ประชาสัมพันธ์

วิธีอ่านหนังสือสอบให้เข้าสมอง (บ้างก็ยังดีนะ...)

เรื่องโดย: Bluemoon
ภาพโดย:
BellBell (ชอบภาพประกอบก็ไปดูที่บล็อกเจ้าตัวได้นะคะ โฆษณาซะหน่อย ฮี้กับๆ)

สวัสดีท่านผู้อ่าน
เนื่องจากหนีหายตายจาก
(ยัง!) ไปมีภารกิจฟิชโช่ต่างๆ มากมาย (จริงๆ คือไม่มีเรื่องจะอัป)
บวกกับมีสอบ
(ที่ทำไม่ได้ไปตัว และก็ทำได้ไปตัว เฉลี่ยๆ กันก็กลางๆ พอดี )

นึกขึ้นมาได้ว่าหลายๆ คนก็อาจจะกำลังเตรียมตัวสอบ
กำลังสอบ หรือว่าสอบเสร็จไปแล้วเช่นเดียวกัน

สำหรับคนที่อ่านหนังสือยังไงก็ไม่เข้าใจ
สำหรับคนที่หนังสือเรียนเหมือนยานอนหลับชั้นยอด
สำหรับคนที่หนังสือเรียนเหมือนยาพิษ ชีวิตดิ่งลงเหว
(เวอร์ละ)

มูนชายน์ส ไดเร็ค ขอเสนอออออออ

วิธีอ่านหนังสือสอบให้เข้าสมองงง (บ้างก็ยังดีนะ)

เอาล่ะ เรามาดูกันเล้ยยยยยยย


1. เล็กเชอร์ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง

ข้าพเจ้าเป็นคนค่อนข้างขี้เกียจ
เพราะฉะนั้นคนขี้เกียจ ควรจะเข้าชั้นเรียนเยอะๆ อย่าอู้ อย่าโดด อย่าหนี
อย่าคิดว่าการเข้าชั้นเรียนก็เป็นการไปฟังหนังสือพูดได้ ไปดูอาจารย์ปิ้งแผ่นใส
(สมัยนี้ยังมีแผ่นใสอีกมั้ย เอาเป็นว่าปิ้งกระดาษบนเครื่องฉายโปรเจกเตอร์ละกันนะ )

เคยคิดอย่างนี้ตอน ปี 1 (โดนรุ่นพี่เสี้ยมสอนว่ามาอ่านเอาเองก็ได้)
แต่ก็ขี้เกียจอ่านหนังสือเองอีก สรุปคือได้เกรดแมวเกรดแมวติดเอดส์มาสนุกสนานมาก
(ทั้งๆ ที่ง่ายแท้ๆ แต่หนูมันแย่ที่แพ้ ป.4 )

การเข้าชั้นเรียน
(ที่ถึงแม้อาจารย์จะสอนตามหนังสือก็เถอะ)
มันก็เป็นการรับความรู้เข้าสมองอีกแบบของเรา
(โดยที่เราไม่ต้องอ่านเอง)
พยายามฟัง แล้วจดเล็กเชอร์เข้าว่า
(จดเขี่ยไม่เป็นไร มาจดใหม่สวยๆ ทีหลังยังได้
แต่ถ้าขี้เกียจนักก็พยายามจดให้มันดีๆ ในห้องละกัน เขี่ยมากอาจขี้เกียจอ่านได้
)

ฝึกทำตัวมีระเบียบนิดนึง หัดใช้ปากกาสีมาช่วยเน้นข้อความที่ควรจะจำ
เช่น สูตร E = mc
2 ออกแน่ใช่มั้ย ใช้ปากกาสีชมพูขีดกรอบให้ซะเลย
เวลามาดูอีกที จะได้สะดุดตายังไงละคะ



2. ใช้สีสันช่วยในการอ่าน

อันนี้ก็เหมือนข้อแรกนั่นแหละ แต่ใช้กะการอ่านหนังสือ
เวลาอ่านก็อย่าสักแต่อ่านผ่านๆ ให้อ่านไปด้วย ขีดเน้นข้อความสำคัญไปด้วย
มาอ่านอีกทีก็ดูแต่ตรงที่เน้นสีก็พอ อันนี้ก็พอช่วยได้นิดหน่อย
(เพื่อนที่เก่งๆ เคยแนะนำว่า เวลาอ่านหนังสือให้ลองอ่านออกเสียงเบาๆ ด้วย
มันจะทำให้เราอ่านช้าลง จับรายละเอียดได้มากขึ้น และเหมือนเป็นการอ่าน
2 ครั้งในครั้งเดียว คือฟังที่เราอ่านออกเสียง กะซึมซับจากที่เราอ่านในใจไงฮิ
)



3. ใช้ short note หรือ post it ช่วยในการจำ

ถ้าเห็นหนังสือมันเยอะนัก ก็ลองคัดสูตร หรือข้อความที่เก็งๆ ไว้ว่าน่าจะออก
มาจดใส่กระดาษเล็กๆ แล้วอ่านดู
ในกรณีท่องคำศัพท์ ก็จดใส่ post it แล้วไปแปะหน้าส้วม เวลาทำธุระก็อ่านไป
หรือติดหน้าตู้เสื้อผ้า เวลาแต่งตัวก็ท่องคำศัพท์ไป ค่อนข้างช่วยได้พอสมควรเลยแหละ ลองดูๆ


4. นัดกันอ่านหนังสือเป็นกลุ่ม

ช่วยกันอ่านช่วยกันติว ข้อนี้ชั้นไม่เข้าใจแกสอนหน่อย
คนถูกสอนก็เข้าใจ คนช่วยสอนก็ได้อานิสงส์
(เค้าบอกว่าคนที่ชอบติวเพื่อนจะเก่งนะ เพราะว่าได้ทวนบ่อยๆ ไง)
การอ่านหนังสือเป็นกลุ่มจะช่วยลดความตึงเครียดนิดนึงตรงได้ช่วยกันอ่านช่วยกันติว
ถ้าหิวก็แวะเข้าเซเว่นซื้อขนมมารวมหัวกันจกได้ เครียดมากก็สรวลเสเฮฮากันได้นิดนึง
(แต่อย่าเยอะ)

ข้อนี้เคยลองด้วยแหละ ช่วยได้ในระดับนึง แต่ต้องขึ้นกะกลุ่มเพื่อนด้วย
เพราะถ้าไปอ่านในกลุ่มเพื่อนที่เห็นแก่ตัว แกอ่านไปชั้นก็อ่านไป
ถึงแกจะสงสัยแต่ชั้นก็จะไม่อธิบายให้แกฟัง อันนี้ก็แย่หน่อย

แต่ถ้าเจอเพื่อนชิลๆ เหมือนกันเกินไปก็ไม่ดีอีก เดี๋ยวรวมหัวกันไม่อ่านหนังสือ 555



5. กินคลายเครียด

ไม่รู้ทำไมเหมือนกันเวลาอ่านหนังสือสอบแล้วจะหิวง่ายเป็นพิเศษ
สงสัยเพราะสมองใช้พลังงานมากเกินไป
ถ้าอ่านหนังสือแล้วหิวก็อนุญาตให้กินขนมเล็กๆ น้อยๆ ได้
(แต่อย่ากินมากไป เดี๋ยวจะอ้วนแบบข้าเจ้า )
จะกินแบรนด์กินวีต้าวีฟิตแชนแนลวีอะไรก็กินไปเถอะ
ถ้ากินแล้วคิดว่ามันช่วยให้สมองปลอดโปร่งพอที่จะอ่านหนังสือได้


(จริงๆ ไม่แนะนำเพราะมันก็ไม่มีประโยชน์เท่าไหร่และก็แพง
แต่บางคนกินแล้วรู้สึกไปเองจริงๆ ว่ามันดีขึ้นก็เอา ตามใจเจ้า
เหมือนเวลาสอบจะกินกาแฟเหมือนกัน กินแล้วเหมือนสมองมันสว่างขึ้นอ้ะ
จริงไม่จริงไม่รู้แต่ก็กินตลอด 555)



6. หาอะไรทำคั่นเวลาอ่านหนังสือเป็นพักๆ

อันนี้สำหรับคนสมาธิสั้น ไม่อยากอยู่กับหนังสือสอบนานๆ
ก็ลองแบ่งเวลาเป็นพักๆ เช่นอ่านหนังสือ 30 นาที
ดูละครใน youtube ซัก 10 นาที หรือจะแอบอู้มาแชต เล่นเกม วิธีไหนก็ตามแต่
เป็นการให้รางวัลตัวเองที่อดทนไง แต่ก็ต้องกลับไปอ่านหนังสือด้วยนะ
อย่าให้รางวัลตัวเองเพลินล่ะ



7. วางแผนทำกิจกรรมกับเพื่อนหลังสอบเสร็จ

ส่วนใหญ่เวลาสอบเสร็จจะมีเวลาว่างกันวันสองวัน (ถ้าไม่มีก็เอามันตอนเย็นนั่นแหละ)
อาจจะวางแผนไปเมา
(เอิ๊ก ) ไปร้องคาราโอเกะ ไปดูหนัง ไปกินข้าวมื้อใหญ่ซักมื้อ ยังไงก็ได้
ตอนสอบจะได้มีกำลังใจไง เดี๋ยวสอบเสร็จก็ได้ซิ่งแล้ว ทนหน่อย อีกนิดเดียว
(นี่เหลือสอบอีกวันนึง ข้าเจ้าจะได้ไปร้องเกะแล้ว อุกรี๊ดๆๆๆๆ )



7 ข้อก็พอแล้วแหละ
(เยอะแล้ว ) ก็ขอจบแต่เพียงเท่านี้
(ถ้าใครมีวิธีอื่นก็คอมเมนต์มาได้เน้อ)
อ้อ แต่ก่อนจบขอฝากคำเตือนอีกจิ๊ดนึง



คำเตือน


- วิธีพวกนี้เหมาะสำหรับคนสมองปานกลาง ขี้เกียจหน่อยๆ
(คนสมองดีแต่ขี้เกียจแนะนำให้ขยันซะ
คนสมองไม่ดีหรือสมองปานกลางแต่ขยันไม่ห่วงเท่าไหร่ ยังไงก็รอด -- เค้าคิดว่าคนขยันดีกว่าคนสมองดีนะ
ส่วนคนสมองไม่ดีแล้วยังขี้เกียจ....เอ่อ อันนี้ขอไม่ออกความเห็นละกันนะจ๊ะห์
)


- หลายๆ ข้อที่แนะนำมา ไม่รับประกันผลหลังการทดลอง
กรุณานำไปอะแด๊ปให้เข้ากับนิสัยของตัวเองละกัน
ที่เขียนแต่ละวิธี ส่วนใหญ่ก็คิดว่าน่าจะรู้อยู่แล้ว แต่ไม่ทำ หรือลืม หรือคิดไม่ถึง อะไรก็ตามแต่
เอาเป็นว่าให้ จขบ อู๊ปแบบเนิร์ดๆ ไปเอนทรี่นึงละกันนะคะ 555


(จริงๆ ก็ไม่เชิงหรอก คือส่วนตัวคิดว่ามันก็เป็นวิธีที่รู้ๆ กันอยู่แล้วแหละ
ขึ้นกะว่าทำไม่ทำ หรือนึกไม่ถึงอย่างที่บอก
บางวิธีก็เพิ่งหามาใช้ในมหาลัยเหมือนกัน ได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้างแล้วแต่กันไป
มันก็ต้องลองเองล่ะเนอะ *-*)

ก็ขอให้โชคดีในการสอบทุกท่านค่ะ
และอย่าทุจริตในการสอบนะคะ ผลที่ได้มามันไม่คุ้มถ้าเสียหรอก


ที่มา http://unigang.com/Article/896

Blogger Comment
Facebook Comment

:ambivalent:
:angry:
:confused:
:content:
:cool:
:crazy:
:cry:
:embarrassed:
:footinmouth:
:frown:
:gasp:
:grin:
:heart:
:hearteyes:
:innocent:
:kiss:
:laughing:
:minifrown:
:minismile:
:moneymouth:
:naughty:
:nerd:
:notamused:
:sarcastic:
:sealed:
:sick:
:slant:
:smile:
:thumbsdown:
:thumbsup:
:wink:
:yuck:
:yum:

loading...

Facebook

นิยม

บทความ

loading...