ประชาสัมพันธ์

5 เว็บ ยอดนิยม นิรันดร์กาล





วัยรุ่นไทยใช้ชีวิตอยู่กับอินเทอร์เน็ต เกมออนไลน์ เกมคอนโซล มากกว่าโลกเป็นจริง วันนี้เราจะตามไปดูเว็บไซต์ยอดนิยมของพวกเขา
นี่คือรายชื่อเว็บไซต์ 5 อันดับแรกที่มีผู้ชมมากที่สุด และเป็นที่เด็ก และวัยรุ่นเข้าไปขวนขวายหา "ความรู้" กันมากที่สุด
 www.sanook.com อ่านว่า สนุก ไม่ใช่สนุ๊ก มีรโลโก้เป็นตัว S! ต้องตามด้วยเครื่องหมายตกใจเท่านั้นถึงเป็นของแท้
 www.kapook.com อ่านว่า กระปุก แบบเดียวกับกระปุกออมสินที่ธนาคารออมสินมักมอบเป็นของขวัญวันเด็กที่มาเปิดบัญชี หรือนำเงินมาฝาก
 www.mthai.com อ่านว่า เอ็มไทย ไม่ควรอ่านเป็นเพื่อไทย
 www.exteen.com ชื่อเท่มาก เหมาะกับคนที่พ้นวัยรุ่นวัยทีนมาแล้ว
 www.dek-d.com ชื่อบอกในตัวอยู่แล้วว่าเหมาะสำหรับเด็กดี เด็กไม่ดีไม่กล้าเข้า
 ข้อมูลจากเว็บสถิติ Truehits.net ชวนให้ตั้งสมมุติฐานและอนุมานได้ว่า กลุ่มผู้อ่านของเว็บไซต์ 5 อันดับข้างต้นเป็นกลุ่มวัยรุ่น หากพิจารณาตัวเลขสำรวจเพศ อายุ และวุฒิการศึกษาผู้เข้าอ่าน sanook.com เป็นดังนี้ครับ
 เพศชาย 55.23%    เพศหญิง 36.56%     ประถม -ม.ต้น 31.31%      ม.ปลาย-ปวส. 36.56%    ปริญญาตรี 26.64%
 มากกว่าป.ตรี 5%     อายุ 12-17 ปี 30.30%      อายุ 18-23 ปี 24.09%      อายุ 24-35 ปี 25.26%     อายุ 36-55 ปี 13.37%

 เทียบสัดส่วนจำนวนเพศ อายุ วุฒิการศึกษาของผู้เข้าเว็บไซต์ 3 แห่งแรก ได้แก่ Sanook, kapook, MThAi มีสถิติใกล้เคียงกัน ยกเว้นสองอันดับหลัง exteen และ Dek-D ที่มีจำนวนเด็กระดับประถม-มัธยมต้นสูงกว่า แสดงให้เห็นบุคคลิกเฉพาะตัวบางอย่างของสองเว็บไซต์หลังที่ดึงกลุ่มผู้อ่านวัยทีนได้มากกว่า
 เว็บไซต์ 5 แห่งอันดับสุดสุดของเมืองไทยมีรูปแบบน่าสนใจอย่างไรถึงดึงดูดเด็ก วัยรุ่น และวัยมหาลัยเข้ามาอ่าน และดู กันมากมายมหาศาล เฉพาะยอด UIP ของ Sanook.com สูงถึงวันละ 6 แสนกว่า ยังไม่นับผู้เข้าเว็บผ่าน proxy  server ที่เข้ากี่คนก็ตามก็นับเป็น 1  IP น่าสนใจทำไมว่า Sanook.com จึงเป็นแชมป์ตลอดกาลของเว็บไซต์มหาชน
 หาก Meta Tag ที่อยู่แถบบนสุดของบราวเซอร์บ่งบอกเนื้อหาของเว็บไซต์ได้บ้าง คุณจะพบว่าเว็บไซต์ Sanook, Kapook, MThA i มีแนวทางเนื้อหาใกล้เคียงกัน
 Sanook - เกมส์ เกม ดูดวง ฟังเพลง เพลง หางาน ทำนายฝัน เกมส์แต่งตัว หาเพื่อน แชท กลอน ดารา
 Kapook - เกมส์ เกม ฟังเพลง เพลง หาเพื่อน ทำนายฝัน เกมส์ทำอาหาร กลอน ทำนายฝัน ดารา ฟุตบอล
 MThAi - เกม คลิป ดูดวง เกมส์ ผลบอล ทำนายฝัน รถมือสอง เกมส์แต่งตัว กลอน
 แม้ Meta Tag ดูคล้ายคลึงกัน แต่บุคคลิกของเว็บสุดฮิต 3 อันดับแรกมีความเป็นตัวเองอยู่พอสมควร Sanook ซึ่งเติบโตมาจากเว็บสารบัญ และพัฒนาตัวเองมาอย่างต่อเนื่อง เป็นเว็บเดียวที่พัฒนาแอพพลิเคชั่นสำหรับคอมพิวเตอร์ และมือถือ อย่างเช่น คิว คิว และ Nok Nok แข่งขันกับ MSN และ Twitter อย่างไม่มีอะไรให้เสีย
 Sanook ปรับตัวเข้ากับทิศทางของเทคโนโลยีเว็บ 2.0 เช่น เปิดพื้นที่สำหรับเว็บบอร์ด บล็อค อัพโหลดคลิปวิดีโอ ทำให้เนื้อหาเว็บมีพลวัติ และสอดคล้องกับกระแสอยู่เสมอ กระนั้น เนื้อหาของ Sanook มีน้ำหนักไปทางเรื่องดาราค่อนข้างมาก รวมถึงเรื่องทางเพศที่ปนอยู่ในทุกระดับชั้นของเมนู (Tab)
 เนื้อหาส่วนใหญ่ยังคงถูกนำมาจากแหล่งอื่นมากกว่าสร้างเนื้อหาเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง เพลง คลิป ข่าว ถ้าไม่ได้เป็นพันธมิตรแลกเปลี่ยนเนื้อหาอย่างเหนียวแน่นกับเว็บไซต์อื่น อาจเข้าข่ายละเมิดลิขสิทธิ์เจ้าของเนื้อหาได้
 ลักษณะของ Sanook ออกแนววาไรตี้ชัดเจน เนื้อหาในส่วนต่างๆ นอกจากดาราแล้ว เน้นกระตุ้นต่อมอยากรู้ของผู้เข้าดูเว็บไซต์อย่างหลากหลาย ทั้งเรื่องลี้ลับ ขบขันตลกโปกฮา อื้อฉาว เซ็กซี่ เหมือนหนังสือพิมพ์หัวสีบนโลกออนไลน์
 ส่วนเกมแนว Flash ของเว็บ Sanook เป็นจุดเริ่มต้นและดึงดูดผู้อ่านเว็บไซต์ที่ต้องการความเพลิดเพลินราคาประหยัด และมีเวลาให้ฆ่าทิ้งอย่างไม่ยี่หระ
 เทียบเคียงกันแล้ว Kapook โฟกัสเรื่องดาราและแฟชั่นอย่างออกหน้าออกตา โดยมีเนื้อหาทั้งรูปโฉมโฉมพรรณของดาราดึงดูดสายตา และออกแนวจับตลาดผู้หญิงชัดเจนจากเซ็กชั่น "ผู้หญิง" หน้าโฮมเพจของ Kapook ยาวกว่า Sanook โดยนำเอาส่วนที่อยู่ข้างในมาวางอยู่หน้าแรกอย่างเต็มที่
 การออกแบบเว็บเพจของ Kapook  ฉีกธรรมนูญการออกแบบเว็บไซต์ส่วนใหญ่ที่ยึดหลัก Clean and Clear จนไม่เหลือชิ้นดี โดยรวมแม้พยายามจัดเซ็คชั่นเป็นหมวดหมู่เป็นลำดับ ไม่ว่าจะเป็นส่วนของเกม  เพลง สุขภาพ ท่องเที่ยว เรื่องลี้ลับ แต่กลับออกแนว "อะวังการ์ด" ราวกับเสื้อผ้าของ Lady Gaga
 ขนบการออกแบบเว็บเพจแนวตารางของ MThAi  ทำให้บุคคลิกของหน้าเว็บดูเรียบร้อยกว่า แม้ส่วนต่างๆ ของเว็บเพจออกโทนวาไรตี้เหมือนกับสองเว็บแรก แต่ความรู้สึกเมื่อแตะเนื้อหาข่าวทั่วไปของ MThAi ทำให้รู้สึกว่ามีความเป็น "ผู้ใหญ่" กว่า Sanook และ Kapook ความเป็นผู้ใหญ่ของ MThAi สะท้อนออกมาจากระทู้การเมืองที่ใช้ฟอนต์ "สีแดง" สะดุดตา
 แต่ที่น่าสนใจคือ ตัวเลขการเข้าดูข้อมูลระดับลึกของเว็บเพจของ Dek-D ที่มีตัวเลขสูงกว่าเว็บสามอันดับต้น และช่วงเวลาเฉลี่ยการอยู่ในเว็บยังนานกว่าท็อปทรีเสียอีก รูปแบบหน้าเว็บเพจของ Dek-D ดูใสๆ และเป็นนักเรียนในเครื่องแบบมากว่าเว็บวาไรตี้สามเว็บแรก
  เนื้อหา "ไม่โฉ่งฉ่า" ไม่ทำนองคลั่งดารา บ้าเกม ฝักใฝ่ในดวง หรือโชว์คลิป ดูเป็นเว็บเด็กวัยรุ่นที่มีทั้งเรื่องรักแต่ไม่ทิ้งเรื่องเรียน เรื่องเมาท์แต่ไม่มัวเมา พอเอาเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์กับเพื่อนฝูงได้
 นี่คือภาพกว้างของชุมชนบนโลกออนไลน์ที่ถูกใจวัยรุ่น และเป็นพื้นที่ "เปิด" ให้พวกเขาเห็นและหาสาระและความไร้สาระตามวัยวุฒิ และคุณวุฒิ อินเทอร์เน็ตยังเป็นสังคมแห่งเดียวของพวกเขาที่ไม่ต้องติดป้าย น.13 หรือ ท. ทั่วไป มันเปิดและวางใจให้พวกเขาใช้วิจารณญาณเองว่าจะเลือกชมเลือกเสพอะไร แล้วเขาจะโตเป็นผู้ใหญ่ที่เข้มแข็ง
 ไม่ใช่คอยกำกับมันเสียทุกเรื่อง
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

สถาปัตย์ฯ มจธ. รับออกแบบ อินเตอร์





สถาปัตย์ฯ มจธ. สมัครด่วน บัณฑิตศึกษา “ออกแบบและวางแผน” สอดรับนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์ Creative Economy

      หลักสูตรบัณฑิตศึกษา “การออกแบบและวางแผน” (หลักสูตรนานาชาติ) คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เปิดรับสมัครนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาสำหรับภาคเรียนที่ 1 ในปีการศึกษา 2553 มีสาขาย่อย 7 วิชา คือ
1. Architecture Design
2.Built Environment Design
3. Communication Design
4. Design Management
5. Human-Centered Design
6. Lighting Design
7. Urban Management
             มีเป้าหมายหลักในการพัฒนาบุคลากรสร้างสรรค์ทางการออกแบบสำหรับประเทศ ในยุคเศรษฐกิจสร้างสรรค์ Creative Economy เน้นความหลากหลาย ให้ผู้เรียนเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ รู้จักคุณค่าของความคิดสร้างสรรค์และผลงานนวัตกรรมของตนเอง
      ผู้สนใจสามารถติดต่อได้ที่ หลักสูตรบัณฑิตศึกษา คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ มจธ. อาคาร Bangkok CODE วิทยาเขตสาทร (ติดสถานีรถไฟฟ้าสุรศักดิ์) โทร. 02470 9440-1 โทรสาร: 0 2470 9942 e-mail: arc.off@kmutt.ac.th หรือเข้าชมเว็บไซต์http://www.arch.kmutt.ac.th/grad เปิดรับสมัครตั้งแต่บัดนี้ ถึง 30 มกราคม 2553




ที่มา  eduzones logo

เชิญชวน!!...นิทรรศการศึกษาต่ออินเดีย


อินเดียนับเป็นอีกประเทศหนึ่งที่มีระบบการศึกษาซึ่งมีมาตรฐานระดับสูง และเป็นเป้าหมายของนักเรียนนักศึกษาไทยหลายคนในการเลือกไปศึกษาต่อยังประเทศแห่งนี้ ซึ่งในปี 2552 นับเป็นโอกาสอันดี ที่ผู้สนใจจะได้เปิดโลกการศึกษาอินเดียอย่างละเอียดจากสถาบันการศึกษาทุกระดับ ในนิทรรศการการศึกษาต่อประเทศอินเดีย หรือ The Great Indian Education Fair

          The Great Indian Education Fair เป็นนิทรรศการการศึกษาที่ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) และหอการค้าอินเดีย-ไทย ซึ่งนับว่าเป็นเวทีทางการศึกษาที่มีคุณภาพ และค่าใช้จ่ายที่เหมาะกับภาวะเศรษฐกิจในยุคนี้ โดยเฉพาะหากเปรียบเทียบกับการศึกษาต่อในสหรัฐอเมริกา หรือประเทศในแถบยุโรป
          
นายซานจีฟ โบเลีย ผู้อำนวยการก่อตั้ง บริษัท แอฟแฟร์ เอ็กซิบิชั่น แอนด์ มีเดีย ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินการจัดนิทรรศการในครั้งนี้ กล่าวว่า “นิทรรศการครั้งนี้ เป็นการรวมตัวกันของสถาบันการศึกษาในประเทศอินเดียทุกระดับ ตั้งแต่โรงเรียน วิทยาลัย และมหาวิทยาลัย ผู้ปกครองและนักเรียนนักศึกษาจะได้รับประโยชน์ และทราบข้อมูลเกี่ยวกับระบบการศึกษาของประเทศอินเดียอย่างครบถ้วน โดยแต่ละบู๊ธมีเจ้าหน้าที่เป็นล่ามภาษาไทยเพื่อช่วยในการสื่อสารได้อย่างชัดเจนและเข้าใจมากขึ้นอีกด้วย”
          The Great Indian Education Fair แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ การศึกษาระดับโรงเรียน และศึกษาระดับวิทยาลัย-มหาวิทยาลัย หรือสูงกว่า โดยในส่วนของการศึกษาระดับโรงเรียนนั้นจะนำเสนอโรงเรียนประจำชั้นแนวหน้าของประเทศอินเดีย ครอบคลุมตั้งแต่ระดับประถมศึกษาไปจนถึงมัธยมศึกษาตอนปลาย ในขณะที่ส่วนที่ 2 เน้นข้อมูลการศึกษาของเยาวชนและผู้สนใจที่มีอายุตั้งแต่ 18-25 ปี
          นอกจากนี้ ภายในนิทรรศการยังมีการสัมมนาในหัวข้อ “เรียนต่อที่ประเทศอินเดีย” ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงเวลา 04.00-16.00 น. ของวันที่ 31 มกราคม และวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2552 โดยมีวิทยากรผู้มีชื่อเสียงอย่าง นางเพอร์วิน มัลโฮทรา คอลัมนิสต์และผู้เชี่ยวชาญด้านอาชีพระดับแนวหน้าของประเทศอินเดีย
          ทางด้าน นาย ดี.เค. บาคสี ผู้อำนวยการบริหาร และประธานฝ่ายประชาสัมพันธ์หอการค้าไทย-อินเดีย กล่าวเพิ่มเติมว่า “นอกจากนิทรรศการที่ก่อให้เกิดประโยชน์ทางด้านการศึกษาโดยตรงแล้ว ยังเป็นโอกาสทางด้านธุรกิจระหว่างสถาบัน และองค์กรการศึกษาต่าง ๆ ทั้งในประเทศไทยและอินเดีย ที่จะบรรลุเป้าหมายร่วมกันในการพัฒนามาตรฐานของระบบการศึกษา”
          นายซานจีฟ ยังกล่าวทิ้งท้ายถึงความโดดเด่นว่าเหตุใดประเทศอินเดียจึงเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจในการศึกษาต่อ “ประเทศอินเดียมีมหาวิทยาลัยกว่า 300 แห่งในประเทศ นอกจากนี้ระบบการศึกษาในประเทศอินเดียถือเป็นที่ยอมรับจากทั่วโลกว่ามีมาตรฐานการศึกษาในระดับสูง ทางด้านการสื่อสารก็นับว่าได้เปรียบ เพราะประเทศอินเดียใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร และเป็นประเทศที่มีประชากรใช้ภาษาอังกฤษติดอันดับที่ 3 ของโลกอีกด้วย ตลอดรวมถึงความได้เปรียบในเรื่องการยอมรับความหลากหลายทางวัฒนธรรมจากแต่ละประเทศ”
          
ผู้สนใจการศึกษาต่อประเทศอินเดีย ต้องไม่พลาดนิทรรศการครั้งนี้ ในวันเสาร์ที่ 31 มกราคม-วันอาทิตย์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2552 ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ 

ที่มา  eduzones logo

จุฬาฯ รับนิสิตหลักสูตรนานาชาติ 675 คน


คณะอักษรศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จะเปิดรับสมัครเพื่อคัดเลือกนิสิต หลักสูตรนานาชาติ ประจำปีการศึกษา 2553 จำนวน 675   คน รับสมัครระหว่างวันที่ 4-30 มกราคม 2553

          คุณสมบัติผู้สมัครคณะอักษรศาสตร์
          1.สำเร็จการศึกษาหรือกำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า
          2.มีคะแนนสอบวัดความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้
          2.1TOEFL Paper –based ไม่ต่ำกว่า 550 หรือ TOEFL Computer –based ไม่ต่ำกว่า 213 หรือ TOEFL Internet –based ไม่ต่ำกว่า 79
          2.2 IELTS ไม่ต่ำกว่า 6.0
          2.3CU-TEP ไม่ต่ำกว่า 550
          3.มีคะแนนผลการสอบอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้
          3.1CU-AAT โดยจะต้องมีคะแนนในส่วนของ Verbal Section ไม่ต่ำกว่า 400 คะแนนหรือ
          3.2 SAT1 โดยจะต้องมีคะแนนในส่วนของ Critical Reading ไม่ต่ำกว่า 400 คะแนน
          ในการยื่นคะแนนผลการทดสอบ CU-AAT หรือ SAT1 จะต้องเป็นคะแนนที่มาจากการสอบครั้งเดียวกัน โดยสามารถใช้คะแนนผลการสอบตามข้อ 2-3 ยอ้นหลังไม่เกิน 2 ปี นับถึงวันสุดท้ายของการสมัคร คือวันที่ 29 มกราคม 2553 คณะอักษรศาสตร์สอบถามเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานหลักสูตรอักษรศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาภาษาและวัฒนธรรม(หลักสูตรนานาชาติ)ห้อง 1311 ชั้น 13 อาคารบรมราชกุมารี คณะอักษรศาสตร์ โทร.0-2218-4641

          สำหรับคณะวิศวกรรมศาสตร์ หลักสูตรนานาชาติเปิดรับสมัคร 4 สาขาวิชา คือสาขาวิชาวิศวกรรมการออกแบบการผลิตยานยนต์  สาขาวิชาวิศวกรรมนาโน สาขาวิชาวิศวกรรมสารสนเทศและการสื่อ สาขาวิชาวิศวกรรมอากาศยาน
          
คุณสมบัติผู้สมัครคณะวิศวกรรมศาสตร์
          1.สำเร็จการศึกษาหรือกำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า
          2.มีคะแนนสอบวัดความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้
          2.1TOEFL Paper –based ไม่ต่ำกว่า 550 หรือ TOEFL Computer –based ไม่ต่ำกว่า 213 หรือ TOEFL Internet –based ไม่ต่ำกว่า 79
          2.2 IELTS ไม่ต่ำกว่า 6.0
          2.3CU-TEP ไม่ต่ำกว่า 550
          3.มีคะแนนผลการสอบอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้
          3.1CU-AAT โดยจะต้องมีคะแนนในส่วนของ Verbal Section ไม่ต่ำกว่า 400 คะแนนหรือ
          3.2 SAT1 และ SAT 2 แต่ละวิชาไม่ต่ำกว่า 600 คะแนน
          4.มีคะแนนสอบวัดความถนัดทางวิทยาศาสตร์ ดังนี้
          4.1สำหรับผู้สมัครสาขาวิชาวิศวกรรมนาโนจะต้องมีคะแนนสอบอย่างใดอย่างหนึง ดังนี้
          -CU-ATS (NANO) ไม่ต่ำกว่า 1,200 หรือ
          -SAT2 วิชาละไม่ต่ำกว่า 600
          4.2สำหรับผู้สมัครสาขาวิชาวิศวกรรมการออกแบบและการผลิตยานยนต์สาขาวิชาวิศวกรรมสารสนเทศและการสื่อสาร และสาขาวิชาวิศวกรรมอากาศยานจะต้องมีคะแนนอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้
          -CU-ATS (NANO) ไม่ต่ำกว่า 800 หรือ
          -SAT2 วิชาละไม่ต่ำกว่า 600 จะต้องเป็นคะแนนที่มาจากการสอบครั้งเดียวกัน โดยสามารถใช้คะแนนผลการสอบตามข้อ 2-3 ยอ้นหลังไม่เกิน 2 ปี นับถึงวันสุดท้ายของการสมัคร โดยคณะวิศวกรรมศาสตร์สอบถาม          ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักบริการหลักสูตรวิศวกรรมนานาชาติ ห้อง 107 ตึก 2 คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โทร. 0-2218-6422-3


         
  คุณสมบัติผู้สมัครคณะเศรษฐศาสตร์
          1.สำหรับผู้ที่มีสัญชาติไทยหรือมิใช่สัญชาติไทยที่สำเร็จการศึกษาหรือกำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6หรือเทียบเท่า ในระบบการศึกษาของประเทศไทยตามหลักสูตรกระทรวงศึกษาธิการ หรือโรงเรียนนานาชาติภายในประเทศ หรือผู้สมัครสัญชาติไทยที่สำเร็จการศึกษาหรือกำลังศึกษาอยู่ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่าในต่างประเทศต้องยื่นเอกสารตามหัวข้อคุณสมบัติให้ครบ 3 ข้อ โดยต้องผ่านอย่างน้อย 2 ข้อ ดังนี้
          1.1มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย (GPAX) ต้องแต่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6หรือเทียบเท่าไม่ต่ำกว่า 3.25 หรือเทียบเท่า โดยต้องมีใบรายงานผลการศึกษา(Transcripts) มาแสดง ในกรณีของผู้สมัครที่เรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายมากกว่า 1 แห่ง ให้ถือ GPAX ของโรงเรียนที่ออกใบจบการศึกษาให้แก่ผู้สมัคร
          1.2มีคะแนนสอบวัดความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้
          - TOEFL Paper –based ไม่ต่ำกว่า 560 หรือ TOEFL Computer –based ไม่ต่ำกว่า 220 หรือ TOEFL Internet –based ไม่ต่ำกว่า 83
          - IELTS ไม่ต่ำกว่า 6.5
          - CU-TEP ไม่ต่ำกว่า 560
          - CU-AAT โดยจะต้องมีคะแนนในส่วนของ Math Section ไม่ต่ำกว่า 580 คะแนนหรือ
          -  SAT1 โดยจะต้องมีคะแนนในส่วนของ Math   ไม่ต่ำกว่า 620 คะแนน
มีคะแนนสอบ A-Level หรือคะแนนสอบเข้ามหาวิทยาลัยของประเทศออสเตรเลีย หรือคะแนนมาตรฐานอื่น ๆ ที่เป็นที่ยอมรับในวิชาคณิตศาสตร์ เกรดA โดยสามารถใช้คะแนนผลการสอบ ทั้ง 1 และ 2  ย้อนหลังไม่เกิน 2 ปี นับถึงวันสุดท้ายของการสมัครกรณียื่นผลสอบ SAT1 Math และ SAT 1 Critical Reading พร้อมกันจะต้องใช้ผลสอบที่มาจากการสอบครั้งเดียวกันเท่านั้น
          2.สำหรับผู้สมัครที่ไม่ใช้สัญชาติไทยและมีถิ่นพำนักในต่างประเทศไม่น้อยกว่า 5 ปีที่สำเร็จการศึกษาหรือกำลังศึกษาอยู่ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่าในต่างประเทศต้องยื่นเอกสารตามหัวข้อคุณสมบัติต่อไปนี้ครบทั้ง 3 ข้อ โดยผ่านคุณสมบัติไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ข้อ ดังนี้
          2.1มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย (GPAX) ตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 หรือเทียบเท่าไม่ต่ำกว่า 3.25 หรือเทียบเท่า โดยต้องในใบรายงานผลการศึกษา(Transcripts) มาแสดง
          2.2จดหมายรับรองจากผู้สอน 2 คน จากสถาบันการศึกษาที่ผู้สมัครสำเร็จการศึกษาปิดผนึกพร้อมลายเซ็นของผู้สอน (2 Letters of Recommendation) จำนวน 2 ฉบับ หรือมีคะแนนสอบวัดความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษที่ระบุ
          2.3มีคะแนนสอบวัดความถนัดทางคณิตศาสตร์อย่างใดอย่างหนึ่งดังนี้
          -CU-AAT (Math Section) ไม่ต่ำกว่า 580 หรือ
          -SAT1(Math) ไม่ต่ำกว่า 620 หรือ มีคะแนนสอบ A-Level หรือคะแนนสอบเข้ามหาวิทยาลัยของประเทศออสเตรเลีย หรือคะแนนมาตรฐานอื่น ๆ ที่เป็นที่ยอมรับในวิชาคณิตศาสตร์เกรด A โดยสามารถใช้คะแนนผลการสอบตามข้อ 1 ,1.2 และ 2.3 ย้อนหลังได้ไม่เกิน 2 ปีนับถึงวันสุดท้ายของการสมัคร ในกรณีที่ยื่นผลสอบ SAT1(Math) และ SAT2(Critical Reading) พร้อมกันจะต้องใช้ผลสอบที่มาจากการสอบครั้งเดียวกันเท่านั้น
          3.เป็นผู้มีความประพฤติดีและยินยอมปฎิบัติตามระเบียบข้อบังคับและกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัยที่มีอยู่แล้ว หรือที่จะมีต่อไปโดยเคร่งครัดทุกประการ  โดยคณะเศรษฐศาสตร์ สามารถสอบถามได้ที่โทร. 0-2218-6135,0-2218-6197


        
  คุณสมบัติผู้สมัครคณะวิทยาศาสตร์
          1.สำหรับผู้สมัครสัญชาติไทยหรือมิใช่สัญชาติไทยที่สำเร็จการศึกษาหรือกำลังศึกษาอยู่ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่าในระบบการศึกษาของประเทศไทยตามหลักสูตรกระทรวงศึกษาธิการ หรือโรงเรียนนานาชาติภายในประเทศ หรือผู้สมัครสัญชาติไทยที่สำเร็จการศึกษา หรือกำลังศึกษาอยู่ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่าในต่างประเทศต้องยื่นเอกสารตามหัวข้อคุณสมบัติต่อไปนี้ครบทั้ง 4 ข้อ โดยผ่านคุณสมบัติไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ข้อ ดังนี้
          1.มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย(GPAX) ตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 หรือเทียบเท่าไม่ต่ำกว่า 2.75 หรือเทียบเท่า โดยต้องมีใบรายงานผลการศึกษา (Transcripts) มาแสดง ในกรณีของผู้สมัครที่เรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายมากกว่า 1 แห่ง ให้ถือ GPAX ของโรงเรียนที่ออกใบจบการศึกษาให้แก่ผู้สมัคร
          2.มีคะแนนสอบวัดความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้
          -TOEFL Paper –based ไม่ต่ำกว่า 550 หรือ TOEFL Computer –based ไม่ต่ำกว่า 213 หรือ TOEFL Internet –based ไม่ต่ำกว่า 79
          - IELTS ไม่ต่ำกว่า 6.0
          -CU-TEP ไม่ต่ำกว่า 550
          -CU-AAT โดยจะต้องมีคะแนนในส่วนของ Verbal Section ไม่ต่ำกว่า 400 คะแนนหรือ
          -SAT1 โดยจะต้องมีคะแนนในส่วนของ Critical Reading ไม่ต่ำกว่า 400 คะแนน
ในการยื่นคะแนนผลการทดสอบ CU-AAT หรือ SAT1 จะต้องเป็นคะแนนที่มาจากการสอบครั้งเดียวกัน โดยสามารถใช้คะแนนผลการสอบตามข้อ 2-3 ยอ้นหลังไม่เกิน 2 ปี นับถึงวันสุดท้ายของการสมัคร
          -มีคะแนนสอบวัดความถนัดทางวิทยาศาสตร์อย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้ CU-ATS  คะแนนเฉพาะรายวิชาเคมี ไม่ต่ำกว่า 320 หรือแบบทดสอบอื่น ๆ ที่วัดความถนัดทางเคมีที่จัดสอบโดยศูนย์ทดสอบทางวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยไม่ต่ำกว่า 320  โดยสามารถใช้คะแนนผลการสอบย้อนหลังไม่เกิน 2 ปีนับถึงวันสุดท้ายของการรับสมัคร
          2.สำหรับผู้สมัครที่มิใช่สัญชาติไทย ที่สำเร็จการศึกษาหรือกำลังศึกษาอยู่ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่าในต่างประเทศต้องยื่นเอกสารตามหัวข้อคุณสมบัติต่อไปนี้ครบทั้ง 4 ข้อ โดยผ่านคุณสมบัติไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ข้อดังนี้
          1.มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย (GPAX) ตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 หรือเทียบเท่าไม่ต่ำกว่า 2.75 หรือเทียบเท่า โดยต้องมีใบรายงานผลการศึกษา (Transcripts) มาแสดง
          2. มีจดหมายรับรองจากผู้สอน 1 ฉบับ และผู้อำนวยการหรืออาจารย์ใหญ่ หรืออาจารย์ที่ปรึกษา 1 ฉบับ จากสถาบันการศึกษาที่ผู้สมัครสำเร็จการศึกษาหรือกำลังศึกษาอยู่(2 Letter of Recommendation) รวม 2 ฉบับหรือสอบผ่านความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษตามข้อ 1
          3.มีคะแนนสอบวัดความถนัดทางคณิตศาสตร์อย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้
          -CU-AAT(Math Section) ไม่ต่ำกว่า 450 หรือ SAT1 (Math) ไม่ต่ำกว่า 450 
          4.มีคะแนนสอบวัดความถนัดทางวิทยาศาสตร์อย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้
          - CU-ATS  คะแนนเฉพาะรายวิชาเคมี ไม่ต่ำกว่า 320 หรือแบบทดสอบอื่น ๆ ที่วัดความถนัดทางเคมีที่จัดสอบโดยศูนย์ทดสอบทางวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยไม่ต่ำกว่า 320  โดยสามารถใช้คะแนนผลการสอบย้อนหลังไม่เกิน 2 ปีนับถึงวันสุดท้ายของการรับสมัคร
          5.เป็นผู้มีความประพฤติดีและยินยอมปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับและกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัยที่มีอยู่แล้ว หรือที่จะมีต่อไปโดยเคร่งครัดทุกประการ ผู้ที่สนใจขอรับใบสมัครได้ที่หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาเคมีประยุกต์(หลักสูตรนานาชาติ) BSAC International Office ห้อง 1122 ชั้น 11 อาคารมหามงกุฎ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โทร. 0-2218-7600-1 หรือดาวน์โหลดใบสมัครจากเว็บไซต์
http://www.chemistry.sc.chula.ac.th/BASC
          คุณสมบัติผู้สมัครคณะสถาปัตยกรรม
          1.เป็นผู้สมัครสัญชาติไทยหรือมิใช่สัญชาติไทย ที่สำเร็จการศึกษา หรือกำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า ดังนี้
          1.1ในระบบการศึกษาของประเทศไทย ตามหลักสูตรกระทรวงศึกษาธิการ หรือระบบการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ(EP Program)หรือระบบการเรียนการสอนสองภาษา(Bilingual Program) หรือ
          1.2ในระบบการศึกษานานาชาติ ในโรงเรียนนานาชาติในประเทศไทย หรือ
          1.3ในระบบการศึกษานานาชาติ ในโรงเรียนนานาชาติในต่างประเทศ
          2.เป็นผู้สมัครที่มิใช่สัญชาติไทยที่มีถิ่นพำนักในต่างประเทศไม่ต่ำกว่า 6 ปี ที่สำเร็จการศึกษาหรือกำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่าในระบบการศึกษานานาชาติในต่างประเทศ ต้องมีคะแนนสอบตามหัวข้อครบทั้ง 3 โดยผ่านคุณสมบัติไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ข้อ ดังนี้
          2.1มีคะแนนสอบวัดความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้
          -TOEFL Paper-based ไม่ต่ำกว่า 550 หรือ Computer-based ไม่ต่ำกว่า 213 หรือInternet –based ไม่ต่ำกว่า 79 หรือ IELTS ไม่ต่ำกว่า 6.0 หรือ SAT1 Critical Reading ไม่ต่ำกว่า 400 หรือ  CU-AAT Verbal Section ไม่ต่ำกว่า 400 หรือ CU-TEP ไม่ต่ำกว่า 550
          2.2มีคะแนนสอบวัดความถนัดทางคณิตศาสตร์อย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้
          -CU-AAT Math Section ไม่ต่ำกว่า 600 หรือ SAT1 Math ไม่ต่ำกว่า 600
มีคะแนนสอบเข้ามหาวิทยาลัยของออสเตรเลีย หรือประเทศนิวซีแลนด์ หรือคะแนนมาตรฐานในการศึกษาระบบอังกฤษ(A-Level) หรือระบบ International Baccalaureate(IB)  ในวิชาคณิตศาตร์ไม่ต่ำกว่าเกรด B
          2.3 มีคะแนนสอบวัดความถนัดทางวิชาออกแบบของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย CU-TADไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 โดยสามารถใช้คะแนนผลการสอบตามข้อ 2.1 2.2 2.3 ย้อนหลังได้ไม่เกิน 2 ปีนับถึงวันสุดท้ายของการรับสมัครในกรณีที่ยื่นผลคะแนน SAT1 Math SAT1 Critical Reading พร้อมกัน หรือ CU-AAT พร้อมกันจะต้องใช้ผลสอบที่มาจากการสอบครั้งเดียวกันเท่านั้น
          3.เป็นผู้ที่มีความประพฤติดีและยินยอมปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับและกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัยที่มีอยู่แล้ว หรือที่จะมีต่อไปโดยเคร่งครัดทุกประการ หากต้องการสอบถามเพิ่มเติมได้ที่หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการออกแบบสถาปัตยกรรม หลักสูตรนานาชาติ ห้อง 409 ชั้น4 อาคารนารถ โพธิประสาท คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โทร 0-2218-4330


         
 คุณสมบัติผู้สมัครคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์
          1.สำหรับผู้สมัครสัญชาติไทย หรือมิใช่สัญชาติไทยที่สำเร็จการศึกษาหรือกำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า ในระบบการศึกษาของประเทศไทยตามหลักสูตรกระทรวงศึกษาธิการ หรือโรงเรียนนานาชาติภายในประเทศ หรือผู้สมัครชาติไทยที่สำเร็จการศึกษาหรือกำลังศึกษาอยู่ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่าในต่างประเทศและได้ศึกษาระดับมัธยมศึกษาในต่างประเทศเป็นเวลาน้อยกว่า 5 ปี ต้องยื่นเอกสารตามหัวข้อคุณสมบัติต่อไปนี้ครบ 3 ข้อโดยผ่านคุณสมบัติไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ข้อ ดังนี้
          1.มีคะแนนสอบวัดความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้
          -TOEFL Paper-based ไม่ต่ำกว่า 550 หรือ Conputer-based ไม่ต่ำกว่า 213 หรือ Internet-based ไม่ต่ำกว่า 79  IELTS ไม่ต่ำกว่า 6.0 หรือ SAT1 Critical Reading ไม่ต่ำกว่า 400 หรือ CU-AAT Verbal Section ไม่ต่ำกว่า 400 หรือ CU-TEP ไม่ต่ำกว่า 550
          -มีคะแนนสอบวัดความถนัดทางคณิตศาสตร์อย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้ CU-AAT Math Section ไม่ต่ำกว่า 450 หรือ SAT1Math ไม่ต่ำกว่า 450 หรือคะแนน A-Level หรือคะแนนสอบเข้ามหาวิทยาลัยของประเทศออสเตรเลีย หรือคะแนนมาตรฐานอื่น ๆ ที่เป็นที่ยอมรับในวิชาคณิตศาสตร์ เกรด B
          -มีคะแนนสอบวัดความถนัดทางด้านการออกแบบของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย CU-TAD ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40  โดยคะแนนวัดผลการทดสอบย้อนหลังไม่เกิน 2 ปีนับถึงวันสุดท้ายของการรับสมัคร กรณีที่ยื่นผลสอบ SAT1 Math และ SAT1 Critical Reading พร้อมกันหรือ CU-AAT Math Section และ CU-AAT Verbal Section พร้อมกันจะต้องใช้ผลสอบที่มาจากการสอบครั้งเดียวกันเท่านั้น
          2.สำหรับผู้สมัครที่ไม่ใช่สัญชาติไทย และมีถิ่นพำนักในต่างประเทศไม่น้อยกว่า 5 ปีที่สำเร็จการศึกษาหรือกำลังศึกษาอยู่ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่าในต่างประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักในการเรียนการสอน หรือเป็นผู้สมัครสัญชาติไทยที่สำเร็จการศึกษาหรือกำลังศึกษาอยู่ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า และได้ศึกษาระดับมัธยมศึกษาในต่างประเทศมาไม่น้อยกว่า 5 ปีในโรงเรียนที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลังในการเรียนการสอน ต้องยื่นเอกสารตามหัวข้อคุณสมบัติต่อไปนี้ให้ครบทั้ง 3 ข้อ โดยผ่านคุณสมบัติไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ข้อ ดังนี้
          2.1จดหมายรับรองจากอาจารย์ผู้สอน 2 คน จากสถาบันการศึกษาที่ผู้สมัครกำลังศึกษาอยู่หรือสำเร็จการศึกษา ปิดผนึกพร้อมลายเซ็นของผู้สอน จำนวน 2 ฉบับ (2 Letter of Recommendation)หรือมีคะแนนสอบวัดความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษตามข้อ 1
          2.2 มีคะแนนสอบวัดความถนัดทางคณิตศาสตร์อย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้
          -CU-AAT Math Section ไม่ต่ำกว่า 450 หรือ
          -SAT1 Math ไม่ต่ำกว่า 450 หรือมีคะแนน A-Level หรือคะแนนสอบเข้ามหาวิทยาลัยของประเทศออสเตรเลีย หรือคะแนนมาตรฐานอื่น ๆ ที่เป็นที่ยอมรับในวิชาคณิตศาสตร์เกรด B
          2.3มีคะแนนสอบวัดความถนัดทางด้านการออกแบบของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย CU-TAD ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40 โดยคะแนนวัดความรู้สามารถใช้ย้อนหลังได้ไม่เกิน 2 ปีนับถึงวันสุดท้ายของการรับสมัคร
          3.เป็นผู้ที่มีความประพฤติดีและยินยอมปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับและกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัยที่มีอยู่แล้ว หรือที่จะมีต่อไปโดยเคร่งครัด


         
 หลักฐานการสมัคร
          1.รูปถ่าย
          2.ใบรายงานผลการศึกษา
          3.ผลการทดสอบวัดความรู้
          4.ใบรับรองสถานภาพการเป็นนักเรียนจากสถานศึกษา(สำหรับผู้ที่กำลังศึกษาอยู่)
          5.สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนหรือสำเนาหนังสือเดินทาง(กรณีเป็นชาวต่างชาติ)
          6.หนังสือมอบฉันทะการสมัครจากผู้สมัคร พร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบฉันทะ หรือสำเนาหนังสือเดินทางของผู้รับมอบฉันทะ(กรณีเป็นชาวต่างชาติ)จำนวน 1 ชุด
          7.แฟ้มผลงาน(Portfolio) ขนาด A4 มีความหนาไม่เกิน 1 นิ้ว ที่สร้างสรรค์ด้วยตนเอง ด้านศิลปะ งานฝีมือ และงานการออกแบบ
          8.เจตจำนงของการศึกษาเป็นความเรียงภาษาอังกฤษ 2 ฉบับ ในห้วข้อ Personal Statement และ Intellectual Interest ความยาวประมาณ 500 คำ
          9.สำเนาหลักฐานการโอนเงินค่าธรรมเนียมการนสมัคร พร้อมเขียนชื่อ-นามสกุลให้ชัดเจน(กรณีโอนเงินผ่านธนาคาร)
          สนใจสอบถามข้อมูลการรับสมัครสาขาวิชาการออกแบบนิเทศศิลป์ หลักสูตรนานาชาติ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์  ที่ชั้น 1 อาคารเลิศ อุรัสยะนันทน์ ภาควิชาการออกแบบอุตสาหกรรม โทร. 0-2218-4494 เว้นวันหยุดราชการ





ที่มา  eduzones logo

วิทยาการคอมฯ ราม รับตรง ถึง 21 เม.ย.





โครงการภาคพิเศษ หลักสูตร วิทยาศาสตรบัณฑิตสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ (ต่อเนื่อง) หลักสูตรปรับปรุง พุทธศักราช 25 51
รับสมัครนักศึกษาใหม่ รุ่นที่ 10
ประจำปีการศึกษา 2553

ติดต่อขอใบสมัครและรับสมัคร ตั้งแต่บัดนี้ 21 เม.ย. 53

ดาว์นโหลดใบสมัคร

ดาว์นโหลดแผ่นพับ

ค่าใช้จ่าย

 

ติดต่อสอบถาม

ภาควิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง

 

ถนนรามคำแหง หัวหมาก บางกะปิ กรุงเทพฯ 10240

 

โทร . 0-23108406 0-23108410-11 ต่อ 112 (www.sci.ru.ac.th )

 


การคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันพระบรมราชชนก กระทรวงสาธารณสุขประจำปีการศึกษา ๒๕๕๓ ในระบบรับตรง



การคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันพระบรมราชชนก กระทรวงสาธารณสุขประจำปีการศึกษา ๒๕๕๓ ในระบบรับตรง





ที่มา  eduzones logo

Web design ชิงทุนฯ ไทย-ญี่ปุ่น



   
      คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ สถาบันเทคโนโลยีไทยญี่ปุ่น จัดโครงการประกวด Web  design contest & Multimedia Animation (2D) Contest    เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์หลักสูตรใหม่  จากเดิมที่มีเพียงหลักสูตรเดียว คือ หลักสูตรเทคโนโลยีสารสนเทศ

         ส่วนหลักสูตรที่เปิดใหม่เพิ่มเติม 2 หลักสูตร คือ หลักสูตรเทคโนโลยีมัลติมีเดียและ หลักสูตรระบบสารสนเทศทางธุรกิจ   ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้นักเรียนมัธยมปลายหรืออาชีวศึกษาได้พัฒนาความรู้ความสามารถของตนเองในการออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์ ตลอดจนนำเทคนิคต่าง ๆ   ที่มีอยู่ออกมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด    

           สำหรับวันและเวลาในการประกวดคือ  วันศุกร์ที่ 5 กุมภาพันธ์  2553  เวลา 9:00-12:00 น. ที่คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ   สถาบันเทคโนโลยี ไทย  ญี่ปุ่น  สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  02-763-2600 ต่อ  2740 2713  หรือ  www.tni.ac.th


ที่มา  eduzones logo

เกษตรฯ สกลนคร รับตรง ถึง 31 มี.ค.


               


คณะศิลปศาสตร์และวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสกลนคร หนึ่งในวิทยาเขตของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้เปิดรับสมัครบุคคลเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี ภาคพิเศษ 2 หลักสูตร คือ
หลักสูตร
 บัญชีบัณฑิต  และ หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต(การจัดการ)

โครงการปริญญาตรีภาคพิเศษ หลักสูตรบัญชีบัณฑิตและหลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต (การจัดการ)
1. ประวัติความเป็นมา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสกลนคร   นับเป็นวิทยาเขตแห่งที่ ของมหาวิทยาลัย ได้จัดตั้งขึ้นเพื่อสนองนโยบายของรัฐบาลในการกระจายโอกาสทางการศึกษาระดับอุดมศึกษาสู่ภูมิภาค ของประเทศไทย เพื่อเป็นการสนองปณิธานของมหาวิทยาลัย ทางคณะศิลปศาสตร์และวิทยาการจัดการ จึงเปิดทำการเรียนการสอน เพื่อทำหน้าที่ผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพเข้าสู่สังคม จึงได้เปิดทำการเรียนการสอนเพิ่มเติมในหลักสูตรภาคพิเศษ หลักสูตร
􀂃 หลักสูตรบัญชีบัณฑิต (บช.)
หลักสูตรมุ่งเน้นศึกษาด้านการบัญชี การบัญชีเพื่อการบริหาร การสอบบัญชี การตรวจสอบภายใน รวมทั้งระบบสารสนเทศทางการบัญชี การนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้กับงานบัญชี รวมถึงการใช้ข้อมูลระบบสารสนเทศทางการบัญชีเพื่อตัดสินใจทางธุรกิจ เพื่อให้บัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปประกอบวิชาชีพได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตามมาตรฐานวิชาชีพการบัญชี รวมถึงมีจริยธรรมและจรรยาบรรณในการประกอบวิชาชีพ
แนวทางประกอบอาชีพ
พนักงานในองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน ในตำแหน่ง นักบัญชี สมุห์บัญชี ผู้ตรวจสอบภายใน ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต ผู้สอบบัญชีภาษีอากร ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีอากร ที่ปรึกษาทางการบัญชี และงานที่เกี่ยวข้องกับระบบสารสนเทศทางการบัญชี
􀂃 หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต (การจัดการ)
หลักสูตรมุ่งเน้นการศึกษาการบริหารการจัดการ การกำหนดนโยบายธุรกิจ การวางแผนและจัดการเชิงกลยุทธ์ระดับต่างๆ ในองค์กร การบริหารโครงการ การพัฒนาความคิดเชิงระบบให้นิสิต ในการแก้ปัญหา การตัดสินใจตามสถานการณ์การเรียนรู้การบริหารสมัยใหม่ (Modern Management) เพื่อให้มีทักษะการเป็นนักบริหาร สามารถไปประกอบธุรกิจส่วนตัว หรือเป็นนักบริหารที่มีจรรยาบรรณในองค์การธุรกิจ
แนวทางประกอบอาชีพ
ประกอบการธุรกิจส่วนตัว เจ้าหน้าที่ฝ่ายงานบริหารองค์การธุรกิจทั้งภาครัฐบาลและเอกชน ผู้รับผิดชอบการกำหนดนโยบาย การวางระบบงานของบริษัท การวางแผน กลยุทธ์ และแนวทางการดำเนินงานของบริษัท
􀂃 จุดเด่นของหลักสูตร
1. คณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิ จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (วิทยาเขตบางเขนรวมทั้งคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิจากสถาบันที่มีชื่อเสียงจำนวนมาก และผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์โดยตรง เฉพาะสาขา จากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่มีชื่อเสียง
2. ใช้หลักสูตรมาตรฐานเดียวกับ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (วิทยาเขตบางเขนดังนั้นบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษามีศักดิ์และสิทธิ์เทียบเท่ากัน โดยจะเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร ณ วิทยาเขตบางเขน และได้รับใบปริญญาจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
3. กิจกรรมเสริมหลักสูตร อาทิ โครงการสหกิจศึกษา เน้นการปฏิบัติงานจริงในสถานประกอบการเป็นระยะเวลากว่า เดือน การฝึกงานในสถานประกอบการในช่วงปิดภาคการศึกษา โครงการประกวดแผนธุรกิจ โครงการทัศนศึกษา โครงการพัฒนาทักษะทางภาษาและเทคโนโลยีสารสนเทศ โครงการสัมมนาต่าง ๆ โครงการแลกเปลี่ยนนิสิตไทย-อเมริกา โครงการพี่บัณฑิตแนะแนวการทำงานแก่รุ่นน้อง การส่งเสริมนิสิตเข้าแข่งขันทักษะวิชาชีพ เป็นต้น
􀂃 คุณสมบัติผู้สมัคร
เป็นผู้สำเร็จการศึกษา หรือกำลังศึกษาในชั้นปีสุดท้ายและคาดว่าจะจบการศึกษา ในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือ ระดับปวช. / ปวสทุกสาขา หรือเทียบเท่า
􀂃 กำหนดการ
กำหนดการรับสมัคร มกราคม ถึง 31 มีนาคม 2553
ประกาศผลผู้มีสิทธิ์สอบ เมษายน 2553
สอบคัดเลือก (สอบสัมภาษณ์) 19 เมษายน 2553
ประกาศผลผู้มีสิทธิ์เข้าศึกษา 19 เมษายน 2553
ยืนยันสิทธิ์เข้าศึกษา ชำระเงินภายในวันที่ 23 เมษายน 2553
􀂃 ค่าธรรมการศึกษา
ค่าธรรมเนียมการศึกษาประมาณ 22,500 บาท ต่อภาคการศึกษา
มีเงินกู้เพื่อการศึกษา(กยศ.)
มีทุนการศึกษาสำหรับนิสิตขาดแคลนทุนทรัพย์
ยกเว้นค่าธรรมการศึกษาสำหรับผู้เรียนดีตามระเบียบมหาวิทยาลัย
ผู้สนใจสามารถยื่นใบสมัครตามช่องทางดังนี้
􀂃 ยื่นใบสมัครด้วยตนเองได้ที่คณะฯ (ห้องธุรการ คณะชั้น อาคารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีพร้อมชำระค่าสมัคร 200 บาท
􀂃 ส่งทางไปรษณีย์ตามที่อยู่ข้างล่างพร้อมโอนเงินค่าสมัคร 200 บาท เข้าหมายเลขบัญชี 446-1-07347-1 ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ชื่อบัญชีโครงการปริญญาตรีภาคพิเศษ พร้อมแนบ
เอกสารหลักฐาน ดังนี้
1. ใบสมัคร ฉบับ
2. รูปถ่ายขนาด นิ้ว รูป
3. สำเนาบัตรประชาชน ฉบับ
4. สำเนาผลการเรียน ฉบับ
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
หมายเลขโทรศัพท์ 0-4272-5039 , 086-8864594 (คุณวรสิทธิ์ วงศ์อดิศัย)หมายเลขโทรสาร 0-4272-5040
http://fam.csc.ku.ac.th

ขั้นตอนการปฏิบัติเพื่อสมัครเข้าศึกษาต่อ ในโครงการปริญญาตรี(ภาคพิเศษ)
1.สมัครได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปที่ คณะศิลปศาสตร์และวิทยาการจัดการ
2. ดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่ ลิงค์ด้านล่างนี้
ใบสมัครเข้าศึกษาต่อโครงการปริญญาตรี(ภาคพิเศษ)
3.ชำระค่าธรรมเนียมได้ที่บัญชีรายการด้านล่างนี้
ใบขำระค่าธรรมเนียม(ธนาคารกรุงศรีอยุธยา)
เอกสารเพิ่มเติม
แผ่นโปสเตอร์ประชาสัมพันธ์โครงการปริญญาตรีภาคพิเศษ
สำหรับการสมัครเข้าศึกษาโครงการปริญญาโท(ภาคพิเศษ)
โปรดติดตามได้ที่ลิงค์นี้
โครงการปริญญาโท(ภาคพิเศษ)

ที่มา คณะศิลปศาสตร์และวิทยาการจัดการhttp://fam.csc.ku.ac.th/
loading...

Facebook

นิยม

บทความ

loading...