช่างติดตั้งฝ้าเพดานยิปซัมของยิปรอค

ร่วมกับกลุ่มอาสาสมัครมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ สร้างอาคารเรียนหลังใหม่ให้แก่โรงเรียนบ้านนาไหม้

ซึ่งเป็นโรงเรียนบนเขตภูเขาในพื้นที่ห่างไกล จังหวัดลำปาง

กรุงเทพฯ - บริษัท ไทยผลิตภัณฑ์ยิบซั่ม จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตนวัตกรรมยิปซัมคุณภาพสูงภายใต้แบรนด์     “ยิปรอค” และผู้ให้บริการโซลูชั่นส์ระบบผนังและฝ้าครบวงจรมากว่า 45 ปี บริจาควัสดุก่อสร้างแผ่นฝ้าเพดานยิปซัมให้แก่กลุ่มอาสาสมัครมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ เพื่อใช้ในการก่อสร้างอาคารเรียนหลังใหม่ของโรงเรียนบ้านนาไหม้ อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง ทดแทนอาคารหลังเก่าที่ชำรุดเสียหาย ซึ่งช่วยให้เด็กนักเรียนในพื้นที่ห่างไกลมีสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการศึกษาและยกระดับมาตรฐานการเรียนรู้ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น กิจกรรมครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งในแผนงานกิจกรรมเพื่อสังคมของยิปรอค โดยมีจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตของชุมชนและยกระดับการศึกษาของเยาวชนที่ด้อยโอกาส

มร.ริชาร์ด จูเชรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยผลิตภัณฑ์ยิบซั่ม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เรารู้สึกภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโครงการของกลุ่มอาสาสมัครของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ในการสนับสนุนการศึกษาของโรงเรียนบ้านนาไหม้ จังหวัดลำปาง ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ตั้งอยู่บนภูเขาในพื้นที่ห่างไกลของเมืองไทย เรายินดีที่ได้บริจาควัสดุก่อสร้างของยิปรอคในการก่อสร้างอาคารเรียนหลังใหม่นี้ ซึ่งอาคารเรียนหลังใหม่จะสร้างโอกาสแห่งการเรียนรู้และพัฒนาการศึกษาของเด็กนักเรียนที่นี่ และส่งผลดีต่อมาตรฐานการศึกษาของชุมชน”

รายการวัสดุก่อสร้างที่ยิปรอคบริจาคในครั้งนี้ได้แก่ แผ่นฝ้าเพดานยิปซัม รุ่น ProClean และโครงคร่าวเหล็กทีบาร์ชุบสังกะสีเคลือบสีพิเศษ รุ่นGyproc Grid 32T24 โดยยิปรอคได้นำช่างผู้เชี่ยวชาญ เข้าร่วมดำเนินการติดตั้งฝ้าเพดานพร้อมกับกลุ่มอาสาสมัครมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือในพื้นที่จริง

การร่วมโครงการเพื่อสังคมครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของบริษัทที่เล็งเห็นความสำคัญของเยาวชนและสังคม ทำให้การดำเนินธุรกิจของยิปรอคมีความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างสูง การให้ความสำคัญต่อสังคมนี้ยังสอดคล้องกับพันธกิจของบริษัทแซง-โกแบ็ง ซึ่งสนับสนุนให้บริษัทในเครือมอบประโยชน์คืนสู่ชุมชนและส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน

###

เกี่ยวกับ บริษัท ไทยผลิตภัณฑ์ยิบซั่ม จำกัด (มหาชน)

บริษัท ไทยผลิตภัณฑ์ยิบซั่ม จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2511 โดยเป็นบริษัทแรกที่ดำเนินการผลิตแผ่นยิปซัมและปูนปลาสเตอร์ในประเทศไทย ผลิตภัณฑ์ของไทยผลิตภัณฑ์ยิบซั่มได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในวงการอุตสาหกรรมก่อสร้างทั่วเมืองไทยและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ปัจจุบันมีโรงงานรองรับการผลิต 2 แห่ง ซึ่งตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี และ อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ไทยผลิตภัณฑ์ยิบซั่ม นำเสนอสินค้าและการบริการครบวงจร ครอบคลุมทั้งแผ่นยิปซัม ฝ้าเพดาน ระบบโครงสร้าง และปูนปลาสเตอร์ พร้อมโซลูชั่นในการตกแต่งอาคารสำหรับผู้ใช้

ด้วยการตระหนักถึงความสำคัญในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม บริษัทจึงยึดมั่นการดำเนินงานภายใต้แนวคิดยิปรอค 3G  ได้แก่ Green Products ด้วยมาตรฐาน ASTM D5116-90 จึงรับประกันว่าผลิตภัณฑ์มีการแพร่กระจายของสารเคมีในระดับต่ำ ผลิตจากวัสดุรีไซเคิลและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมไม่น้อยกว่า 30% และปราศจากสารกัมมันตรังสีหรือสารที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ Green Solutions  นำเสนอระบบผนังและฝ้าเพดานแบบประหยัดพลังงาน อาทิ โซลูชั่นเทอร์มัล ที่สามารถป้องกันความร้อนจากภายนอกแพร่เข้าสู่ภายในอาคาร จึงช่วยลดภาระของเครื่องปรับอากาศและลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ และ Green Manufacturing เน้นกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมทุกขั้นตอน พร้อมติดตั้งระบบบำบัดน้ำเสียที่ทันสมัยและระบบประหยัดพลังงานประสิทธิภาพสูง รับรองด้วยมาตรฐาน ISO 14001 และ ผลิตภัณฑ์ฉลากสีเขียว (Green Label)

           

เกี่ยวกับ แซง-โกแบ็ง ( Saint-Gobain )

บริษัท ไทยผลิตภัณฑ์ยิบซั่ม จำกัด (มหาชน) เป็นส่วนหนึ่งของบริษัทแซง-โกแบ็ง เครือบริษัทการผลิตโครงสร้างอาคารรายใหญ่ของโลก ซึ่งมีความเชี่ยวชาญระดับสูงในการออกแบบ การผลิต และการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ให้ตรงกลุ่มผู้บริโภคทั้งในวงการอุตสาหกรรม และกลุ่มผู้ใช้ทั่วไป โดยบริษัทได้ลงทุนเพื่อการวิจัยและพัฒนากระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงในราคาที่คุ้มค่า ซึ่งผู้บริโภคจะได้รับประโยชน์จากผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูง ไม่ก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้ ต่อต้านแบคทีเรีย มีความสวยงามและอายุการใช้งานที่ยาวนาน ในขณะที่ผู้ใช้สามารถติดตั้งผลิตภัณฑ์ได้อย่างง่ายดาย ช่วยประหยัดเวลาและเพิ่มสวัสดิภาพในการปฏิบัติงาน

แซง-โกแบ็ง ดำเนินงาน 4 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ กลุ่มนวัตกรรมกระจกแผ่นเรียบ กลุ่มธุรกิจบรรจุภัณฑ์ กลุ่มผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้าง และกลุ่มการจัดจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง ปัจจุบัน แซง-โกแบ็ง ดำเนินธุรกิจมาแล้วกว่า 350 ปี และมีพนักงานผู้เชี่ยวชาญกว่า 180,000 คนทั่วโลก ซึ่งสามารถยืนยันถึงความชำนาญการ และการนำเสนอโซลูชั่น ที่สอดคล้องกับความต้องการที่แตกต่างในแต่ละพื้นที่ได้อย่างลงตัว

แซง-โกแบ็ง ยังได้รับการรับรองให้เป็น 1 ใน 10  บริษัทผู้ว่าจ้างยอดเยี่ยมแห่งเอเชียแปซิฟิกประจำปี 2016

หากต้องการรายละเอียดเกี่ยวกับยิปรอคและแซง-โกแบ็ง กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ http://www.gyproc.co.th/ หรือ https://www.facebook.com/GyprocClub

รีโค่ นำ 20 ทีมสุดท้ายขึ้นสังเวียนประลองไอเดีย

กรุงเทพ ฯ, ประเทศไทย – 3 มีนาคม 2559: เวทีประกวดการออกแบบ รีโค่ ยัง ดีไซเนอร์ ประจำปี 2559 (RECO Young Designer 2016) ภายใต้คอนเซ็ปต์การประกวด “Life is Play: Show Your Passion” โดยเน้นเอาความสนุกสนานที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันมาเป็นแรงบันดาลใจในการผลิตชิ้นงานจากวัสดุรีไซเคิล ได้ดำเนินมาถึงครึ่งทางของการประกวด หลัง 20 ทีมสุดท้ายได้เข้าร่วมนำเสนอผลงานจริงต่อคณะกรรมการ

การประกวดการออกแบบรีโค่ ยัง ดีไซเนอร์ จัดขึ้นเป็นปีที่ 5 โดย บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) ถือเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้กลุ่มคนรุ่นใหม่ได้ปลดปล่อยพลังทางความคิด เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่จากวัสดุรีไซเคิล โดยใช้ PET หรือโพลีเอสเตอร์เป็นส่วนประกอบหลัก ซึ่งเป็นแนวคิดสำคัญขององค์กรในการลดปริมาณขยะจากภาคอุตสาหกรรมและนำกลับมาใช้ใหม่ นอกจากนี้ผู้เข้าประกวดที่ผ่านเข้ารอบยังจะได้เข้าร่วมเวิร์คช็อป เพื่อรับความรู้และคำแนะนำอันเป็นประโยชน์จากหลากหลายดีไซเนอร์ที่มีชื่อเสียงในวงการออกแบบ ที่เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการตัดสินในครั้งนี้ ได้แก่ คุณอดิศักดิ์ โรจน์ศิริพันธ์ เจ้าของแบรนด์ Zenithorial และอาจารย์พิเศษมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ -มหาวิทยาลัยกรุงเทพ คุณอภิวัฒน์ ยศประพันธ์Style Editor นิตยสารแพรว อาจารย์จารุพัชร อาชวะสมิต อาจารย์ประจำภาควิชาศิลปอุตสาหกรรม คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ผศ. ดร. สิงห์ อินทรชูโต หัวหน้าศูนย์ปฎิบัติการออกแบบจากเศษวัสดุ (Scrap Lab) สาขาวิชาเทคโนโลยีทางอาคาร คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คุณไชยยง รัตนอังกูร บรรณาธิการบริหาร นิตยสาร Wallpaper ประเทศไทย และประธานศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ และคุณณฤต เลิศอุตสาหกูล ดีไซเนอร์ นักออกแบบ D.I.Y ชื่อดังของไทย

มร.ริชาร์ด โจนส์ รองประธาน บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตั้งแต่ปีแรก การจัดประกวดการออกแบบ รีโค่ ยัง ดีไซเนอร์ ได้มีจุดประสงค์หลักเพื่อให้คนรุ่นใหม่มองว่าการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากวัสดุเหลือใช้เป็นเรื่องปกติ รวมไปถึงสร้างพื้นฐานความเข้าใจเพื่อให้คนรุ่นต่อๆ ไปได้เห็นถึงผลประโยชน์ที่ตามมาจากการลดปริมาณการบริโภคขยะ โดยหันมาเลือกวิธีการนำสิ่งของกลับมาใช้ซ้ำแทน

“หลังจากการเปิดเวทีการประกวดที่ผ่านมา ได้มีนักศึกษาและกลุ่มคนรุ่นใหม่สนใจส่งผลงานทั้งในสาขาออกแบบผลิตภัณฑ์และแฟชั่นเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก ซึ่งคณะกรรมได้คัดเลือกผลงานที่ตรงคอนเส็ปต์การใช้ชีวิตอย่างสนุกสนาน “Life is Play: Show Your Passion” จากผู้เข้าแข่งขันกว่า 200 คน จนได้ผู้ผ่านเข้ารอบจำนวน 20 ทีม โดย 10 ทีมมาจากสาขาออกแบบแฟชัน และอีก 10 ทีมผ่านเข้ารอบด้วยผลงานในสาขาออกแบบผลิตภัณฑ์ เพื่อเข้าร่วมเวิร์คช็อป ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา”

ภายในงานเวิร์คช็อปผู้เข้ารอบทั้ง 20 ทีมได้พบปะกับวิทยากรพิเศษ คุณณัชชา อนันต์ศฤงคาร ผู้อำนวยการด้านการตลาด แบรนด์ 5iveSis เพื่อรับฟังข้อคิดเห็นและแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ชิ้นงาน นอกจากนี้คณะกรรมการทั้งหกท่านผู้มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในวงการนักออกแบบ ยังร่วมแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับวัสดุที่ใช้ในการแข่งขันเพื่อนำไปประกอบชิ้นงานให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมไปถึงการเวิร์คช็อปกับวัสดุ โดยให้ผู้เข้ารอบได้ลงมือปฏิบัติจริง

ล่าสุดการประกวดการออกแบบรีโค่ ยัง ดีไซเนอร์ ได้เข้าสู่ขั้นตอนการนำเสนอผลงานของทั้ง 20 ทีมสุดท้าย ภายหลังจากได้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์จากการเข้าร่วมเวิร์คช้อปมาสร้างสรรค์ผลงานของตน โดยขั้นตอนดังกล่าวนับเป็นโอกาสให้ผู้เข้าประกวดได้แสดงผลงานการออกแบบจากไอเดียความคิดสร้างสรรค์ของตน อีกทั้งผู้เข้าร่วมประกวดจะได้มีโอกาสรับคำแนะนำจากคณะกรรมการเพื่อนำไปต่อยอดสู่การผลิตผลงาน ให้สามารถนำเอาไปใช้ประโยชน์ได้จริง และมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ก่อนจะเข้าสู่ด่านสุดท้ายของการประกวดในเดือนเมษายนที่จะถึงนี้

การประกวดออกแบบรีโค่ ยัง ดีไซเนอร์ จะประกาศผลการตัดสินผู้ชนะจากทั้งสองสาขาการออกแบบในวันที่ 2 เมษายน 2559 ณ ลานอีเดน ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

สามารถเข้าชมความเคลื่อนไหวของกิจกรรมได้ที่ www.indoramaventures.com และ www.facebook.com/recoyoungdesigner    

ตะลุยแปลงนา เรียนรู้ที่มาของข้าว

เมื่อเร็วๆ นี้ เด็กนักเรียนจากโรงเรียนนานาชาติไทย-จีน จ.สมุทรปราการ จำนวนกว่า 70 คน พากันมาเรียนรู้ที่มาของข้าว สัมผัสชีวิตชาวนา ทดลองดำนาพื้นที่นาจริง กับ ลุงเขียด หรือ นายอนิรุทธ์ ขาวสนิท  ปราชญ์ชาวบ้านผู้มีความรู้เรื่องการทำนาแบบวิถีอินทรีย์ประจำสวนออร์แกนิก ของโรงแรมสามพราน ริเวอร์ไซด์ อ.สามพราน  จ.นครปฐม ซึ่งนอกจากได้รับความรู้ สนุกสนาน ยังปลูกฝังให้เยาวชนรู้คุณค่าของข้าวอีกด้วย

 สวนออร์แกนิก ของโรงแรมสามพรานริเวอร์ไซด์ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำท่าจีนฝั่งตรงข้ามกับโรงแรม  บนพื้นที่กว่า 30 ไร่ ของสวนแห่งนี้ มีทั้งแปลงผัก แปลงผลไม้ แปลงนา แบ่งเป็นโซนให้เห็นอย่างชัดเจน และเป็นสวนเกษตรอินทรีย์ที่ได้รับรองมาตรฐาน IFOAM EU และ CANADA  ซึ่งเปิดให้บริการกับผู้ที่สนใจต้องการศึกษาเรียนรู้เรื่องการทำเกษตรอินทรีย์วิถีดั้งเดิม ด้วยการลงมือปฏิบัติจริง อาทิ การทำนา ปลูกผัก เลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ เป็นต้น        

สำหรับหน่วยงาน องค์กร หรือโรงเรียนต่างๆ ต้องการร่วมแบ่งปันประสบการณ์ดีๆ ผ่านฐานกิจกรรมต่างๆ กับลุงเขียด ขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โทร.034-322-588-93 อีเมล์ hotel@sampranriverside.com หรือคลิ๊กดูข้อมูลเบื้องต้นได้ที่ www.sampranriverside.com

Innity Thailand ตั้ง ดร. อิศราภา สนิทประชากร เป็น Sales Director นำทีมบุกตลาดดิจิตอล

บริษัทอินนิตี้ ดิจิตอล มีเดีย ผู้นำทางด้านการให้บริการโฆษณาทางออนไลน์ในภูมิภาคเอเชีย ประกาศแต่งตั้ง ดร. อิศราภา สนิทประชากร ประจำตำแหน่ง Sales Director คนใหม่ ณ สาขาประเทศไทย

โดย ดร. อิศราภา จะรับผิดชอบดูแลและพัฒนากลยุทธ์การตลาดในระยะยาว ควบคู่กับวางแผนและพัฒนาธุรกิจของ อินนิตี้ ในตลาดไทย

ดร. อิศราภา มีประสบการณ์การทำงานมากกว่า 15 ปีในวงการสื่อโฆษณาออนไลน์ทางด้าน sales และด้านการบริหารลูกค้าสัมพันธ์ ซึ่งเคยดูแลรับผิดชอบดำรงตำแหน่งในบริษัทต่างๆ ได้แก่ บริษัท Sanook Online Limited, True Digital Content & Media Company Limited, Admax Network Co. Ltd., และ MSN Career by Yellow Media

โดยเคยมีโอกาสได้ร่วมงานกับบริษัทชั้นนำมากมาย เช่น Facebook, Google และประสานงานกับสื่อนิตยสารต่างๆและสื่อ interactive TV

เกี่ยวกับการแต่งตั้งครั้งนี้  William Seah ผู้ดำรงตำแหน่ง Regional Director ประจำ Innity ประเทศไทย ได้กล่าวไว้ว่า “ดร. อิศราภา เป็นบุคคลซึ่งเต็มไปด้วยแรงขับเคลื่อนและแสดงออกถึงความมุ่งมั่นที่จะก้าวไปข้างหน้าเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายที่ดียิ่งขึ้น เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้บุคลากรเช่นนี้มาร่วมงาน คอยแบ่งปันประสบการณ์และความรู้กับทีม และร่วมกันตั้งเป้าถึงความสำเร็จในอนาคต”

สำหรับ ดร. อิศราภา นั้น “ดิฉันรู้สึกยินดีที่ได้เข้ามาร่วมงานกับ Innity ประเทศไทย อันเป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการวิจัยและพัฒนา จึงทำให้ผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีของเราอยู่ในแถวหน้า ซึ่งทุกวันนี้สื่อต่างๆมีการแข่งขันและต้องการประสิทธิภาพมากขึ้น และ Innity ถือเป็นผู้นำและจะร่วมกันพัฒนาวงการสื่อให้ก้าวไกลไปยิ่งขึ้น” พร้อมทั้งเสริมข้อคิดว่า “ประสบการณ์จะบอกเราว่าควรทำเช่นไร แต่ความมั่นใจคือสิ่งที่ผลักดันให้เราลงมือทำ”

เกี่ยวกับ Innity

Innity เป็นผู้นำทางด้านเครือข่ายสื่อโฆษณาดิจิตอล ซึ่งให้บริการ platform ต่างๆทางด้านการตลาดออนไลน์และเทคโนโลยีเชิงข้อมูลแก่ advertisers และ publishers

ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1999 Innity มีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งและขยายอย่างรวดเร็วในตลาดภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยจำนวนผู้เข้าร่วมมากกว่า 10,000 เว็บไซต์ รวมถึงช่องทางสื่อหนังสือพิมพ์ และเว็บไซต์ชั้นนำต่างๆที่สามารถแยกประเภทได้ตามความสนใจ เช่น เทคโนโลยี, ไลฟ์สไตล์, ยานยนต์, ธุรกิจ และ บันเทิง

Innity นำเสนอทางเลือกที่ผสานกันอย่างลงตัวระหว่าง สื่อ rich media, data-driven targeting, engagement-based advertising formats และ innovative payment models แก่ลูกค้า ซึ่งมีตั้งแต่แบรนด์ชั้นนำระดับโลกจนถึงบริษัทโฆษณาต่างๆ ปัจจุบัน Innity มีสาขาครอบคลุมประเทศ มาเลเซีย, สิงคโปร์, ไทย, อินโดนีเซีย, เวียดนาม, ฟิลิปปินส์, ฮ่องกง, ไต้หวัน และ จีน ด้วยจำนานพนักงานกว่า 200 คน