วาไรตี้
ประชาสัมพันธ์

10 อันดับ ‘โดเมนเนม’ ที่แพงที่สุดในโลก

ข้อมูลสรุปนี้ไม่พร้อมใช้งาน โปรด คลิกที่นี่เพื่อดูโพสต์

อุทุมพรห่วงสอบGAT-PATชะงัก

ศ.ดร.อุทุมพร จามรมาน ผอ.สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) เปิดเผยว่า จากการจัดตั้ง สทศ.มาครบ 5 ปี และตนก็จะหมดวาระในวันที่ 1 ต.ค. 2553 นั้น สทศ.มีผลงานที่ได้ทำ เช่น การกู้ภาพลักษณ์ของสทศ. การจัดสอบแบบทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน หรือ O-NET ชั้น ป.6 ม.3 และ ม.6 ใน 8 กลุ่มสาระ โดยจัดสอบนักเรียนปกติและนักเรียนตาบอด ตาเลือนราง กว่า 1 ล้านคน การจัดทำข้อสอบ O-NET ฉบับสั้น ป.6 และ ม.3 การจัดสอบ อิสลามศึกษา หรือ I-NET ระดับต้น กลาง และปลาย ใน 8 วิชา จำนวนกว่า 3 แสนคน การจัดสอบวัดความถนัดทั่วไป หรือ GAT และสอบวัดความถนัดทางวิชาชีพ/วิชาการ หรือ PAT รวม 5 ครั้ง การจัดสอบวัดความรู้เรื่อง “การวัด-ประเมินผลนักเรียน” ให้แก่ครูทั่วประเทศ การพัฒนาข้อสอบ O-NET, I-NET ให้เป็นข้อสอบที่เน้นการวิเคราะห์ พร้อมส่งผลสอบ O-NET ให้โรงเรียนนำไปปรับปรุงการเรียนการสอน การจัดประชุมประเทศในกลุ่มอาเซียนเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน การเตรียมการสอบอาชีวศึกษาระดับชาติ หรือ V-NET สำหรับนักเรียน ปวช.3 และ การเตรียมระบบติดตามคุณภาพบัณฑิตให้แก่สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมิน คุณภาพการศึกษา (สมศ.) เพื่อใช้ในการประเมินรอบ 3 เป็นต้น
   
ผอ.สทศ. กล่าวต่อไปว่า สำหรับปัญหาที่พบ ได้แก่ การหาผู้ออกข้อสอบที่เน้นการวิเคราะห์ ซึ่งต้องเป็นผู้รู้ด้านไอทีและเก่งด้านจัดการนั้น ทำได้ยากเพราะมีอยู่น้อยมาก การจัดสอบปีละหลายครั้งด้วยความโปร่งใส ข้อสอบไม่รั่ว การตรวจคะแนนต้องถูกต้อง การประกาศผลให้ทันเวลา ล้วนแต่เป็นเรื่องที่ทำให้เกิดความเครียด นอกจากนี้การหาผู้บริหารองค์กรและทีมงานที่มีความรู้ในศาสตร์ต่าง ๆ ทั้งการวัด ประเมินผล เศรษฐศาสตร์ การบริหารจัดการ เทคโนโลยี ก็เป็นเรื่องที่ยากเช่นกัน อย่างไรก็ตามสำหรับงานที่ สทศ.ต้องดำเนินการต่อ แต่ตนเป็นห่วงว่าอาจจะหยุดชะงักได้ คือเรื่อง GAT และ PAT เพราะขาดผู้เชี่ยวชาญที่จะให้คำปรึกษาด้านการออกข้อสอบ รวมถึงการวางระบบไอทีที่จะเป็นสาเหตุหลักให้เกิดการชะงัก.
ข่าว  เดลินิวส์
ภาพ  pantip.com/siam

กยศ.เปิดยืนยันคำขอกู้เงินเทอม 2

รศ.นพ.ธาดา มาร์ติน ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา เปิดเผยว่า หลังจากที่กองทุน กยศ. ได้มีการปรับเพิ่มจำนวนกู้ยืมเพิ่มเติมให้อีก 86,717 ราย จากเดิม 893,353 ราย ทำให้ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2553 มีนักเรียน นักศึกษาผู้ที่ได้รับสิทธิกู้ยืมรวมทั้งสิ้น 980,070 ราย และในขณะนี้ใกล้สิ้นสุดภาคเรียนที่ 1 แล้ว กยศ. จึงได้กำหนดการเปิดระบบ e-Studentloan เพื่อให้นักเรียน นักศึกษาที่ได้รับสิทธิการกู้ยืมในภาคเรียนที่ 1/2553 เข้าทำการยื่นแบบยืนยันคำขอกู้ยืมเงินสำหรับภาคเรียนที่ 2/2553 ได้ตั้งแต่วันที่ 10 กันยายน-31 ตุลาคม 2553 ดังนั้น หากนักเรียน นักศึกษากลุ่มดังกล่าวไม่เข้าไปยืนยันการขอกู้ภายในกำหนด จะมีผลให้ไม่ได้รับค่าครองชีพ และ  ค่าเล่าเรียนในภาคเรียนที่ 2 กยศ.จึงขอให้    นักเรียน นักศึกษา และสถานศึกษาเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2553 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายด้วย
   
ผู้จัดการ กยศ.กล่าวต่อไปว่า สำหรับนักเรียน นักศึกษา และผู้ปฏิบัติงานของสถานศึกษาที่ยังทำตามขั้นตอนต่าง ๆ ของระบบ e-Studentloan ในภาคเรียนที่ 1/2553 ไม่แล้วเสร็จ จะต้องเร่งดำเนินการให้เสร็จสิ้นถึงขั้นตอนตรวจสอบและยืนยันใบลงทะเบียน และ/หรือส่งข้อมูลลงทะเบียน จึงจะสามารถดำเนินการในส่วนของภาคเรียนที่ 2/2553 ต่อไปได้ ทั้งนี้ กยศ.จะเปิดระยะเวลาดำเนินการให้สถานศึกษาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ การกู้ยืมภาคเรียนที่ 1/2553 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2553 เท่านั้น โดยจะไม่ขยายเวลาการดำเนินการให้อีก
   
“ในส่วนของสถานศึกษาที่ดำเนินการตามขั้นตอนของการกู้ยืมสำหรับภาคเรียนที่ 1/2553 เสร็จเรียบร้อยแล้ว สามารถดำเนินการในส่วนของภาคเรียนที่ 2 ต่อได้ทันที เพื่อเป็นการช่วยเหลือนักเรียน นักศึกษาที่มีความจำเป็นในการใช้เงินค่าครองชีพอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามหากมีข้อสงสัยสามารถ   สอบถามรายละเอียดได้ที่ ศูนย์สายใจ กยศ. โทร. 0-2610-4888 begin_of_the_skype_highlighting              0-2610-4888      end_of_the_skype_highlighting” รศ.นพ.ธาดา กล่าว.

ข่าว  เดลินิวส์
ภาพ  blog.eduzones.com/ezine/7138

ปรับตารางเรียนแก้ปัญหาเด็กตีกัน

ที่ประชุมคณะกรรมการแก้ปัญหาเด็กอาชีวะตีกันเสนอปรับตารางเรียนแก้ปัญหา
เมื่อ วันที่ 17 ก.ย.ที่กระทรวงศึกษาธิการ  นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ  รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการมาตรการแก้ไขปัญหานักเรียนนักศึกษาทะเลาะ วิวาทครั้งที่ 1/2553 ร่วมกับกระทรวงมหาไทย กระทรวงยุติธรรม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  ว่า  ที่ประชุมได้มีการพิจารณาคู่มือมาตรการป้องกันแก้ไขปัญหานักเรียนนักศึกษา ทะเลาะวิวาท   ซึ่งคู่มือดังกล่าวจัดทำขึ้นจากมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) อีกทั้งยังมีความสอดคล้องกับ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กส่งเสริมความประพฤตินักเรียนนักศึกษา โดยที่ประชุมมีข้อเสนอแนะว่า สถานศึกษาควรมีระบบคัดกรองเด็ก  เพื่อเข้าถึงเด็กที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงเป็นพิเศษ พร้อมจัดครูที่ปรึกษาครูจิตวิทยาเพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมที่ซับซ้อนของ เด็ก  และต้องมีการประสานกับหน่วยงานในพื้นที่และต้องมีช่องทางในการสื่อสารอย่าง ชัดเจน  
นอกจากนี้ที่ประชุมเห็นควรให้มีการปรับปรุงการเรียนการสอนในระดับอาชีวศึกษา เน้นการเรียนภาคปฏิบัติแบบเต็มเวลา เพื่อสร้างความภาคภูมิใจในการเรียนสายอาชีพ มีความรับผิดชอบ เพื่อก้าวไปสู่การเป็นแรงงานที่มีฝีมือระดับกลาง  นอกจากนี้ยังได้เสนอให้โรงเรียนที่ประสบความสำเร็จในการแก้ปัญหานักเรียนตี กันมาเป็นต้นแบบและนำมาขยายผลเป็นตัวอย่างให้กับโรงเรียนอื่นๆนำไปปฏิบัติ ต่อไปด้วย  รวมถึงการจัดการสิ่งแวดล้อมรอบสถานศึกษา อาทิ  การขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รอบสถานศึกษา อย่างไรก็ตามที่ประชุมได้มอบให้ทุกส่วนราชการกลับไปทำแผนปฏิบัติการ และนำมาเสนอที่ประชุมในครั้งหน้า เพื่อบูรณาการแผนทั้งหมดและขับเคลื่อนการแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรม ต่อไป

ข่าว/ภาพ  เดลินิวส์

ทุน เรียนฟรี

ทุนเรียนฟรี
Source - โลกวันนี้วันสุข (Th)
Friday, September 17, 2010  07:50

1.ทุนสร้างคน สร้างบัณฑิต          มูลนิธิดำรงชัยธรรมมอบทุนโครงการ "ทุนสร้างคนสร้างบัณฑิต" รุ่นที่ 13/2554 เรียนต่อเนื่องจนจบปริญญาตรี 34 ทุน
          คุณสมบัติทั่วไปของผู้สมัคร ขาดแคลนทุนทรัพย์ เรียนดี ประพฤติดี และมีความสามารถ กำลังศึกษาระดับชั้น ม.3 อายุไม่เกิน 18 ปี ผลการเรียนเฉลี่ยสะสม ม.1-2 ไม่ต่ำกว่า3.00 หรือกำลังศึกษาระดับชั้น ม.6 หรือเทียบเท่า อายุไม่เกิน 21 ปี ผลการเรียนเฉลี่ยสะสม ม.4-5 ไม่ต่ำกว่า 3.00
          ขอใบสมัครด้วยตัวเองที่สถาบันการศึกษาและสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือที่จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เพลส ถนนสุขุมวิท 21 เขตวัฒนา กทม. 10110 โทร.0-2669-9614-7,0-2669-9711-3 www.damrongchaitham.com
        
          2.ทุนปริญญาตรี พสวท.
          โครงการ พสวท. ให้ทุนศึกษาต่อปริญญาตรี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ปีการศึกษา 2554 จำนวน 9 ทุน
          คุณสมบัติผู้ขอทุน กำลังศึกษาอยู่ชั้น ม.6 เขตการศึกษา1 (นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม สมุทรสาคร สมุทรปราการ)และเขตการศึกษา 5 (ราชบุรี สมุทรสงคราม กาญจนบุรีสุพรรณบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์)
          เลือกเรียนวิชาต่อไปนี้คือ เคมี ชีววิทยา ฟิสิกส์ และคณิตศาสตร์ ในชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย โดยลงทะเบียนเรียนครบทุกรายวิชา และมีคะแนนรวมทุกวิชาชั้น ม.4-5 ไม่ต่ำกว่า 3.00 คะแนนเฉลี่ยวิชาเคมี ชีววิทยา ฟิสิกส์ และคณิตศาสตร์ ชั้น ม.4-5 ไม่ต่ำกว่า 3.25
          ขอใบสมัครได้จากโรงเรียนที่ศึกษาอยู่ หรือคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร จังหวัดนครปฐม โทร.0-3427-1315 หรือดูรายละเอียดพร้อมพิมพ์ใบสมัครที่www.sc.su.ac.th
       Kla : ของ ม.เกษตรศาสตร์ก็มีนะครับ  http://www.sci.ku.ac.th:8000/th/scifac/index.php/2009-09-02-10-03-16/332------2554

ที่มา  unigang.com

มทร.อีสานชวนเที่ยวเทศกาล“หมากเม่า”

 
ดร.สุดารัตน์ สกุลคู หัวหน้างานวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสกลนคร กล่าวถึง เทศกาลหมากเม่าสกนคร ครั้งที่ 9 ประจำปี 2553 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 24-25 ก.ย. ณ หอประชุมอำเภอภูพาน อ.ภูพาน จ.สกลนคร ซึ่งเป็นปีเริ่มต้นที่ทางชมรมหมากเม่าสกลนคร ประกอบด้วยผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับหมากเม่าเป็นผู้ดำเนินการจัดงานขึ้น ร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสกลนคร อำเภอภูพาน สำนักงานพัฒนาชุมชน หน่วยงานภาครัฐ และหน่วยงานภาคเอกชน สนับสนุนกิจกรรมส่งเสริมวัตถุดิบหมากเม่าให้มีความยั่งยืน กระตุ้นเกษตรกรผู้ปลูกให้มีจิตสำนึกตระหนักถึงคุณค่า รักษาแปลงเม่า ต้นเม่า รวมถึง ต้นหมากเม่าโบราณ

ทั้งนี้ ภายในงานจะมีการแสดงนิทรรศการวิชาการเกี่ยวกับหมากเม่า การเสวนาองค์ความรู้เครือข่ายต้นน้ำ ธุรกิจหมากเม่า โดยเจ้าของสวนเม่าพันธุ์ดี, สวนเม่าปลอดภัย, ต้นเม่าโบราณ, ผู้กระจายพันธุ์เม่าทั่วประเทศ เป็นต้น ฟังการบรรยายพิเศษ “น้ำหมากเม่า โอกาสทางตลาดกับนักธุรกิจศิริวัฒน์ วรเวทวุฒิคุณ ชมการสาธิตผลิตภัณฑ์ใหม่ชาใบเม่าแต่งรส ผลิตภัณฑ์ชาสุขภาพลดระดับน้ำตาลในเลือด ในส่วนนี้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานวิทยาเขตสกลนคร และชมรมหมากเม่าสกลนครเป็นผู้ดำเนินการ

นอกจากนี้ ในงานยังมีกิจกรรมการจำหน่ายสินค้า OTOP เช่น น้ำหมากเม่า ไวน์หมากเม่า ต้นหมากเม่า ผลหมากเม่า ผ้าคราม ข้าวฮาง ผ้าพื้นเมือง ตลอดจนสินค้าเกษตร  สมุนไพรต่าง ๆ  และสินค้าสกลนครอีกหลากหลาย พร้อมโปรแกรมท่องเที่ยวเส้นทางแหล่งรวบรวมวัตถุดิบผลหมากเม่า กิจกรรมอนุรักษ์ต้นหมากเม่าโบราณ เที่ยวชมหมู่บ้านหมากเม่า (บ้านโนนหัวช้าง) ฯลฯ ผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คลินิกเทคโนโลยี โทร 042-772-393 begin_of_the_skype_highlighting              042-772-393      end_of_the_skype_highlighting

“ทั้งหมดนี้ เน้นให้เกิดการมีส่วนร่วมระหว่างผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับหมากเม่า ร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นประจำทุกปีด้วยรูปแบบกระตุ้นการตลาด สร้างความสนใจ เน้นการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ เสริมองค์ความรู้ข้อมูลสนับสนุนจากนักวิชาการ ประโยชน์ และคุณค่าของหมากเม่าสกลนครแก่ผู้สนใจทุกภาคส่วน” ดร.สุดารัตน์ กล่าว.

ข่าว  เดลินิวส์
ภาพ  www.skc.rmuti.ac.th/
loading...

Facebook

นิยม

บทความ

loading...