เผยนโยบายดันมหาวิทยาลัยติดอันดับ 1ใน3 พร้อมดึงจิตวิญญาณธรรมศาสตร์กลับคืน ให้ทุกคนมีเสรีภาพคู่คุณธรรม
วันนี้ ( 1 ต.ค.) ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์(มธ.) ท่าพระจันทร์ คณะกรรมการสรรหา อธิการบดีมธ. จัดแถลงแนวทางการบริหารมหาวิทยาลัย ของผู้ตอบรับการทาบทามเข้ารับการสรรหาอธิการบดี จำนวน 2 คน คือ รศ.ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัตน์ อดีตคณบดีวิทยาลัยนวัตกรรม และอาจารย์ประจำคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี และ ศ.ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ อาจารย์คณะนิติศาสตร์ และรองอธิการบดีฝ่ายการคลัง เพื่อจะมาดำรงตำแหน่งแทนศ.ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ ที่จะหมดวาระในวันที่ 25 ต.ค.นี้ ซึ่งมีประชาคมมธ.เข้ารับฟังประมาณ 50 คน
โดย รศ.ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ กล่าวว่า แนวทางในการบริหารมหาวิทยาลัย 3 เรื่องคือ 1.สร้างโดมในดวงใจ เด็กไทยทั้งชาติ คือ การทำให้เด็กเก่ง ดีมาเรียนที่มธ. เพื่อเด็กมีความเข้มแข็ง พากเพียร คิด วิเคราะห์ ทำงานเป็น และเมื่อจบออกจะได้เป็นที่พึ่งของสังคม 2.มุ่งพัฒนาอาจารย์ บุคลากรของมหาวิทยาลัย โดยตั้งศูนย์พัฒนาการเรียนการสอน ทำหน้าที่พัฒนาคุณภาพอาจารย์ บุคลากร ฝึกอบรม ให้รู้จักวิธีการสอน เทคโนโลยีใหม่ๆ และ 3.วางรากฐานงานวิจัย โดยการบูรณาการความรู้ทั้งสังคมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสุขศาสตร์
“ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ถือเป็นมหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง ทำให้หลายคนมองว่าธรรมศาสตร์ หรืออธิการบดีจะเล่นการเมือง ผมยืนยันหากได้เป็นอธิการบดีจะไม่เล่นการเมือง และไม่ใช้ธรรมศาสตร์ เป็นบันไดก้าวสู่ตำแหน่งทางการเมือง แต่จะรักษานโยบายธรรมศาสตร์การเมืองให้เกิดขึ้นจริง สร้างความสามัคคี ปกป้องระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เพื่อให้ธรรมศาสตร์ เป็นสัญลักษณ์พิทักษ์ธรรมของสังคมไทยต่อไป”รศ.ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ กล่าว
ศ.ดร. สมคิด กล่าวว่า ตนจะผลักดันให้มธ.เป็นมหาวิทยาลัย 1 ใน3อันดับต้นๆ ของประเทศ ซึ่งไม่ยากโดยนำตัวชี้วัดในการจัดอันดับมาวิเคราะห์และพัฒนามหาวิทยาลัยให้ ตรงตามตัวชี้วัด ก็สามารถมุ่งสู่อันดับต้นๆ ได้ แต่ตนไม่แน่ใจว่าการไปสู่อันดับนั้นจะทำให้มุ่งเน้นการดึงจิตวิญญาณธรรม ศาสตร์หรือไม่ หากคนได้รับตำแหน่งอธิการบดี จะดึงจิตวิญญาณของธรรมศาสตร์กลับคืนมา ให้ทุกคนมีเสรีภาพ สร้างบุคลากรที่มีความรู้คู่คุณธรรม และในวาระที่มธ.ครบ 77 ปี เพื่อให้ธรรมศาสตร์เป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของประชาชนและคนยากไร้ นอกจากนี้ตนตั้งใจสืบสานจิตวิญญาณธรรมศาสตร์ ทดแทนบุญคุณที่ธรรมศาสตร์ให้ที่เรียนและที่ทำงานจนถึงทุกวันนี้ และจะผลักดันให้มธ.เป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุด และให้ความสำคัญ งานวิจัยเพราะเป็นหลักของการพัฒนามธ.”ศ.ดร.สมคิด กล่าว
แหล่งข่าวระดับสูงใน มธ.กล่าวว่า คณะกรรมการสรรหาได้ลงมติโหวตเลือกผู้ที่เหมาะสมเป็นอธิการบดี โดยศ.ดร.สมคิดได้ 8 คะแนน ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ ได้ 4 คะแนน และมีงดออกเสียง 1 คะแนน ดังนั้นเมื่อเสียงคะแนนเสียง ไม่เป็นเอกฉันท์ คณะกรรมการสรรหาฯจึงมีมติเสนอทั้ง 2 รายชื่อ แต่เรียงลำดับตามผลคะแนน ให้กรรมการสภามหาวิทยาลัย พิจารณา ซึ่งแนวปฏิบัติทั่วไปของกรรมการสภามหาวิทยาลัย จะพิจารณาเลือกรายชื่อในลำดับที่ 1 เป็นอธิการบดีมธ.
ด้านผศ.ดร.วิทวัส ศตสุข อาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ มธ. ในฐานะเลขานุการคณะกรรมสรรหาอธิการบดี มธ. กล่าวว่า หลังจากรับฟังแถลงแนวทางการบริหารมหาวิทยาลัยของทั้ง 2 คนแล้ว จากนี้จะเสนอทั้ง 2 รายชื่อแต่จัดลำดับรายชื่อผู้เหมาะสม เพื่อให้กรรมการสภามหาวิทยาลัยพิจารณาตัดสินว่าจะเลือกใครเป็นอธิการบดี มธ.คนใหม่ ในวันที่ 18 ตุลาคม นี้
ที่มา ข่าว: เดลินิวส์
วันนี้ ( 1 ต.ค.) ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์(มธ.) ท่าพระจันทร์ คณะกรรมการสรรหา อธิการบดีมธ. จัดแถลงแนวทางการบริหารมหาวิทยาลัย ของผู้ตอบรับการทาบทามเข้ารับการสรรหาอธิการบดี จำนวน 2 คน คือ รศ.ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัตน์ อดีตคณบดีวิทยาลัยนวัตกรรม และอาจารย์ประจำคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี และ ศ.ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ อาจารย์คณะนิติศาสตร์ และรองอธิการบดีฝ่ายการคลัง เพื่อจะมาดำรงตำแหน่งแทนศ.ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ ที่จะหมดวาระในวันที่ 25 ต.ค.นี้ ซึ่งมีประชาคมมธ.เข้ารับฟังประมาณ 50 คน
โดย รศ.ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ กล่าวว่า แนวทางในการบริหารมหาวิทยาลัย 3 เรื่องคือ 1.สร้างโดมในดวงใจ เด็กไทยทั้งชาติ คือ การทำให้เด็กเก่ง ดีมาเรียนที่มธ. เพื่อเด็กมีความเข้มแข็ง พากเพียร คิด วิเคราะห์ ทำงานเป็น และเมื่อจบออกจะได้เป็นที่พึ่งของสังคม 2.มุ่งพัฒนาอาจารย์ บุคลากรของมหาวิทยาลัย โดยตั้งศูนย์พัฒนาการเรียนการสอน ทำหน้าที่พัฒนาคุณภาพอาจารย์ บุคลากร ฝึกอบรม ให้รู้จักวิธีการสอน เทคโนโลยีใหม่ๆ และ 3.วางรากฐานงานวิจัย โดยการบูรณาการความรู้ทั้งสังคมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสุขศาสตร์
“ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ถือเป็นมหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง ทำให้หลายคนมองว่าธรรมศาสตร์ หรืออธิการบดีจะเล่นการเมือง ผมยืนยันหากได้เป็นอธิการบดีจะไม่เล่นการเมือง และไม่ใช้ธรรมศาสตร์ เป็นบันไดก้าวสู่ตำแหน่งทางการเมือง แต่จะรักษานโยบายธรรมศาสตร์การเมืองให้เกิดขึ้นจริง สร้างความสามัคคี ปกป้องระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เพื่อให้ธรรมศาสตร์ เป็นสัญลักษณ์พิทักษ์ธรรมของสังคมไทยต่อไป”รศ.ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ กล่าว
ศ.ดร. สมคิด กล่าวว่า ตนจะผลักดันให้มธ.เป็นมหาวิทยาลัย 1 ใน3อันดับต้นๆ ของประเทศ ซึ่งไม่ยากโดยนำตัวชี้วัดในการจัดอันดับมาวิเคราะห์และพัฒนามหาวิทยาลัยให้ ตรงตามตัวชี้วัด ก็สามารถมุ่งสู่อันดับต้นๆ ได้ แต่ตนไม่แน่ใจว่าการไปสู่อันดับนั้นจะทำให้มุ่งเน้นการดึงจิตวิญญาณธรรม ศาสตร์หรือไม่ หากคนได้รับตำแหน่งอธิการบดี จะดึงจิตวิญญาณของธรรมศาสตร์กลับคืนมา ให้ทุกคนมีเสรีภาพ สร้างบุคลากรที่มีความรู้คู่คุณธรรม และในวาระที่มธ.ครบ 77 ปี เพื่อให้ธรรมศาสตร์เป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของประชาชนและคนยากไร้ นอกจากนี้ตนตั้งใจสืบสานจิตวิญญาณธรรมศาสตร์ ทดแทนบุญคุณที่ธรรมศาสตร์ให้ที่เรียนและที่ทำงานจนถึงทุกวันนี้ และจะผลักดันให้มธ.เป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุด และให้ความสำคัญ งานวิจัยเพราะเป็นหลักของการพัฒนามธ.”ศ.ดร.สมคิด กล่าว
แหล่งข่าวระดับสูงใน มธ.กล่าวว่า คณะกรรมการสรรหาได้ลงมติโหวตเลือกผู้ที่เหมาะสมเป็นอธิการบดี โดยศ.ดร.สมคิดได้ 8 คะแนน ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ ได้ 4 คะแนน และมีงดออกเสียง 1 คะแนน ดังนั้นเมื่อเสียงคะแนนเสียง ไม่เป็นเอกฉันท์ คณะกรรมการสรรหาฯจึงมีมติเสนอทั้ง 2 รายชื่อ แต่เรียงลำดับตามผลคะแนน ให้กรรมการสภามหาวิทยาลัย พิจารณา ซึ่งแนวปฏิบัติทั่วไปของกรรมการสภามหาวิทยาลัย จะพิจารณาเลือกรายชื่อในลำดับที่ 1 เป็นอธิการบดีมธ.
ด้านผศ.ดร.วิทวัส ศตสุข อาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ มธ. ในฐานะเลขานุการคณะกรรมสรรหาอธิการบดี มธ. กล่าวว่า หลังจากรับฟังแถลงแนวทางการบริหารมหาวิทยาลัยของทั้ง 2 คนแล้ว จากนี้จะเสนอทั้ง 2 รายชื่อแต่จัดลำดับรายชื่อผู้เหมาะสม เพื่อให้กรรมการสภามหาวิทยาลัยพิจารณาตัดสินว่าจะเลือกใครเป็นอธิการบดี มธ.คนใหม่ ในวันที่ 18 ตุลาคม นี้
ที่มา ข่าว: เดลินิวส์
