ปรับตัว เตรียมใจ ให้เป็น Freshy ที่น่ารัก
ถือ ว่าเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของชีวิตเราเหมือนกัน ที่เราก็ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าหนทางข้างหน้าจะลำบากแค่ไหนหรือสดใสเพียงใด เรารู้แค่เพียงเราต้องสอบเข้ามหา’ลัยในฝันของเราให้ได้ เรียนแค่ 4 ปีเองจิ๊บจ๊อยมาก แต่ไอ้เรื่องจิ๊บจ๊อยแบบนี้แหละ ที่ทำให้หลายๆคนถึงกับน้ำตาตกในมานักต่อนักแล้ว เพราะการที่เราจะก้าวจากเด็กกระโปรงบานขาสั้น มาเป็นนักศึกษาในรั้วมหา’ลัยไม่ใช่เรื่องง่ายเลย หากเราไม่รู้จักเตรียมตัวและพร้อมรับมือกับเจ้าปัญหาเหล่านั้นที่กำลังจะตามมา ...
ภาพกิจกรรมรับน้องใหม่ที่น่ารักของม.กรุงเทพ
สิ่งแรกสุดที่สำคัญมากกับน้องๆวัยโจ๋ที่กำลังจะก้าวเข้าสู่รั้วมหา’ลัยก็คงจะเป็นเรื่องรู้จักรับผิดชอบหน้าที่ของเรา หมั่นดูว่าตอนนี้มหา’ลัย เค้าเปิดให้ลงทะเบียนหรือยัง เรื่องวิชาที่จะลงทะเบียน ส่วนใหญ่แล้วทางอ.ที่ปรึกษาเค้าจะจัดตารางเรียนมาให้เราเลย เราก็แค่ไปลงทะเบียนให้ถูกต้องและครบถ้วนตรงต่อเวลาก็พอแล้ว ย้ำ ตรงต่อเวลานะไม่งั้นน้องๆจะโดนปรับแน่ๆหรือไม่ก็ลงไม่ทันเพราะคอร์สนั้นที่ จะลงมีคนเรียนเต็มแล้ว น้องๆก็อดเรียนเสียเวลาไปฟรีๆเลยด้วย
ต่อมาก็คงเป็นเรื่องของการตรงต่อเวลา เราต้องรู้จักปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเองให้เป็นเหมือนฝรั่ง ที่เค้าจะตรงต่อเวลามากๆ เพราะการเรียนมหาวิทยาลัย เวลาเรียนจะไม่เหมือนตอนเรียนมัธยม ที่ต้องเข้าเรียนตอนแปดโมงเช้าเลิกสามโมงเย็นนะคะ เรียนมหา’ลัย เค้าก็เหมือนสอนให้เราเป็นผู้ใหญ่ขึ้นโตขึ้น เราเข้ามาเรียนสาย หรือไม่มาเรียนอ.เค้าก็ไม่มาทำโทษเราเหมือนตอนเรียนม.ปลายหรอกคะ เค้าแค่จะมีกฎกติกาไว้เลยว่า วิชานี้ห้ามขาดเรียนเกิน4ครั้ง มาสาย2ครั้งปรับเป็น 1ขาดอะไรประมาณนี้ ซึ่งนั้นแหละ เราต้องรู้จักการตรงต่อเวลาด้วย
การเลือกคบเพื่อนก็ถือว่าเป็นส่วนสำคัญมากที่เราจะใช้ชีวิตในรั้วมหา’ลัยให้ตลอดรอดฝั่งครบ 4 ปี ซึ่งถ้าเราเลือกคบเพื่อนดีก็ถือว่ามีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว แต่นั่นซินะเราจะรู้ได้ไงว่าเพื่อนคนไหนดีหรึไม่ดี เรา ก็ไม่จำเป็นต้องเลือกเพื่อนเรียนเก่ง เลิศเลอเพอร์เฟคอะไรมากมายขนาดนั้นหรอกนะ เราก็แค่เอาวจารณญาณอันฉลาดหลักแหลมที่เรามีอาจจะน้อยนิดก็ตาม มาพิจรณาไตร่ตรองดูว่า เพื่อนคนนี้เค้าตั้งใจเรียนไหม? ไม่ใช่แบบว่าชวนเมาท์แหลกเวลาที่อ.สอนทำให้เราเรียนไม่รู้เรื่องไปด้วย ชอบชวนเราไปเที่ยวเล่นในเวลาที่ต้องมีคลาสเรียนหรึป่าว? เวลาส่งงานหรือมีการบ้านช่วยเตือนกันบ้างอะไรบ้าง เวลาจะสอบมาจับกลุ่มติวกัน อะไรแค่นี้มันก็เพียงพอที่จะน่าคบหาแล้ว แต่ถ้าอะไรที่มันซีเรียสมากเกินไปก็อาจจะทำให้เราเบื่อหน่ายสมองโตตัวรีบไป เลยก็ได้น้า ...
สุดท้าย ก็คงจะเป็นเรื่องหลงระเริงกับความอิสระในชีวิตนักศึกษา สำหรับน้องปี 1 ที่ เข้ามาเป็นเฟรชชี่ในรั้วมหาวิทยาลัยต่างๆก็มักจะมีกิจกรรมมากมายให้สนุกสนาน ไม่ว่าจะเป็น กิจกรรมรับน้อง เลือกพี่รหัสน้องรหัส ดาวเดือน กีฬามหา’ลัย และอื่นๆอีกมากมาย จนทำให้เราลืมไปเรียน มัวแต่บ้ากิจกรรม หนำซ้ำเพื่อนๆยังชวนออกช็อปปิ้ง ดูหนัง เล่นเกมส์หน้ามอ นั้นแหละคะเป็นสัญาณร้ายที่จะทำให้เวลาสอบทำไม่ได้ เรียนก็ไม่ทัน เวลาเรียนก็ไม่ครบ
แต่ถ้ารารู้จักใช้ความอิสระอย่างมีขอบเขตแล้วละก็..ปัญหาทุกอย่างเคลียร์หมด...ที่มา